เฟดประกาศขึ้น "ดอกเบี้ย" ครั้งที่ 7 ในปีนี้ที่ 0.5% สู่ระดับ 4.25-4.50% สูงสุดในรอบ 15 ปี เพื่อดึงเงินเฟ้อให้กลับมาอยู่ที่ 2%
ข่าวที่น่าสนใจ
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐหรือ เฟด มีมติเป็นเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตรา “ดอกเบี้ย” ระยะสั้น 0.50% สู่ระดับ 4.25-4.50% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอก เบี้ยเป็นครั้งที่ 7 ในปีนี้
เจอโรม พาวเวล ประธานเฟดเปิดเผยกับสื่อมวลชน ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินวานนี้ว่า ไม่ว่าเราจะอยู่ภายใต้สถานการณ์ใดก็ตาม เฟดจะไม่เปลี่ยนแปลงเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% เราจะใช้เครื่องมือทั้งหมดที่มีอยู่ เพื่อดึงเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายที่ระดับดังกล่าว และจะไม่มีการปรับลดอัตราดอก เบี้ยในช่วงนี้
พร้อมกล่าวว่า อัตราดอก เบี้ยที่สูงขึ้น จะชะลอผู้บริโภคและธุรกิจจากการใช้จ่าย และจะทำให้ราคาสินค้าต่าง ๆ ลดลง ซึ่งขณะนี้อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงจากร้อยละ 9 สู่ร้อยละ 7.1 แล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เฟดจะสามารถบรรลุเป้าหมายในการพยุงให้เศรษฐกิจชะลอตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปหรือซอฟต์แลนดิ้งหรือไม่ นายพาวเวลกล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงอยู่ในภาวะที่สามารถหลีกเลี่ยงการถดถอยได้
สำหรับการปรับขึ้นดอก เบี้ยทั้ง 7 ครั้งในปีนี้ เฟดปรับขึ้นอัตราดอก เบี้ย
- 0.25% จำนวน 1 ครั้ง
- 0.50%จำนวน 2 ครั้ง
- 0.75% จำนวน 4 ครั้ง
ส่งผลให้อัตราดอก เบี้ยรวมทั้งหมดในปีนี้อยู่ที่ 4.25%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง