ร่วมจับกุมผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตามหมายจับของศาลอาญา จำนวน 5 ราย

ตม.จว.จันทบุรี บูรณาการร่วม ทหารชค.ทพ.นย.4 , ตร.ชุดปฏิบัติการ 5 ศปอส.ตร. (PCT5), ตร.กก.สืบสวน2 บก.สส.ภ.2 , ตร.กก.สส.ภ.จว.จันทบุรี , ตร. บก.สอท.3 และสภ.โป่งน้ําร้อน จับกุมผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตามหมายจับของศาลอาญา จำนวน 5 ราย

วันที่ 11 ธ.ค.2565 เวลาประมาณ 12.00 น. จนท.ตม.จว.จันทบุรี โดย พ.ต.อ.เฉลิมชนม์แหลมทอง ผกก.ตม.จว.จันทบุรี ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.ศวัส โชติรณพัส รอง ผกก.ตม.จว.จันทบุรี นํากําลัง จนท.ชุดสืบสวน ตม.จว.จันทบุรี ร่วมกับ ทหาร ชค.ทพ.นย.4 , จนท.ตร.ชุด ปฏิบัติการ 5 ศปอส.ตร. , จนท.ตร.กก.สืบสวน2 บก.สส.ภ.2 , จนท.ตร.กก.สส.ภ.จว.จันทบุรี , จนท.ตร. บก.สอท.3 และ จนท.ตร.สภ.โป่งน้ําร้อน ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในความผิดฐาน “ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ , ร่วมกันอั้งยี่ , ร่วมกันเป็นซ่องโจร , ร่วมกันฉ้อโกงโดย แสดงตนเป็นคนอื่น , โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนําเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะ เกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน” จํานวน 5 หมายจับ รวมผู้ต้องหาคนไทย จำนวน 5 คน โดย จนท.ชุดจับกุม ได้ประสานงานร่วมกัน และจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ที่บริเวณ ริมถนนสาธารณะ ม.4 ต.คลองใหญ่ อ.โป่งน้ําร้อน จ.จันทบุรี

พฤติการณ์ในการจับ กล่าวคือ จนท.ชุดจับกุมดังกล่าวข้างต้น ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธ์ุ ผบช.สตม. ,พล.ต.ต.มานัด ศรีวงษา ผบก.ตม.3 และได้ประสานการปฏิบัติงานกับศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชุดปฏิบัติการที่5 (PCT5) นำโดย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ หัวหน้าชุด ฯ ทำการสืบสวนขยายผล กลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในหลายรูปแบบ ที่ก่ออาชญากรรมโทรมาหลอกลวงผู้เสียหายในประเทศไทย และลักลอบตั้งออฟฟิศที่ทำการอยู่ที่ประเทศกัมพูชา โดยมีกลุ่มคนจีน/ไต้หวัน ร่วมกับคนไทยที่แอบหลบหนีออกนอกอาณาจักรไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ เพื่อข้ามฝั่งไปทำงานที่ประเทศกัมพูชา แล้วเป็นสมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์มาหลอกลวงคนไทยและคนต่างชาติซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้างทั่วประเทศ ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจ และความเป็นอยู่ของประชาชนจำนวนมาก จึงได้สั่งให้มีการดำเนินการสืบสวนปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพื่อให้ประชาชนมีความสงบสุขต่อไป

จากการสืบสวนร่วมกันคดีนี้ได้ทำการสืบสวนจนกระทั่งทราบว่า กลุ่มคนร้ายได้ตั้งแก๊งอยู่ที่ประเทศกัมพูชา โทรศัพท์มาหลอกลวงผู้เสียหายในประเทศไทยหลายคน โดยคนร้าย อ้างเป็นตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี หลอกว่ามีคนเอาเอกสารของผู้เสียหายไปเช่ารถยนต์ คันพบยาเสพติด ผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้อง แล้วให้มีการพูดคุยผ่านไลน์เพื่อส่งเอกสารปลอมหลอกลวงผู้เสียหายว่ามีส่วนเกี่ยวข้องต้องโอนเงิน มาตรวจสอบหรือให้ติดตั้งแอป “DSI” เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ผู้เสียหายหลงเชื่อทำตามคนร้าย จนกระทั่งผู้เสียหายสูญเสียเงินในบัญชีโอนออกไปไม่รู้ตัว ผู้เสียหายมีจำนวนหลายรายเป็นเงินหลายล้านบาท พนักงานสอบสวนกก.1 บก.สอท.3 ได้รับคำร้องทุกข์ไว้ดำเนินคดีกับคนร้ายตามกฎหมาย และได้ขออนุมัติศาลอาญาให้ออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องดังกล่าวไว้เเล้ว

