แม้จะเป็นที่แน่นอนแล้วว่าการเลือกตั้งคราวหน้า ๓ ป. บูรพาพยัคฆ์จะต่างคนต่างเดิน โดยเฉพาะระหว่าง “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กับ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่น่าจะไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) เกือบ ๙๙.๙๙ เปอร์เซ็นต์เป็นที่แน่นอนแล้ว ภายหลังมีข่าวว่าเมื่อวันที่ ๘ ธ.ค. บิ๊กตู่ดอดไปเจอกับแกนนำพรรครทสช.และกลุ่มส.ส.เกือบ ๔๐ คนจากหลายพรรคที่จะมาร่วมหัวจมท้ายอยู่ด้วยกันที่รทสช.แล้ว ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่งใกล้ที่ทำการพรรคแถวซอยอารีย์ ๕ ขณะที่บิ๊กตู่มีแนวโน้มเดินหันหลังให้กับพรรคพลังประชารัฐซึ่งเป็นเรือแป๊ะลำแรกที่พาตัวเองขึ้นถึงฝั่งฝันได้เป็นนายกฯในการเลือกตั้งคราวที่แล้ว เพราะเหตุผลจำเป็นที่เกิดจากมากมายสารพัดปัญหาที่ทำให้ไปต่อด้วยกันไม่ได้ ทั้งๆที่พปชร.เป็นพรรคที่บิ๊กตู่ให้ชื่อและเป็นพรรคที่ตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุนตัวเองแท้ ๆ แต่สุดท้ายก็ต้องแยกทางกันเดิน
แต่นี้ต่อไปในภายหน้าพปชร.ก็คงเปลี่ยนโฉมจากยุค ๓ ป. บูรพาพยัคฆ์ ผลัดใบเข้าสู่ ยุค “ ๓ ป.ป่ารอยต่อ” ที่นอกเหนือจากลุงป้อมแล้วก็จะมี ๒ ป.ใหม่เข้ามาผนึกกำลังรันพปชร.ใหม่ ๒ ป.ที่ว่าก็ประกอบด้วย “บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผบ.ตร.เจ้าของรหัส “พิทักษ์ ๑ ” และรวมถึง “บิ๊กป็อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตเจ้ากรมปทุมวันน้องรักสุดเลิฟของลุงป้อม ที่ได้รับการจับตามองมาตลอดว่าเป็น “ผู้มีบารมีในสภาสูง” ที่มีบทบาทช่วยเหลือลุงป้อมแบบลับๆ มาตลอด แต่อนาคตจะเปิดหน้าเล่นออกมาช่วยพี่ชายเต็มตัว โดยเฉพาะในยุคที่พปชร.จะไม่มีบิ๊กตู่อยู่ในพรรคแล้ว ที่จะมารวมพลังทำให้พปชร.ยุคใหม่มีความเข็มแข็งยิ่งขึ้น ภายใต้ ๓ ป.ยุคใหม่ที่มี “ป้อม-ป็อด-แป๊ะ” เข้ามาคุมพรรค
อย่างไรก็ตามใช่ว่าในพปชร.จะไม่มีปัญหาเอาเสียเลย แม้อำนาจในพรรคจะอยู่ในมือลุงป้อมแบบเต็มใบแต่ก็ใช่ว่าทุกอย่างจะราบรื่นไปหมด อย่างน้อยกรณีที่ลุงป้อมต้องการดึงก๊วนผู้กอง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จากพรรคเศรษฐกิจไทยกลับมาตรงนี้ก็ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมในพรรคมากพอสมควร อย่าลืมว่าในพปชร.มีแกนนำหลายคนที่เคยมีปัญหาขบเหลี่ยมกับร.อ.ธรรมนัสมาในอดีต ไม่ว่าจะเป็น “เสี่ยแฮงค์” อนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ น้องเล็กของกลุ่มสามมิตรที่เคยถูกแย่งเก้าอี้เลขาธิการพรรค หรือกรณีของสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ที่อดีตเคยหวานชื่นในยุค “๔ ช.” แต่ตอนหลังก็มาแตกกันหักเหลี่ยมกันจนมองหน้ากันไม่ติด รวมถึง “เสี่ยโอ๋” ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัล ที่เคยออกมาสัมภาษณ์เบรกการกลับคืนรังของร.อ.ธรรมนัสจนโดนผู้กองสวนกลับจนขึ้นหน้า ๑ มาแล้ว ล่าสุดกรณีผู้กองมีความเป็นไปได้สูงที่ลุงป้อมจะหาทางออกด้วยการไม่ให้ร.อ.ธรรมนัสเข้ามาอยู่ในพรรค แต่จะใช้งานเป็นกรณีพิเศษอยู่นอกพรรคแทน แต่อนาคตผู้กองก็มีลุ้นกลับมาเป็นรัฐมนตรีได้เช่นกันหากยังเป็นมือไม้สำคัญของลุงป้อมอยู่ นอกจากประเด็นกรณีผู้กองแล้วลุงป้อมยังต้องปวดหัวเรื่องคนคุมเมืองหลวงด้วย เพราะมีข่าวว่ามีหลายคนอยากเข้ามาดูแลไม่ได้มีแค่ “อ.แหม่ม” นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีตรมช.แรงงาน เหรัญญิกพรรคที่อยากดูคนเดียว ยังมี “เสี่ยจั้ม” สกลธี ภัททิยกุล อดีตผู้สมัครผู้ว่ากทมฯ ที่กลับมาช่วยพปชร.ก็อยากมีเอี่ยวดูพื้นที่กรุงเทพฯด้วย รวมถึงขาใหญ่มาแรงอย่าง “เจ๊มิ่ง” มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ อดีตรองนายกฯ ที่ก็อยากมารับผิดชอบคัดเลือกผู้สมัครส.ส.กทม.ตรงนี้ด้วยเช่นกัน
