ท่ามกลางกระแสจับตามองว่า “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จะไปต่อทางการเมืองแบบไหน จะไปกับใคร หลังมีแนวโน้มสูงยิ่งว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จะเป็นพรรคใหม่ที่บิ๊กตู่จะไปอยู่ด้วย ภายหลังจากที่มีปัญหาระหองระแหงถึงขั้นแยกวงกับ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ ถึงขั้นที่ก่อนหน้านี้ลุงป้อมออกมายอมรับกับนักข่าวว่าบิ๊กตู่จะไม่อยู่แล้ว จะไปกับพรรคใหม่ โดยจะไม่มีการห้าม การรั้งไว้แต่อย่างใด หนำซ้ำล่าสุดระหว่างเปิดตัว “เจ๊มิ่ง” มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ เข้าพรรค ทางเจ๊มิ่งก็มาเกทับบลัฟแหลกอีกว่าที่เข้าพรรคพลังประชารัฐ กลืนน้ำลายตัวเองที่เคยพูดไว้ในอดีตว่าหัวเด็ดตีนขาดอย่างไรก็จะไม่มาสังฆกรรมกับพรรคนี้ แต่สุดท้ายก็กลับลำเข้าพรรคซุกรักแร้ลุงป้อมเพราะบิ๊กตู่ไม่อยู่แล้ว
อย่างไรก็ตามวานนี้ ( ๘ ธ.ค. ๒๕๖๕) บิ๊กตู่ออกมาให้สัมภาษณ์นักข่าวด้วยท่าทีแปร่งๆ ด้วยคำพูดที่ฉงนชวนงงอยู่เหมือนกัน หลังถูกนักข่าวซักว่าลุงป้อมบอกว่าบิ๊กตู่จะไม่อยู่กับพรรคพลังประชารัฐแล้ว “ไม่อยู่แล้วหรอ ผมเป็นนายกรัฐมนตรีมา พรรคพลังประชารัฐสนับสนุนผมนะ เข้าใจไหม” พอนักข่าวถามต่อว่าจะให้พรรคพปชร.สนับสนุนเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคต่ออีกหรือไม่ บิ๊กตู่ก็ตอบกลับมาว่า “ ก็ยังไม่มีใครส่งอะไรมาไม่ใช่หรอ” พอถูกถามว่าจะไม่เป็นการซ้ำซ้อนกับพรรครวมไทยสร้างชาติหรือ บิ๊กตู่สวนกลับมาว่า “ยังไม่มีคำตอบ” พอถามว่าคนไทยรอคำตอบอยู่ว่านายกฯจะเอายังไง “ ก็เดี๋ยวสิ ผมฟังเสียงประชาชนก่อนสิ” นายกฯระบุ พูดแบบกั๊กๆ ไม่ตอบชัดว่าจะไปอยู่กับพรรคใหม่อย่างรวมไทยสร้างชาติ ตามที่คาดการณ์กันหรือไม่
ฟังคำพูดบิ๊กตู่ผ่านๆก็อาจไม่คิดอะไร แต่ถ้าพิจารณาก็จะเห็นความทะแม่งในคำพูดของบิ๊กตู่อยู่ไม่น้อย จับใจความเหมือนไม่มั่นใจจะไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ อ่านซ้ำๆเหมือนต้องการยืนยันว่าชื่อ “ประยุทธ์” ยังอยากอยู่กับพรรคพลังประชารัฐต่อ แถมท้ายยังบอกว่าต้องฟังเสียงจากประชาชนก่อน เอาละซินายกฯออกลูกแทงกั๊กแบบนี้ สมาชิก ๒ พรรคมีหวังชุลมุน ต้องลุ้นว่าสุดท้ายปลายทางบิ๊กตู่จะเอาอย่างไรไปทางไหนกันแน่ ทั้งๆที่ตอนนี้ ฝ่ายรวมไทยสร้างชาติเตรียมปูพรหมแดงอ้าแขนรับ ต่างจากฝ่ายพลังประชารัฐที่ออกมารุกไล่กดดันให้บิ๊กตู่ไปให้พ้นๆเสียที ทางขึ้นเป็นนายกฯของลุงป้อมจะได้สะดวกโยธิน หนึ่งในส.