“สธ.” วอนสภา เร่งลงมติ พ.ร.บ.กัญชา เพื่อผลักดันให้เกิดวิจัย-พัฒนาอย่างรวดเร็ว

ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ขอบคุณ ส.ส. รับพิจารณาพ.ร.บ. กัญชา วอนเร่ง ลงมติ เพื่อผลักดันให้เกิดวิจัยและพัฒนาอย่างรวดเร็ว

เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2565 นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์ กล่าวขอบคุณสภาผู้แทนราษฏรที่รับพิจารณา (ร่าง) พระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ….. เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2565 และขอให้สภาเร่งพิจารณา พ.ร.บ. ฉบับนี้ ให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว เพื่อเกิดการบังคับใช้กฏหมายที่มีประสิทธิภาพ และส่งเสริมให้เกิดการวิจัยอย่างกว้างขวาง พร้อมกับเน้นย้ำถึงมาตรการในการดูแลความปลอดภัยหลังจากปลดพืชกัญชา กัญชงออกจากรายการยาเสพติด

ข่าวที่น่าสนใจ

นพ.ประพนธ์ กล่าวว่า การรับพิจารณาพ.ร.บ. กัญชา แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญของการพัฒนาพืชสมุนไพรมาใช้ประโยชน์ทางสุขภาพ ซึ่งจะก่อให้เกิดความมั่นคงทางสุขภาพและเศรษฐกิจในระยะยาว ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขมีความตั้งใจว่าจะให้การพัฒนากัญชา กัญชง เป็น platform ในการพัฒนาสมุนไพร และเป็นผลิตภัณฑ์เรือธง หรือ flagship product ที่จะนำผลิตภัณฑ์สมุนไพรอื่นๆ สู่เวทีโลก

เมื่อถามว่า ประเด็นความรีบร้อนในการปลดพืชกัญชาออกจากยาเสพติดนั้น นพ.ประพนธ์ กล่าวว่า สธ. มีการดำเนินงานที่เป็นขั้นตอน เริ่มจากปี 62 ที่อนุญาตให้นำมาใช้เป็นยา และใช้ศึกษาวิจัย ในขณะเดียวกันก็มีการทำงานคู่ขนาน เพื่อให้เกิดการส่งเสริมให้เกิดการนำมาใช้ประโยชน์ที่ปลอดภัย พบว่า สารเมาหรือ THC ซึ่งเป็นสารที่ทางการแพทย์มีความกังวลว่าหากใช้ไม่เหมาะสมจะทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งการสำรวจพืชกัญชาในขณะนั้นก็พบว่าสาร THC ในใบ ราก ต้น กิ่งก้านมีน้อยมาก และภูมิปัญญาไทยส่วนใหญ่ก็ใช้ส่วนที่ไม่ใช้ดอกดูแลสุขภาพ จึงปลดส่วนที่ไม่ใช่ดอกและเมล็ดออกจากรายการยาเสพติด หลังจากนั้นเราก็ติดตามการดำเนินงานมาตลอด พบว่า การศึกษาวิจัยเราเป็นไปอย่างล่าช้า ส่วนหนึ่งก็อาจจะมาจากการระบาดของโควิด-19 แต่หากเทียบกับประเทศอื่นก็เป็นไปได้ช้า เพราะการขออนุญาตนำยาเสพติดมาทำวิจัยต้องขออนุญาตหลายกระบวนการ ทำให้เสียเวลามาก รวมถึงการปลูกของเกษตรกรก็ต้องมีความร่วมมือกับภาครัฐ ต้องผ่านกระบวนการขออนุญาต การใช้ยาก็มีระบบที่ต้องได้รับอนุญาตให้จ่ายยากัญชาได้ก่อน กว่าจะได้จ่ายยาก็ใช้เวลานาน

 

“สามจุดนี้ เป็นจุดสำคัญที่ทาง สธ. และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเห็นตรงกันว่า ต้องทำให้ขั้นตอนสะดวกขึ้น เพื่อให้สามารถทำวิจัย ผลักดันให้มีผลิตภัณฑ์ยาอย่างรวดเร็ว อันเป็นส่วนหนึ่งในนโยบาย Health for wealth ของกระทรวง และสอดคล้องกับร่าง พ.ร.บ. ที่สภากำลังพิจารณาอยู่ในตอนนี้ ว่าจะมีคณะกรรมการวิจัยระดับชาติด้วย ส่วนที่กังวลเรื่องความปลอดภัย ในฐานะที่กระทรวงเป็นผู้ริเริ่มนโยบายนี้ เราก็มีการทำงานกับส่วนราชการต่างๆ ที่จะดำเนินการให้เกิดการใช้ประโยขน์บนฐานความปลอดภัย ด้วย 5 มาตรการ คือ การส่งเสริมการนำมาใช้ทางการแพทย์และสุขภาพ การคัดเลือกการรักษาด้วยยากัญชาที่มีประสิทธิผล การป้องกันการนำไปใช้ในทางที่ผิด การบังคับใช้กฏหมายให้มีประสิทธิภาพ และการติดตามกำกับการดำเนินงานผ่านรูปแบบของคณะกรรมการร่วมของกระทรวง จึงนำเรียนมาเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบ ว่าทางกระทรวงมีมาตรการที่เราดำเนินการ แต่ถ้าจะให้การควบคุมและส่งเสริมทำได้ดีกว่านี้ การมีพระราชบัญญัติคือคำตอบ เพราะจะทำให้เกิดการบูรณาการ การทำงานของทุกส่วนของประเทศ ที่จะดำเนินการไปในทิศทางเดียวกัน” นพ.ประพนธ์ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น