“ผู้ว่าฯ โคราช” สั่งคุมเข้มโควิด-19 หวั่นระบาดหนักช่วงปีใหม่

"ผู้ว่าฯ โคราช" สั่งคุมเข้มโควิด-19 หวั่นระบาดหนักช่วงปีใหม่

วันนี้ 14 ธันวาคม 2565  ที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดนครราชสีมา และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ เพื่อติดตามผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา และวางมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ก่อนเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง

ข่าวที่น่าสนใจ

นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ เปิดเผยว่า ขณะนี้ ทางจังหวัดพยายามเร่งรณรงค์การฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุด ที่ผ่านมา กระจายฉีดวัคซีนลงไปทั่วทุกพื้นที่ทุกโรงพยาบาล และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.) ทั้ง 32 อำเภอที่อยู่ใกล้กับพี่น้องประชาชน ยืนยันว่า มีวัคซีนเพียงพอ ทั้งในกลุ่มเด็กเล็ก กลุ่มเด็ก กลุ่มผู้สูงอายุ 608 กลุ่มผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งวัคซีนจะทำให้ร่างกายแข็งแรง มีภูมิคุ้มกันโรค แต่หากจำเป็นต้องไปอยู่ในที่สาธารณะ มีผู้คนจำนวนมาก หรือพื้นที่เสี่ยง แนะนำให้สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง หมั่นล้างมือด้วยแอลกอฮอล์บ่อยๆ เพื่อให้ปลอดภัยเพิ่มยิ่งขึ้น

ขณะนี้ข้อมูลมีผู้ติดเชื้อโควิดสูงขึ้นจริง แต่การรองรับของสถานพยาบาล หรือโรงพยาบาล ยังเพียงพอที่จะดูแลทุกคนที่จำเป็นต้องได้รับการดูแล โดยโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลยังไม่ถึงขั้นต้องเตรียมเปิดโรงพยาบาลสนามไว้รอ อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยที่เสียชีวิตส่วนใหญ่จะไม่ได้รับวัคซีน และอีกส่วนรับแค่เพียง 2 เข็ม ยังไม่ได้รับเข็มกระตุ้น จึงอยากฝากพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน และผู้ที่มีความเสี่ยงสูง กลุ่ม608 และผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือได้รับวัคซีนมานานแล้ว ขอให้ปรึกษาแพทย์เพื่อรับวัคซีนเข็มกระตุ้นโดยเร็ว

ด้ายนายแพทย์วิญญู จันทร์เนตร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ข้อแนะนำสำหรับพี่น้องประชาชนที่จะเดินทางท่องเที่ยวและกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลปีใหม่ ต้องได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยเฉพาะในกลุ่ม 608 ซึ่งเป็นกลุ่มที่พบอัตราเสียชีวิตมากที่สุด และควรได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นก่อนเทศกาลปีใหม่ นอกจากนี้ช่วงก่อนการเดินทางควรหลีกเลี่ยงการไปอยู่ในสถานที่เสี่ยงต่างๆ และสถานที่ที่มีคนรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก อย่างน้อย 1 สัปดาห์ โดยหากมีอาการผิดปกติ เป็นหวัด ไอ เจ็บคอ ควรตรวจหาเชื้อ และหากผลการตรวจเชื้อพบผลเป็นบวก ควรงดการเดินทาง ซึ่งจุดนี้ ทุกคนควรมีความซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่น หากติดเชื้ออย่าปกปิดอาการ และในระหว่างการเดินทาง ควรปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ด้วยการการสวมใส่แมส ล้างมือ เว้นระยะห่าง รวมถึง เมื่อเข้าใกล้ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย หรือเด็ก ควรสวมใส่แมสตลอดเวลา เพื่อไม่นำเชื้อไปแพร่ให้กับกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"นายกฯ" ขออย่าโยงการเมือง ปม DSI เลื่อนรับคดี "ฮั้วเลือก สว." ขอให้ยึดตามกม.
“บังแจ็ค” ทิ้งไพ่! ปล่อยคลิปเสียงคุย “เบิร์ด” จี้ถาม ทำไมไม่ช่วย “แตงโม”
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) 'หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์' ประชันแข้งเหล็กในเซี่ยงไฮ้
"นบ.ยส.24" กดดันผู้ลักลอบขนยาเสพติดหนัก ยึดยาบ้าได้อีก 4 แสนเม็ด
ป่วนปัตตานี จนท.ระดมกำลังไล่ล่า "โจรใต้" ลอบวางบึ้ม "ทหารพราน" เจ็บ 2 นาย
"ธรรมนัส" ลั่นขออย่าดึงไปเกี่ยว “ทักษิณ-เนวิน” ใครพาดพิง ระวังเจอสวนกลับ
'บอร์ดดีเอสไอ' เลื่อนโหวต ปมฮั้วเลือกสว. เป็นคดีพิเศษ ลุ้นนัดหน้า 6 มี.ค.นี้
ทรัมป์ขู่เก็บภาษีแคนาดา-เม็กซิโกหลังเลื่อน 1 เดือน
สลด "ทางด่วน" เกาหลีใต้ ถล่ม ดับ 4 "บินเกาหลี" วกกลับด่วน หวั่นบึ้ม
รอดนอนคุก ศาลให้ประกันตัว "อัจฉริยะ" คดีละเมิดอำนาจศาล

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น