ไม่ใช่แค่พปชร.เท่านั้นที่มีปัญหา หากแต่พรรคน้องใหม่มาแรงอย่างรทสช.ก็เกิดปัญหาปวดหัวไม่แพ้กัน เริ่มต้นจากพื้นที่กทม.แรกเริ่มเดิมทีสกลธีอยากเข้ามาช่วยบิ๊กตู่ดูภาพรวมให้ตรงนี้ แต่ติดตรงที่หัวหน้าพรรคขาใหญ่อย่าง “เสี่ยตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้ารทสช.ก็อยากลงมาคุมพื้นที่กทม.เช่นกัน พอทับไลน์กันแบบนี้สกลธีที่ความจริงไปรับปากกับบิ๊กตู่ไว้แล้วว่าจะตามมาช่วยงานที่รทสช.ด้วย พอเจอตอแบบนี้ก็เลยต้องหลบฉากกลับไปอยู่กับพปชร.ของลุงป้อม เรื่องแบ่งพื้นที่กทม.ว่าหนักแล้ว แต่เรื่องการทำให้ทุกกลุ่มทุกก๊วนที่ตามบิ๊กตู่มาอยู่ในรทสช.หลอมหลวมกลายเป็นเนื้อเดียวกัน อันนี้สิลำบากกว่า ข่าวว่าตอนนี้ในพรรคเริ่มมีการตั้งแง่ของแกนนำสายประชาธิปัตย์อย่าง “พีระพันธุ์ เอกนัฎ วิทยา” รวมถึงบรรดาส.ส.เก่าของพรรคสีฟ้าที่ตั้งแง่ คุมอำนาจทั้งหมดไว้ในมือโดยไม่ยอมคายเรื่องของการบริหารจัดการ รวมถึงเรื่องของการคัดเลือกผู้สมัครในจัหงวัดต่างๆให้ก๊วนอื่นเลย ข่าวว่าเพราะเรื่องนี้แหละถึงขนาดทำให้กลุ่มบ้านใหม่ชลบุรีของ “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน สายตรงไทยคู่ฟ้าอึดอัดเพราะแทบไม่มีสิทธิ์มีเสียงำอะไรในพรรคเลย เพราะอำนาจถูกรวบไว้ที่พีระพันธุ์กับเอกนัฏทั้งหมด ตรงนี้ก็เป็นอีกประเด็นที่ทำให้หลายกลุ่มกลายก๊วนไม่สบายใจ
ไม่นับรวมกรณีที่ทางพรรคก็มีผู้สมัครของตัวเองอยู่ก่อนแล้วในบางพื้นที่ในบางเขตก็เลยทำให้ส.ส.หลายพรรคที่อยากตามบิ๊กตู่มาอยู่กับรทสช.ไม่อาจตามมาได้ กรณีนี้เห็นได้ชัดจาก ๑๓ ส.ส.พลังประชารัฐที่อยากตามบิ๊กตู่มาหมด แต่ติดที่รทสช.มีคนของตัวเองอยู่แล้ว สุดท้ายเลยมีแต่ก๊วนสายันณ์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราชกับพวกเท่านั้นที่ตามมาได้ ส่วนคนอื่นต้องอยู่โยงกับลุงป้อมใส่เสื้อพปชร.ต่อไป ทั้งๆที่อยากไปอยู่กับรทสช.ใจจะขาดเพราะรู้ว่าอยู่กับพปชร.ที่ใต้ถ้าไม่มีบิ๊กตู่แพ้กราวรูดแน่นอน ตอนนี้ส.ส.พปชร.ที่ใต้เลยต้องออกเคมเปญ “รักพล.อ.ประยุทธ์ ก็เลือกพรรคพลังประชารัฐได้” เพราะฉะนั้นอย่าได้แปลกใจที่มีส.ส.หลายพรรคหลายคน เกือบ ๔๐ คนจาก ๙ พรรคการเมือง หนีตายย้ายออกไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ของ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล แบบอุ่นหนาฝาคั่ง ทั้งนี้เพราะการเมืองในภท.นั้นนิ่งสนิท ไม่มีคลื่นใต้น้ำให้กวนใจ อำนาจรวมศูนย์อยู่ที่ “พี่เน” เนวิน ชิดชอบเจ้าของพรรคตัวจริงแบบเพียวๆ ตัวเสี่ยหนูอนุทินก็กำลังเฉิดฉายขึ้นหม้อ ออร่านายกฯกำลังเบ่งบาน เลือกตั้งรอบหน้ามีลุ้นเป็นพรรคต้นขั้วฝ่ายรัฐบาล อนุทินมีลุ้นเป็นนายกฯเลย กระสุนเพียบ กระแสดี นโยบายเด่น ผลงานมีให้เห็น พปชร.ยังทะเลาะกันไม่เลิกเรื่องร.อ.ธรรมนัสเรื่องคุมเมืองหลวง รทสช.ก็มัวแต่โอ้เอ้รอบิ๊กตู่ไม่แสดงตัวให้ชัวร์ให้ชัดเสียที ต่างจากภท.ของเสี่ยหนูที่เปิดนโยบายเปิดตัวผู้สมัครจนติดลมบนไปแล้ว
////////////////////