วันที่ 7 ธันวาคม 2565 ผู้สื่อข่าวได้ตระเวนดูบรรยากาศการขายอาหารริมทาง ที่บริเวณถนนศรีรัตน์ ต.รัตนบุรี อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ พบกับร้านๆหนึ่งที่ขายยำรสแซบ ที่มีลูกค้ามายืนรอซึ่งกันอยู่หน้าร้านอย่างคึกคัก จากการสอบถามทราบว่ามาเปิดขายที่นี่ได้เกือบจะ 2 เดือนแล้ว โดยขายยำทุกอย่าง เช่น ยำมาม่า ยำวุ้นเส้น ยำกุ้งสด ยำปลาหมึกสด ยำหอยแครง และปลาแซลมอลย่างราดน้ำยำรสแซบสูตรของคุณแม่ โดยจะเปิดขายทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.00 น. จนถึงเวลา 20.00 น. ของก็จะหมด เป็นอย่างนี้ทุกวัน เพราะของทุกอย่างคัดเตรียมมาอย่างดี ไม่เน้นทำจำนวนมาก แต่เน้นที่คุณภาพมากกว่า
โดยนางสาวบังอร กวางทอง อายุ 36 ปี หรือ น้องแอน ชาวบ้านน้อยสนาม ต.รัตนบุรี อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ได้เปิดเผยว่า ตนกับน้องสาวได้มาเช่าเปิดแผงขายที่นี่ได้เกือบจะ 2 เดือนแล้ว โดยตนขายยำ ส่วนน้องสาวจะขายข้าวโพดอบเนย โดยทั้งหมดจะเป็นสูตรที่คุณแม่ทำขายมานานกว่า 10 ปีแล้ว ตนกับน้องสาวจึงได้พากันมาทำสืบทอดต่อ โดยมีคุณแม่คอยอยู่ช่วยเป็นลูกมือให้ ซึ่งตนกับน้องสาวจะขายคนละอย่าง โดยตนจะขายยำ ส่วนน้องสาวจะขายข้าวโพดอบเนย ซึ่งต่างก็ขายดีเช่นกัน และก็ขายหมดทุกวันภายใน 3 ชั่วโมงเช่นกัน
สำหรับสูตรน้ำจิ้มของทางร้านนั้น จะเป็นสูตรที่คุณแม่ทำขายมานานกว่า 10 ปีแล้ว แต่ภายหลังก็ได้ให้ตนมาทำต่อ ตนจึงได้มาหาทำเลขายที่นี่เพราะมีผู้คนคึกคักดี ซึ่งลูกค้าก็เริ่มจะรู้จักแล้ว และบอกปากต่อปากกัน ทำให้ทุกวันนี้ขายดีจนหมดภายในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งของทุกอย่างตนได้เตรียมมาเพื่อให้ขายหมดทุกวัน ของจะได้สดใหม่ไม่เหลือตกค้าง ลูกค้าก็จะได้ยำที่รสชาติดี เข้ากับสูตรน้ำยำของคุณแม่ ซึ่งลูกค้าติดใจในรสชาติที่แซบจี้ดจ้าดสะใจดี เพราะตนใช้วัตถุดิบที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี ซึ่งยำของตนขายในราคาตั้งแต่ชุดละ 50 บาท จนถึง 100 บาทแล้วแต่ลูกค้าจะสั่ง วันหนึ่งก็จะขายได้ 2 พันกว่าบาททุกวัน
และหลังจากซื้อยำแล้ว ลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะไม่ลืมซื้งของหวานตบท้าย นั่นก็คือ “ข้าวโพดอบเนย” ที่อบร้อนๆในหม้อต้มส่งกลิ่นหอมกรุ่น ซึ่งตั้งร้านอยู่ข้างๆกัน ซึ่งเป็นของนางสาวดวงดาว กวางทอง อายุ 30 ปี หรือ น้องจูน ซึ่งเป็นน้องสาวของร้านยำ โดยน้องจูนได้เปิดเผยว่า ตนมาขายข้าวโพดอบเนยติดกับร้านยำของพี่สาว ซึ่งก็ขายดีทุกวันเช่นกัน เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะซื้อทั้ง 2 อย่าง ก็คือยำกับข้าวโพดอบเนย ซึ่งทั้งยำและข้าวโพดอบเนยก็ล้วนแต่เป็นสูตรของคุณแม่ที่ทำขายมานานกว่า 10 ปีแล้ว มีลูกค้าเก่าๆที่ติดใจในรสชาติของคุณแม่ โดยแต่เดิมขายอยู่ที่บ้านน้อยสนามซึ่งอยู่ห่างไกลชุมชน เมื่อลูกค้ารู้ว่ามาเปิดร้านใหม่ที่นี่ ต่างก็ตามมาอุดหนุนกันอย่างคึกคัก พร้อมกับลูกค้าใหม่ๆในย่านนี้ ทำให้ขายหมดในเวลาอันรวดเร็วไม่เกิน3 ชั่วโมงทุกวัน ซึ่งข้าวโพดอบเนยนั้นตนขายในราคาถ้วยละ 20 บาทเท่านั้น แต่อัดแน่นๆด้วยข้าวโพด พร้อมเครื่องปรุงเนยและนมรสชาติหวานมันเต็มถ้วย ซึ่งทุกวันก็จะขายได้ 200 กว่าถ้วย จนข้าวโพดที่เตรียมมากว่า 50 กก. หมดเกลี้ยงทุกวัน
ซึ่งหากใครได้ผ่านมาบริเวณถนนศรีรัตน์ ต.รัตนบุรี อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ติดกับคลินิกคุณหมอเปิ้ล ก็ลองแวะมาซื้อไปชิมดู แต่ต้องขอบอกก่อนว่า ให้รีบมาหน่อยนะ เพราะหากมาช้าแล้วจะหมด อดของแซบกลับไปบ้านนะจะบอกให้.
ภาพ/ข่าว ชูชัย ดำรงสันติสุข ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สุรินทร์