วันที่ 8 ธ.ค. เวลา 14.20 น. ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 ภายใน สนง.กพ. ครอบครัวรัตนพันธ์ จำนวน 5 คน นำโดย ดร.ศรายุทธ รัตนพันธ์ เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เรื่อง ขอให้หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบความสุจริตและโปร่งใสในพฤติการณ์การดำเนินธุรกิจของ บริษัท เอสชี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
ครอบครัวรัตนพันธ์ ร้องนายกฯ ให้กำชับ กลต. ป.ป.ง. ตรวจสอบความสุจริตและโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจของบ.เอสซี แอสเสท พร้อมกำชับ กกต. จับตาสายสัมพันธ์เอสซี แอสเสท กับพรรคเพื่อไทย เพราะบริษัทเอสซี แอสเสท เป็นบริษัทของตระกูลนักการเมือง จึงอาจจะมีการกระทำผิดที่เกี่ยวเนื่องกับการทุจริตการเลือกตั้งในอนาคตอันใกล้นี้เกิดขึ้นได้เช่นกันและอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงแห่งรัฐ
ข่าวที่น่าสนใจ
เนื่องจากบริษัท เอสชี แอสเสทคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือเรียกว่าบริษัทเอสซีฯ เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัท(มหาชน) จำกัด อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ จดทะเบียน ณ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ชื่อบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยมีกรรมการผู้มีอำนาจประกอบด้วย นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์, นายณัฏฐ์พัฒน์ เอื้อใจ,นายอรรถพล สฤษฏิพันธวาทย์ กรรมการสองในสามคนนี้ลงลายมือชื่อร่วมกันและประทับตราสำคัญ สามารถกระทำการแทนและมีผลผูกพันบริษัท มีวัตถุประสงค์ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยพัฒนาที่ดินและขออนุญาตจัดสรรเป็น หมู่บ้านจัดสรรเพื่อการอยู่อาศัยเพื่อจำหน่ายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างให้แก่บุคคลทั่วไป และมีความเกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองและพรรคการเมือง ได้บริหารและดำเนินกิจการจนทำให้ครอบครัวรัตนพันธ์ ได้รับความเสียหายมายาวนานกว่า 6 ปี สูญเสียบ้านและที่ดินมูลค่ากว่า 200 ล้านบาทเศษ
จึงขอให้ นายกรัฐมนตรี ได้กำชับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เข้าตรวจสอบการกระทำของบริษัทเอสซีฯ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในวงกว้าง และขอให้กำชับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในประเทศไทย เนื่องจากพฤติกรรม การที่บริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ ไม่มีมาตรฐานข้อบังคับในการนำเงินออกจากบริษัทอย่างชัดเจนและเคร่งครัด อาจจะนำไปสู่การเป็นเส้นทางการหลบเลี่ยงเส้นทางการเงิน หรือการนำเงินเข้าหรือออกนอกระบบได้อย่างง่ายดาย อาจะจะเป็นอีกหนึ่งทางที่ใช้ในการดำเนินธุรกรรมทางการเงินอย่างไม่สุจริตทั้งในการประกอบธุรกิจและการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง อีกทั้งขอให้กำชับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เนื่องจากบริษัทนี้มีความสายสัมพันธ์พิเศษกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองทั้งอดีตและปัจจุบันมาโดยตลอด รวมถึงท่าทีที่แสดงออกถึงจุดยืนทางการเมืองของผู้ถือหุ้นใหญ่รวมถึงผู้บริหารในปัจจุบัน บริษัทเอสซีเป็นบริษัทของตระกูลนักการเมืองเลยก็ว่าได้ เมื่อบริษัทนี้มีพฤติกรรมในการดำเนินธุรกิจดังที่กล่าวมาข้างต้น จึงอาจจะมีการกระทำที่ไม่สุจริต ไม่โปร่งใส ซึ่งอาจจะเป็นการกระทำผิดที่เกี่ยวเนื่องกับการทุจริตการเลือกตั้งในอนาคตอันใกล้นี้เกิดขึ้นได้เช่นกันและอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงแห่งรัฐด้วย
ดังนั้นครอบครัวรัตนพันธ์ พร้อมเป็นพยานและเปิดเผยความจริงให้กับประชาชนในสังคมรับทราบถึงพฤติการณ์ในการดำเนินธุรกิจของ บริษัทเอสซีฯ โดยขอรับการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินจากหน่วยงานภาครัฐจากการเปิดเผยความจริงดังกล่าวด้วย และขอความช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรม และฯพณฯ นายกรัฐมนตรี เพื่อให้เราได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างแท้จริง เนื่องจากไม่มีเงินไปวางค่าธรรมเนียมศาล ก็เท่ากับเราไม่ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพียงแค่เพราะไม่มีเงิน ไม่มีทนายความ เวลา 14.25 น. ครอบครัวรัตนพันธ์ ได้ยื่นหนังสือผ่านนายพันศักดิ์ เจริญ ผู้เชี่ยวชาญด้านมวลชน เพื่อให้ดำเนินการในส่วนผู้เกี่ยวข้องต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-