จ.ตราด/เวลา 14.00 น. วันที่ 8 ธ.ค. 2565 นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด พร้อมด้วย นายวิทยากร มณีเนตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานร่วมเปิดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ความร่วมมือทางการค้าระหว่างผู้ประกอบการภาคตะวันออกกับราชอาณาจักรกัมพูชาและสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ซึ่งดำเนินการภายใต้โครงการยกระดับการค้าเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากภาคตะวันออกสู่สากล เชื่อมโยงการค้าชายแดนและ EEC ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ซึ่งสำนักงานพาณิชย์จังหวัดกลุ่มภาคตะวันออก โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตราด จัดกิจกรรมขึ้นระหว่างวันที่ 8 -9 ธันวาคม 2565 โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดเกาะกง รองผู้ว่าราชการจังหวัดโพธิสัต รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระตะบอง พาณิชย์จังหวัดในภาคตะวันออก รวมทั้งผู้ประกอบการของทั้ง 3 ประเทศเข้าร่วมที่ห้องประชุมโรงแรมตราดซิตี้ อำเภอเมืองตราด
นางวรัญญา ถนอมพันธุ์ พาณิชย์จังหวัดตราด กล่าวว่า กิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ความร่วมมือทางการค้าระหว่างผู้ประกอบการภาคตะวันออกกับราชอาณาจักรกัมพูชาและสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนระหว่างราชอาณาจักรไทย โดยกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก กับราชอาณาจักรกัมพูชาและสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ผ่านเส้นทาง R-10 ไทย – กัมพูชา – เวียดนาม เป็นการแสวงหาความร่วมมือและแนวทางการลดข้อจำกัดทางการค้าขยายโอกาสทางการตลาดสินค้าและบริการของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก ทั้งยังเป็นการเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายสินค้าของทั้ง 3 ประเทศ การจัดโครงการยกระดับการค้าเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากภาคตะวันออกสู่สากล เชื่อมโยงการค้าชายแดนและ EEC ในครั้งนี้นอกจากการจัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ทั้งแบบ Onsite และ Online แล้ว ยังมีการเปิดเวทีสัมมนา เชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกสู่นานาชาติ / การสร้างโอกาสความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกันบนเส้นทาง R-10 และโอกาสทางการค้า การลงทุนระหว่าง ประเทศ ไทย กัมพูชา เวียดนาม เชื่อมโยง EEC ผ่านเส้นทาง R-10 อีกด้วย ด้าน ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ นับเป็นเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายสินค้า ของประเทศทั้ง 3 ผ่านกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจ พร้อมทั้งการทำสัญญาซื้อขายระหว่างกันซึ่งนับเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระหว่างประเทศทั้ง 3 ได้เป็นอย่างดี
หลังจากนั้นในเวลา 15.30 น. โดย นางจีรนันท์ วงษ์มงคล อดีดอัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายการพาณิชย์) สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศสถานเอกอัครราชทูตไทย ประเทศกัมพูชา ได้ขึ้นบรรยายพิเศษในหัวข้อ เปิดประตูสู่ตลาดต่างประเทศเพื่อนบ้าน ภายหลัง โควิด – 19 “ซึ่งได้อธิบายถึงศักยภาพของประเทศกัมพูชาที่นักลงทุนไทยเข้าไปลงทุนในธุรกิจด้านการศึกษาและธุรกิจเกี่ยวกับเด็ก และสถานพยาบาล หรือโรงพยาบาลเนื่องจากธุรกิจด้านนี้กำลังเติบโตจากนโยบาลของรัฐบาลที่ต้องการเพิ่มจำนวนประชาชนให้มากขึ้น และโรงเรียนเอกชนที่มีไม่เพียงพอ รวมทั้งโรงพยาบาลเอกชน เพราะธุรกิจด้านนี้ยังมีความต้องการสูง และนักลงทุนไทยมีความเชี่ยวชาญ อย่างไรก็ตามหากจะไปลงทุนต้องรู้ว่าควรจะบุกตลาดในกลุ่มประชากรด้านไหน เพราะ ชาวกัมพูชามีผู้ที่ร่ำรวยมาก และผู้มีรายได้ปานกลางและต่ำ จึงต้องควรมองให้ถูกต้อง อีกทั้งในอนาคตชาวจีนจะกลับมาลงทุนเหมือนเดิม ซี่งจังหวัดชายทะเลล้วนแล้วกลุ่มทุนจีนลงทุนไว้แล้ว แต่ช่วงนี้ปิดั่วคราวมแต่จะกลับมาในอนาคต ซึ่งจะมีชาวจีนมาอยู่อาศัยกว่า 5 ล้านคน จ.ตราดจึงเหมาะที่จะส่งสินค้าโดยเฉพาะอาหารและวัถตุดิบส่งไปจำหน่ายได้ ซึ่งยังมีโอกาสมาก
จักรกฤชณ์ แววคล้ายหงษ์ ผู้สื่อข่าว ประจำ จ.ตราด