ต่อมา จนท.ชุดจับกุม ดังกล่าวข้างต้น ได้รับแจ้งจากสายลับขอปิดนาม ว่าผู้ต้องหาตามหมายจับ จะลักลอบเดินทางกลับเข้ามาใประเทศไทย จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น และร่วมกันวางแผนเฝ้าสังเกตุการณ์ตามสถานที่ต่างๆที่เชื่อว่าผู้ต้องหาจะลักลอบเดินทางกลับเข้ามาเพื่อจะได้จับกุม

ต่อมา จนท.ชุดจับกุม ได้พบผู้ต้องหาทั้งหมด 5 ราย สวมใส่เสื้อผ้า และมีรูปร่างลักษณะตรงตามที่สายลับแจ้งมา จนท.ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงหมายจับของศาลอาญาที่ 2705/65 , 2711/65, 2715/65, 2716/65 และ2719/65 ลงวันที่ 4 ธ.ค.65 ให้ผู้ต้องหาทั้ง 5 รายดู และแจ้งข้อความในหมายจับให้ทราบและเข้าใจข้อความตามหมายจับดังกล่าวดีแล้ว ผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันกับบุคคลตามหมายจับดังกล่าวนี้จริง และไม่เคยถูกจับในคดีนี้มาก่อน จนท.ชุดจับกุม จุงแจ้งให้ทราบว่าจะต้องถูกจับกุมตามหมายจับ และได้ร่วมกันควบคุมตัวผู้ถูกจับทั้ง 5 คน นําส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.สอท.3 เพื่อดําเนินคดีตามกฎหมาย และสืบสวนขยายผลต่อไป

(ภาพถ่าย ตำรวจ ตม.)

สมเศียร โชติสนิท ผู้สื่อข่าว ประจำ จ.จันทบุรี

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"อดีตสว.สมชาย" แฉโพย ฮั้วเลือกสว. ชี้เป็นหลักฐาน ดีเอสไอ เร่งนำลากไส้ตัวการใหญ่
‘ทักษิณ’ ปลื้มลงพื้นที่นราธิวาส ในรอบ 19 ปี ปชช.รอต้อนรับ
นายกฯ รับรายงาน ตร.ไทย-กัมพูชา ร่วมมือทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฝั่งปอยเปต ช่วยเหยื่อคนไทยนับร้อย หลุดพ้น
“เทพไท” เชื่อ 44 อดีตสส.ก้าวไกล ลงชื่อรื้อ แก้ 112 ถูกตัดสิทธิ์ กระทบหนักยิ่งกว่าถูกยุบพรรค
"หม่องชิต ตู่" ส่งกำลังทหารกว่า 150 นาย คุมเข้มเคเคปาร์ค จับหัวหน้าแก๊งคอลเซนเตอร์ กวาดต้อน 450 เหยื่อต่างชาติ
ใต้ป่วนต่อเนื่อง คนร้ายลอบวางบึ้มหน้าร้านสะดวกซื้อ บันนังสตา ตร.เจ็บ 7 นาย-ชาวบ้านอีก 4 เช้านี้บึ้มรถยนต์อีก หน้าห้างสนามบินนราฯ
พรรคไทยก้าวหน้า แถลงขอโทษปชช. แจงคดี “สส.ปูอัด” ขอรอผ่านชั้นอัยการ ก่อนตัดสินใจขับพ้นพรรค
"นิด้าโพล" คนไทยส่วนใหญ่ เชื่อ "เพื่อไทย-ภูมิใจไทย" ขัดแย้งจริง แต่เคลียร์จบได้
มาแน่ เช็กรายชื่อ 39 จังหวัด รับมือพายุฝนถล่ม ลมแรง กทม.โดนด้วย ร้อนสุด 37 องศา
"ตม." งัดข้อมูลซัด "โรม" หน้าหงาย ระบบ Biometrics บันทึกข้อมูลทุกคน ระบบ PIBICS คุมคนต่างด้าว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น