ส.อาวุโสของพรรคอย่าง วีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ ถึงขนาดเคยบอกให้บิ๊กตู่ยอมเป็นเบอร์ ๒ รับบทพระรองตามลุงป้อม สลับกันทำหน้าที่บ้าง เพราะลุงป้อมมีเวลาอีกบานแต่บิ๊กตู่ติดข้อจำกัดเป็นนายกฯได้อีกแค่ ๒ ปีเท่านั้น แถมถ้าให้บิ๊กตู่เป็นนายกฯก่อน ถึงเวลาหมดวาระเกมเปลี่ยน ไม่มีส.ว. ๒๕๐ คนหนุนหลัง ตอนนั้นลุงป้อมจะเป็นนายกฯก็คงลุ้นลำบาก
- ไม่แน่ใจที่บิ๊กตู่ออกมาพูดแปร่งๆ ฟังดูชอบกลแบบนี้มันเกิดจากอะไร แต่วิเคราะห์จับสัญญาณท่าทีที่เปลี่ยนไป๋ของบิ๊กตู่ในคราวนี้น่าจะมาจาก ประการแรกคืออาจจะยังไม่แน่ใจว่าพรรคน้องใหม่อย่างรวมไทยสร้างชาติ จะมีส.ส.ถึง ๒๕ คน ฝ่ากำแพงเหล็กกฎ ๕ % ของรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๕๙ ไปได้หรือไม่ เพราะถ้าได้ส.ส.ไม่ถึงเกณฑ์ ๒๕ คน ชื่อของบิ๊กตู่จะล่องจุ๊นเสียของไปเลยทีเดียว ตรงนี้ก็ทำให้บิ๊กตู่ต้อง คิดหนัก แม้ล่าสุด “เสี่ยตุ๋ย” พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติจะมั่นใจว่าพรรคได้ส.ส.เกิน ๒๕ คนแน่ แต่ลองไปนับดูจริงๆ ก็สุ่มเสี่ยงเหมือนกันว่าจะถึงเกณฑ์หรือไม่ เอาที่มาชัวร์ๆก็มีแค่ “ปุ้ย” พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ , “ลูกช้าง” สุพล จุลใส ส.ส.ชุมพร พรรครวมพลัง , สายัณ์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ กับก๊วนส.ส.บ้านเดียวกับและส.ส.สงขลาอีก ๒-๓ คน ฯลฯ ที่เหลืออย่าง “แม่เลี้ยงติ๊ก” ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ , “เจ๊โอ๋”รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ , หรือแม้แต่ก๊วนบ้านใหม่ชลบุรีของ “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงงานที่มีราว ๗-๘ คน บวกกันแล้วก็ยังได้แค่สิบกว่าคน ถ้านับรวมกับส.ส.บัญชีรายชื่อตีอย่างสูงว่าได้สัก ๑๐ คน พรรครวมไทยสร้างชาติเต็มที่ก็แค่ ๒๕-๓๐ คน ส่วนที่เหลือก็เป็นแค่ตัวเด็ดในแต่ละเขต ที่ยังไม่รู้ว่าถึงเวลาจริงๆจะชนะได้เป็นส.ส.ได้หรือไม่ แถมการเป็นพรรคใหม่เพิ่งตั้งคนไม่รู้จัก คะแนนพรรคก็ไม่มี เหลือเวลาไม่มาก เพราะฉะนั้นพรรครวมไทยสร้างชาติก็ยังเหนื่อยในการลุ้นตัวเลขให้ได้ส.ส.เกิน ๒๕ คนอยู่ดี อย่าลืมว่าเลือกตั้งรอบใหม่ กติกาเก่ารูปแบบเดิม อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ ถึงตอนนี้ก็ไม่มีใครกลัวใคร ประเด็นนี้แหละที่อาจทำให้บิ๊กตู่ไขว่เขว่ ไม่กล้าประกาศปักธงว่าจะไปรวมไทยสร้างชาติในตอนนี้
ประการที่สองถ้าจะถอยหลังกลับไปอยู่พรรคเก่าลงเรือไปต่อกับพลังประชารัฐ โอกาสยังมีเรื่องนี้ก็ยังพอเกิดขึ้นได้แม้จะเสียรังวัดเสียหน้าหน่อย แต่ดูทรงในอนาคตโอกาสน่าจะสดใสกว่า อย่าลืมว่าในพรรคพลังประชารัฐยังมีส.ส.๘๐-๙๐ คน ต่อให้ถูกดูดไปบ้าง ติดคดีไปบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็ยังเป็นส.ส.เขต มีโอกาสคัมแบ๊กกลับมาเป็นส.ส.สมัยหน้าได้มากกว่า ที่สำคัญพรรคพลังประชารัฐยังมีอำนาจรัฐอยู่ในมือ แกนนำส่วนใหญ่ก็เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ ยังไงเสียก็ยังมีสมุนบริวาร มีกฎหมาย มีอำนาจรัฐอยู่ในมือ ยิ่งใกล้เลือกตั้งมีตัวช่วยข้างกายหลายทาง มีอาวุธครบมือให้หยิบจับ โอกาสที่จะชนะเลือกตั้งก็มีมากกว่ากว่าเป็นผู้สมัครพรรคการเมืองน้องใหม่ คนก็ไม่รู้จัก คะแนนพรรคก็ไม่มี หวังกระแสบิ๊กตู่แบกเพียวๆ ก็คงลำบาก แต่ถ้าบิ๊กตู่ไปต่อกับพลังประชารัฐก็สบาย เพราะรู้ไม้รู้มือกันหมด ส.ส.คนไหนใครเป็นใคร ประเด็นมันอยู่ตรงนี้แหละว่าบิ๊กตู่กับลุงป้อมจะคืนดีกันได้ไหม หลังจากที่ดูเหมือนว่าจะแยกทางกันเดินเสียแล้วจริงๆ ตรงนี้ก็ต้องตามลุ้นกันว่าพี่น้อง ๒ ป. บูรพาพยัคฆ์จะเคลียร์ใจคุยกันได้จบ ถึงขั้นกลับมาจูบปากกันได้หรือป่าว ที่สำคัญต่อให้บิ๊กตู่คืนดีกับลุงป้อมได้จริง แล้วบรรดาลูกขุนพลอยพยักที่อยู่แวดล้อมใกล้ตัวลุงป้อม บรรดาหอกข้างแคร่ที่พันรอบเอวพล.อ.ประวิตรจะยอมไหม บิ๊กตู่จะรับมือกับคนพวกนี้ยังไง ทั้งร.อ.ธรรมนัส ป.ที่ ๔ เพื่อนซี้ตท. ๖ ฯลฯ แต่ละคนล้วนแฟนคลับเอฟซีบิีกตู่ทั้งนั้น
ไม่น่าเชื่อว่าโลกกว้างทางจะแคบจะเกิดขึ้นกับบิ๊กตู่ เป็นนายกฯมาแล้ว ๒ สมัย ผ่านอุปสรรคใหญ่หลวงมาแล้วมากมาย แต่ปลายทางของตัวเองกลับต้องเจอแต่เรื่องปวดหัว อนาคตจะไปต่อยังไงก็ยังไม่รู้ ปัจจุบันจะบริหารรัฐบาลให้ครบเทอมก็ลำบาก เพราะ ๒ พรรคร่วมรัฐบาลสำคัญอย่างภูมิใจไทยกับประชาธิปัตย์ก็เปิดศึกล่อกันเองเรื่องกัญชา วางยาเล่นแง่กันไปมาจนสภาล่มแล้วล่มอีกไม่มีจบ ล่าสุดเป้าหมายปลายทางที่บิ๊กตู่จะลากยาวให้รัฐบาลครบเทอมถึงมี.