“ดีอีเอส-สตช.” ทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ เตรียมขยายผลเอาผิด จนท.เอี่ยว

"ดีอีเอส-สตช." เปิดปฏิบัติการทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ เตรียมขยายผลเอาผิด เจ้าหน้าที่เอี่ยว

วันที่ 15 ธ.ค. 65 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ และสังคม พร้อมด้วย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร ,พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. และคณะทำงาน ร่วมกันแถลงข่าวผลการปิดล้อมตรวจค้น 6 จุดเป้าหมาย โดยมีจุดเชื่อมต่อชายแดน 1 จุด ในจังหวัดสระแก้วและจังหวัดจันทบุรี ตามยุทธการ SHUT DOWN กวาดล้างจับกุมบัญชีม้าทั่วประเทศ

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ขอชื่นชมสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เอาจริงเอาจังในการปราบปรามผู้กระทำความผิดอย่างเต็มที่ ซึ่งสามารถจับกุมได้ทั้งบัญชีม้า และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการใช้อินเทอร์เน็ต ตลอดจนผู้ที่ลักลอบนำสัญญาณไปขายให้ประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงขบวนการที่หลอกลวงทั้งหมด ซึ่งจับกุมและดำเนินคดีไปได้จำนวนมาก ต่อไปถ้ามีการป้องกันการใช้งานซิมโทรศัพท์มือถือ สายอินเทอร์เน็ตที่ข้ามไปประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ถูกต้อง อาชญากรรมเหล่านี้จะหมดไป

 

ทั้งนี้ ในกรณีมีเจ้าหน้าที่บางคนอำนวยความสะดวกหรือสนับสนุนผู้กระทำผิด เพื่อหวังผลตอบแทน ถ้าในส่วนบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ หากมีเจ้าหน้าที่ลักลอบนำสัญญาณอินเทอร์เน็ตไปขายให้กับประเทศเพื่อนบ้านนั้นมีความผิด ถือเป็นการทุจริตตามกฎหมาย ซึ่งจะส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานและหาข้อเท็จจริงก่อนจะส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีต่อไป

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ด้าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่ผ่านมามีผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์ ถูกกลุ่มคนร้ายชักชวนหลอกให้ลงทุน โดยพฤติการณ์กลุ่มคนร้ายได้เปิดเว็บไซด์ชื่อ AMATA ชักชวนให้ลงทุน โดยมีการเสนอผลตอบแทนในจำนวนที่สูงกว่าที่สถาบันการเงินทั่วไปให้ได้ ผู้เสียหายหลงเชื่อและได้นำเงินลงทุน ต่อมาเมื่อครบกำหนดกลับไม่ได้ผลตอบแทนตามที่ตกลง ผู้เสียหายพยายามขอเงินคืน แต่กลับให้นำเงินมาลงทุนเพิ่มเติมอีก ส่งผลให้เกิดความเสียหาย จำนวน 257,115.16 บาท จึงได้แจ้งความร้องทุกข์ผ่าน www.thaipoliceonline.com ซึ่งต่อมาชุดสืบสวนตรวจสอบพบมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับเครือข่ายอินเตอร์เน็ตของบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (NT) โดยมีนายมโนรม สม ( MR.MONOROM SOM ) ชาวกัมพูชา เป็นผู้ยื่นคำขอใช้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสำหรับองค์กร จากการตรวจสอบพบมีค่าบริการรายเดือนกว่า 200,000 บาท เป็นการขอใช้บริการภายในประเทศ แต่เมื่อลงพื้นที่ตรวจสอบกลับไม่พบจุดติดตั้งอินเตอร์เน็ตภายในประเทศดังกล่าวแต่อย่างใด จึงตรวจสอบทางเทคนิคพบว่ามีการเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตข้ามไปฝั่งประเทศกัมพูชา สอดคล้องกับข้อมูลของ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด ไม่พบว่ามีสัญญาให้ใช้บริการระหว่างประเทศ ซึ่งเชื่อว่ามีการลักลอบนำสัญญาณอินเตอร์เน็ตจากประเทศไทยเข้าไปใช้ในกัมพูชา

 

 

อย่างไรก็ตามปฏิบัติการดังกล่าวจะนำไปสู่การตัดวงจรขบวนการคอลเซ็นเตอร์ให้ได้มากที่สุด โดยเน้นในเรื่องของการตัดวงจร ซิม-สาย-เสา ซึ่งในส่วนของซิม มีการปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นกวาดล้างโดยตรวจยึดซิมโทรศัพท์มากกว่า 2 แสนเบอร์ ส่งผลให้สถานการณ์ลดลงไปกว่าร้อยละ 25 แต่สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือเรื่องของสายและเสา ซึ่งหากสามารถตัดสัญญาณที่มีการลักลอบลงก็จะทำให้สถานการณ์คลี่คลายลง เพราะขบวนการดังกล่าวทำมานานกว่า 12 ปี อีกทั้งมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องโดยขั้นตอนต่อไปทางบช.สอท. ร้องทุกข์ต่อบก.ปปป. ให้ดำเนินการ หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการตามมาตรา 157 ต่อไป และหากพบว่าใครมีส่วนรู้เห็นต่อการกระทำความผิด เป็นตัวการในการสนับสนุนก็จะต้องดำเนินการตามม.83 อีกด้วย

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน
สถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองฯ ชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น