เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มีจดหมายถึงนายทะเบียบพรรค ปชป.เพื่อขอลาออกจากสมาชิก ลงวันที่ 16 ธันวาคม ระบุว่า เมื่อปี 2544 มีพรรคการเมืองที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นมาใหม่และได้นำเสนอนโยบายด้วยวิธีคิดที่แปลกใหม่ทำให้เป็นที่สนใจของพี่น้องประชาชน จึงทำให้พรรคประชาธิปัตย์ที่มักจะประกาศด้วยความภาคภูมิใจจนน่าจะเป็นสูตรสำเร็จว่าเป็นพรรคการเมืองที่เก่าแก่ ผลิตนักการเมืองที่มีชื่อเสียงมาแล้วหลายคนต้องประสบต่อการพ่ายแพ้การเลือกตั้งทั่วไปในปีนี้เอง
“อันวาร์ สาและ” ส.ส. 4 สมัย ยื่นลาออกประชาธิปัตย์แล้ว ด้วยเหตุผลอุดมการณ์พรรคไม่เหมือนเดิม เตือนเลิกโกหกบิดเบือนกลับมายืนอยู่บนความเป็นจริง ขณะย้อนคำสัมภาษณ์ “นิพนธ์” เผยที่ผ่านมาให้ร้ายพรรคมาตลอด วันนี้ใกล้เลือกตั้งก็ขอให้ไปเส้นทางที่ชอบ
ข่าวที่น่าสนใจ
กระผมเองเป็นคนปัตตานี จึงมีความคิดไม่แตกต่างจากคนภาคใต้ทั้ง 14 จังหวัด คือเลื่อมใสและศรัทธาในอุดมการณ์ของพรรคที่บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งได้ให้ไว้ จึงได้เสนอตัวลงสมัครและได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.เมื่อปี 2548 ตลอดระยะเวลาที่อยู่กับพรรคมา 17 ปี พรรคก็ยังพ่ายแพ้การเลือกตั้งทั่วไปอย่างต่อเนื่อง ผมเองก็เฝ้าดูด้วยความวิตกกังวลและคิดว่าคณะผู้บริหารของพรรคคงกำลังคิดหาทางแก้ไข จึงเฝ้ารอด้วยความอดทนโดยที่ไม่เคยแสดงความคิดเห็นใดๆ ดังเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว การเลือกตั้งทั่วไปครั้งล่าสุดเมื่อปี 2562 พรรคพ่ายแพ้อย่างยับเยิน จากเดิมที่เคยมี ส.ส. 161 คน เหลือเพียง 52 คน เป็นที่น่าตกใจและน่ากังวลเป็นอย่างมาก
กระผมเองได้รับการแต่งตั้งเข้ามาเป็นรองเลขาธิการพรรค ซึ่งมีหน้าที่อย่างชัดเจนคือการช่วยคิด ช่วยทำในสิ่งที่ถูกที่ควรเพื่อให้พี่น้องประชาชนทั้งประเทศได้เห็นว่าพรรคได้สำนึกผิดในสิ่งที่ได้กระทำไปในอดีตแล้ว และจะขอโอกาสที่จะกลับมายืนเคียงกับประชาชนอีก
ผมจึงได้ทุ่มเทเสนอแนวทางการแก้ไขปรับปรุงพรรคด้วยวิธีคิด “ทำในสิ่งถูกให้เป็นถูก ผิดให้เป็นผิด” โดยเริ่มจากการนำประเด็นต่างๆ ที่สื่อและสังคมข้องใจสู่ที่ประชุมพรรคให้ผู้บริหารหาทางแก้ไข แต่ไม่เป็นผล ผมจึงต้องหาวิธีนำเสนอใหม่เป็นเอกสารไปเก็บเอาไว้ที่พรรคเพื่อให้มีการบันทึกไว้เป็นหลักฐาน อีกทั้งยังได้เตือนว่าหากผู้บริหารไม่สนใจแก้ไขจะมีสมาชิกทยอยลาออกจากพรรค ซึ่งสุดท้ายก็เป็นความจริงว่าได้ลาออกไปกว่า 30 คนแล้ว
วันนี้กระผม นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี ที่เคยระบุในเอกสารที่ยื่นต่อพรรคว่าเคยถูกผู้ทรงอิทธิพลของพรรคเสนอว่าไม่ควรส่งลงสมัครอีกเพราะผลโพลแจ้งว่าจะแพ้ แต่สุดท้ายกระผมก็ชนะอย่างต่อเนื่องและเป็น ส.ส.ถึง 4 สมัยของพรรคประชาธิปัตย์ ขอลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยเหตุผลเดิมที่ได้ระบุไว้ในเอกสารที่ยื่นต่อพรรคเอาไว้หลายฉบับว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เหมือนเดิม อุดมการณ์เดิมของพรรคนั้น ต้องทำ ต้องปฎิบัติ ไม่ใช่ “ดีแต่พูด” แล้วจะทำให้ประชาชนเชื่อ
และจากการเสนอข่าวของสื่อล่าสุดว่ามีการล่ารายชื่อกันเพื่อจะปลดผู้บริหารนั้น ทำให้พรรคเสียหายมากแล้ว ผมจึงไม่ขอแสดงความเห็นใดๆ ในเอกสารการลาออกของผมนอกจากจะขอโอกาสเตือนเป็นครั้งสุดท้ายว่าเลิกโกหกบิดเบือน ควรต้องยืนอยู่บนความเป็นจริง อะไรที่ทำผิดไปแล้วก็ควรขอโทษพี่น้องประชาชนดังเช่นผู้ทรงอิทธิพลได้เคยประกาศขอโทษไปแล้วเมื่อไม่นานที่สงขลา
ขอให้พระเจ้าคุ้มครองเพื่อนๆ ที่เป็นคนดี และจะยังอยู่ในพรรคต่อไปให้พบแต่สิ่งที่ดีงาม จดหมายลาออกฉบับนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2565 เป็นต้นไป
ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เคยให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการลาออกของนายอันวาร์ ว่า ช่วงหลังนายอันวาร์ เปลี่ยนไปทำตัวมีปัญหากล่าวให้ร้ายพรรคมาตลอด ไม่ทำตามมติพรรคก็หลายครั้ง การที่พรรคจะไม่ดำเนินการใดๆ คงไม่ได้ พรรคก็ต้องหาทางออกที่ดีที่สุด พรรคให้โอกาสนายอันวาร์มาตลอด ครั้งแรกที่ลงเลือกตั้งตนก็เป็นคนเสนอชื่อนายอันวาร์เองสมัยนายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นหัวหน้าพรรค และตั้งแต่นั้นมานายอันวาร์ก็ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้แทนมาตลอด และเมื่อสถานการณ์เป็นอย่างนี้นายอันวาร์ก็จะได้ไปตามเส้นทางที่ชอบๆ และไม่มีอะไรโกรธเคืองต่อกัน มาถึงวันนี้เมื่อใกล้เลือกตั้ง พรรคก็เปิดโอกาสให้แต่ละคน เลือกอนาคตของตัวเองที่ดีที่สุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง