“บิ๊กโจ๊ก” โยนถาม ผบช.น. ปมตั้งข้อหา รปภ. เป็นคนดูแลผับจินหลิง

“บิ๊กโจ๊ก” โยนถาม ผบช.น. ปมตั้งข้อหา รปภ. เป็นคนดูแลผับจินหลิง

ตลอดทั้งวันสื่อมวลชนเดินทางไปปักหลักรอที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังมีรายงานว่า พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้ารายงานความคืบหน้าคดีกลุ่มทุนจีนสีเทากับพลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยรองโจ๊กเดินทางเข้ามาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อเวลาประมาณบ่ายโมงเศษๆ

ผ่านไป 3 ชั่วโมง เวลาประมาณ 16.30 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ลงมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเกี่ยวกับความคืบหน้าคดีกลุ่มทุนจีนสีเทา ว่า คดีดังกล่าวมีความคืบหน้าไปมาก และใกล้จะสรุปสำนวนบางข้อหาให้พนักงานอัยการส่งฟ้องได้เร็วๆ นี้ โดยเหลือเพียงหลักฐานเส้นทางการเงินจากธนาคารมาประกอบสำนวนเท่านั้น เพื่อนำมาพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหากับ นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ ตู้ห่าว ฐานฟอกเงิน พร้อมยืนยันว่า จะสามารถแจ้งข้อกล่าวหานี้ได้อย่างแน่นอน

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนดำเนินคดีความผิดเกี่ยวกับนอกราชอาณาจักรนั้น เช่น การลำเลียงยาเสพติดจากนอกประเทศเข้ามา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่ปรากฏหลักฐานเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว เนื่องจากคดีนี้จะต้องมีการทำความผิดทั้งในและต่างประเทศชัดเจนท โดยเฉพาะการโอนเงินไปยังบุคคลอื่นในต่างประเทศ แต่หากพบการสืบสวนพบพยานหลักฐานเชื่อมโยงในความผิดดังกล่าว ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างแน่นอน รวมถึงคดียาเสพติด ที่กลุ่มทุนจีนเหล่านี้เรียกว่า “แฮปปี้วอเตอร์” พบว่า เป็นยาเสพติดที่ผสมกันขึ่นมาเองอย่างง่ายๆ ในประเทศ โดยที่ไม่ได้นำเข้า จึงยังถือว่า เป็นความในราชอาณาจักรเท่านั้น

ขณะกรณี นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง ออกมาระบุว่า ไม่มั่นใจการทำงานของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ นั้น ยืนยันว่า ไม่คิดน้อยใจ และไม่โกรธเคือง นายชูวิทย์ เพราะคดีนี้ ไม่สามารถทำได้ด้วยความรู้สึกได้ แต่จะต้องทำไปตามพยานหลักฐานที่ได้จากการสืบสวนสอบสวน อีกทั้งหาก นายชูวิทย์ มีพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีเพิ่มเติม และเป็นประโยชน์ ก็สามารถนำมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการพิจารณาได้ เพราะที่ผ่านมาก็เคยนำข้อมูลของ นายชูวิทย์ มาสืบสวนแล้ว เช่น การจัดตั้งมูลนิธิของกลุ่มคนจีน ที่ใช้เป็นหลักฐานในการขอต่อวีซ่าอยู่ในไทยได้นานขึ้น

สำหรับกรณีที่ นายชูวิทย์ ออกมาระบุว่า ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหากับพนักงานรักษาความปลอดภัยจินหลิงผับ ว่า เป็นผู้ดูแลสถานที่นั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยอมรับว่า มีการตั้งข้อหาจริง แต่ในรายละเอียดจะต้องไปสอบถามกับพลตำรวจโทธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เนื่องจากเป็นผู้เข้าไปจับกุมวันเกิดเหตุ เพราะจะมีข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลสถานที่มากกว่า แต่ตัวเองเพิ่งเข้ามารับหน้าที่กำกับการสืบสวนหลังจากจับกุมเสร็จสิ้นแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สรรเพชญ" จี้รัฐเร่งแก้หนี้ครัวเรือน ชี้แนวปฏิบัติยังล่าช้า ควรปรับนโยบายให้ชัดได้ผลเป็นรูปธรรม
"ตร.ไซเบอร์" รวบบัญชีม้าแก๊งเงินกู้ออนไลน์ ลวงนักเตะทีมชาติสูญ 2.7 ล้าน
ผบ.ทร.ร่วมโต๊ะทานอาหารกับนักเรียนจ่า เน้นย้ำ ปกครองเที่ยงธรรม ปลูกฝังรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
รวมพลคนสายบุญ ร่วมกับ สบายดีช่อผกาอินเตอร์กรุ๊ป จัดกิจกรรมปันรอยยิ้มให้น้อง ปี 3
"สาวอบต.บุรีรัมย์" ช็อก ตร.ตามตัวถึงบ้าน ปมรับเงินโอน "เจ๊อ้อย" 39 ล้าน แจงยิบไม่รู้จักมาก่อน
ตำรวจนำตัว "เต้ย" มือตบ "ทนายธรรมราช" ฝากขัง ยันไม่มีคนจ้างแค่บันดาลโทสะ
"พิชัย" นำทีมพณ.หารือ "หอการค้า-บริษัทธุรกิจญี่ปุ่น" ชี้ชวนขยายลงทุนในไทย
"ทนายเดชา" เตือนนักร้องเรียน ระมัดระวังปาก ร้องเรื่องไม่มีสาระ กลั่นแกล้งคนอื่น จนเป็นเหตุให้ถูกทำร้าย
กทม.จ่อบังคับฝังชิป "สุนัข-แมว" ห้ามเลี้ยงเกินจำนวนที่กำหนด พร้อมคุมสุนัขพันธุ์ดุเป็นพิเศษ
"ดร.ศักดิ์ณรงค์" จี้รบ.ต้องยกเลิก MOU 44 โดยเร็ว หวั่นเสียอาณาเขตอธิปไตย ซ้ำรอยประวัติศาสตร์เขาพระวิหาร

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น