วันที่ 28 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณสวยยางพารา บ้านตะกอยอด (ตะ-กอ-ยอด) ต.บ้านชบ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ นางวิไลวรรณ ปัดภัย อายุ 54 ปี ได้พาลูกๆมาติดป้ายไวนิลด่าหัวขโมยที่เข้ามาขโมยขี้ยางไปกว่า 200 กิโลกรัม โดยได้ระบุข้อความในป้ายว่า “ฝากถึงไอ้โจรจัญไร สวนยางพารานี้มีเจ้าของ หัดทำมาหากินเองนะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน ไอ้โจรกระจอก” ซึ่งได้สร้างความแปลกตาให้กับชาวบ้านที่ขับรถผ่านไปมา และชาวบ้านที่โดยขโมยในลักษณะเดียวกันก็ได้เข้ามาสอบถามพร้อมแจ้งข่าวว่า โดนขโมยขี้ยางเช่นกัน ซึ่งก็โดนกันในหลายสวนในคืนเดียวกัน
สำหรับสวนยางพาราดังกล่าวเป็นของ นายพงษ์รัตน์ ปัดภัย อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านภูมิโปน ต.ดม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ โดยสวนยางพาราแห่งนี้มีเนื้อที่กว่า 8 ไร่ มีต้นยางพารา 600 กว่าต้น ซึ่งได้ถูกขโมยแอบเข้ามาเก็บงขี้ยางไปเกือบครึ่งสวน น้ำหนักราว 200 กิโลกรัม หากตีเป็นเงินจะอยู่ที่ราว 5,000 บาท
ทางด้าน นางวิไลวรรณ ปัดภัย อายุ 54 ปี ภรรยาผู้ใหญ่บ้านภูมิโปน อ.สังขะ จ.สุรินทร์ เล่าให้ฟังว่า ตนเองมีสวนยางพาราหมายที่ ส่วนที่ตรงนี้มีเนื้อที่ 8 ไร่ มีต้นยางพาราราว 600 กว่าต้น ซึ่งจะเอาออกไปขายสัปดาห์ละ 1 ครั้ง แต่ละครั้งได้น้ำหนักราว 250 กิโลกรัมขึ้นไป โดยราคายางพาราในตอนนี้ กิโลกรัมละ 25 บาท รวมแล้วแต่ละรอบที่ออกไปขายจะได้ 6,000 บาทขึ้นไป ซึ่งเมื่อคืนวันที่ 27 ก.ค.2564 เวลาราว 23.00 น.ตนและครอบครัวได้พากันเดินทางมากรีดยางพารา และได้สังเกตเห็นว่า น้ำยางที่หยดลงถ้วยมันหายไป ตนจึงรู้ว่าคงโดนขโมยขี้ยางพาราไปแล้ว หายไปเกือบครึ่งสวน โดยที่ตนเองก็คาดเดาสาเหตุในการก่อเหตุครั้งนี้ไม่ได้ ว่าเกิดจากการคึกคะนองของวัยรุ่น หรือราคายางที่กำลังสูงขึ้นกันแน่ ในเมื่อเศรษฐกิจก็มาเป็นเช่นนี้อีก ตนพึ่งเจอครั้งแรก ทำเอาเข่าอ่อนเลย กับยางพาราที่หายไป ตนสู้อดหลับอดนอน และกำลังจะนำเอาออกไปขายเพื่อจะได้มีเงินซื้อปุ๋ยมาใส่ข้าวในนา ตนเองก็อยากจะฝากเตือนเพื่อนบ้านที่ยังไม่โดนขโมย ถึงเราจะระมัดระวังขนาดไหน คนมันจะเอา ยังไงมันก็เอา อยากจะให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นสิ่งผิดปกติก็ฝากแจ้งเจ้าของสวนด้วย ซึ่งนอกจากสวนตนจะโดนแล้ว สวนยางในหมู่บ้านข้างๆก็โดนขโมยหายไปทั้งสวนด้วย
สำหรับ นายสวน นันทา อายุ อายุ 62 ปี ชาวบ้านตะกอยอด ต.บ้านชบ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ เล่าว่า ตนเองมีอาชพรับจ้างกรีดยางและนอนเฝ้าสวนยางด้วย ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมา สวนของน้องชายตน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่นัก มีพื้นที่ 6 ไร่ ได้ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวน มาขโมยเอายางถ้วย (ขี้ยางพารา) ไปจนเกลี้ยง ซึ่งหากนำไปขายจะได้ราว 3,000 บาท ใน 1 เดือนจะสามารถเอาออกไปขายได้ 3 รอบ ตนเองเกิดมากว่า 62 ปี ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน และหากว่าเจ้าขโมยตัวแสบดูอยู่ตนอยากจะบอกว่า อย่ามาขโมยของตน เห็นใจกันหน่อย กว่าชาวสวนยางพาราจะทำเงินได้ ทั้งง่วง ทั้งเหนื่อย.
ภาพ/ข่าว กฤษดากร กีรติธำรงค์เจริญ ผู้สื่อข่าวภมิภาค จ.สุรินทร์