ค.ปีหน้า ๒๕๖๖ แล้วค่อยยุบสภาก็คงยาก เพราะเล่นล่อกันไปมาเช้าเย็นไม่สิ้นสุด ระหว่างพรรคสายเขียวกับพรรคสีฟ้า เป็นบรรยากาศปลายรัฐบาลทุกยุคทุกสมัยอย่างแท้จริง อนาคตถ้าบิ๊กตู่ยังมุ่งมั่นจะไปต่อทางการเมือง บรรยากาศของรัฐบาลสภาพเรือแป๊ะเที่ยวหน้าก็ไม่ต่างจากนี้ ช่วงชิงผลประโยชน์หักล้างทำลายกัน ยิ่งถ้าบิ๊กตู่ไปกับรวมไทยสร้างชาติเต็มที่ได้ส.ส.เข้ามาก็แค่ที่ ๓ หรือที่ ๔ ในขั้วรัฐบาล โอกาสจะไปวัดกำลังแข่งเป็นนายกฯกับหัวหน้าพรรคคนอื่นก็คงยาก
จะแข่งเป็นนายกฯกับ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล ก็ลำบากเพราะดูทรงยังไงเที่ยวหน้าพรรคเสี่ยหนูมาแน่ ๘๐-๙๐ คน เมื่อวานเจ้าตัวเพิ่งประกาศไม่ขอเป็นทายาทการเมืองใคร จะเป็นใหญ่ผงาดนั่งสร.๑ ก็ขอขึ้นเป็นผู้นำบนตึกไทยคู่ฟ้าด้วยขาของตัวเอง แต่ถ้าภูมิใจไทยชนะขาดไม่มีทางที่ “เสี่ยหนู-ครูใหญ่เน” จะยอมคายเก้าอี้นายกฯให้บิ๊กตู่เป็นแน่ ยังไงหากจะหวังเป็นนายกฯบิ๊กตู่ต้องมีส.ส.ในมือจากพรรคตัวเองไม่ว่าจะเป็นรวมไทยสร้างชาติหรือพลังประชารัฐ หรือรวมกัน ๒ พรรคต้องให้ใกล้เฉียดร้อยก่อน นั้นแหละภูมิใจไทยถึงจะยอม แต่ถึงแม้คุยกันจบพบกันครึ่งทางใช้สูตรนายกฯคนละครึ่งเป็นกันคนละ ๒ ปี ถามว่าบิ๊กตู่จะเอาไหวจะบริหารประเทศไปรอดหรือ เป็นนายกฯเสียงส.ส.ในมือน้อย ตั้งต้นเป็นรัฐบาลก็ไม่วายถูก “ภูมิใจไทย-ประชาธิปัตย์-พลังประชารัฐ” โขกสับไปตลอดทาง อดีตเคยมีอำนาจเหนือ “ลุงป้อม-เสี่ยหนู-จุรินทร์” อนาคตถ้าเลือกเป็นนายกฯเสียงน้อยในรัฐบาลผสม ที่เคยใช้อำนาจจะกลับข้างกัน ลุงป้อมจะขี่คอ เสี่ยหนูจะรุกคืบ อู๊ดด้าจะไม่เกรงใจ ผลประโยชน์ เงินทอง อำนาจไม่เข้าใครออกใคร คนดีเกรดพรีเมี่ยมสีขาวอย่างบิ๊กตู่ จะมาต่อสู้กับพวกเขี้ยวรากดิน “เสือ สิง กระทิง แรด” นักการเมืองอาชีพขนานแท้ได้ไหวหรือ อ้วกแตกรากเลือดแน่นอน ไม่ได้ยุให้บิ๊กตู่วางมือไม่ได้ด้อยค่าว่าพล.อ.ประยุทธ์จะรับมือปัญหาไม่ไหว แต่เอาเรื่องจริงมาพูดคาดการณ์อนาคตไกลๆให้คนไทยได้เห็น ให้พล.อ.ประยุทธ์ตาสว่างได้เท่าทัน ยังมีเวลาอีก ๓ เดือนเศษ บิ๊กตู่ต้องคิดให้ถี่ถ้วน ไตร่ตรองดูให้จงหนัก อยากไปต่อหรือพอแค่นี้
//////////////////