ข่าวดี นักพฤกษศาสตร์ไทย พบพืชสกุล "เปราะทอง" ชนิดใหม่ของโลก ในชื่อ เปราะทองศรีสุมนตร์
ข่าวที่น่าสนใจ
ข่าวดีวงการพฤกษ์ศาสตร์ไทย เมื่อทีมนักวิจัยมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ค้นพบ พืชสกุล “เปราะทอง” ชนิดใหม่ของโลกระหว่างศึกษาความหลากหลายของพืชวงศ์ขิงในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย โดยได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากมหาวิทยาลัย และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ สนับสนุนโดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช)
โดยเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้วิจัยได้ขออนุญาตท่านรองศาสตราจารย์ศรีสุมนตร์ สีตะธนี ในการนำชื่อของท่านมาตั้งเป็นชื่อพืชชนิดใหม่ของโลก โดยตั้งชื่อภาษาไทยว่าเปราะ ทองศรีสุมนตร์ และตั้งชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cornukaempferia srisumoniae P. Saensouk, Saensouk & Boonma
ทั้งนี้ รองศาสตราจารย์สุมนตร์ สีตะธนี เป็นอดีตอาจารย์ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และอดีตคณบดีคณะวิทยาศาสตร์ และยังเป็นอาจารย์รุ่นแรก ๆ ที่ร่วมก่อตั้งภาควิชาชีววิทยาอีกด้วย
ปัจจุบัน จากการศึกษาทบทวนพืชสกุล “เปราะทอง” พบว่ามีความหลากชนิดในโลกทั้งหมด 7 ชนิด ได้แก่
- เปราะ ทอง (Cornukaempferia aurantiiflora Mood & K.Larsen), เปราะทองก้านใบยาว (C. longipetiolata Mood & K.Larsen)
- เปราะ ทองลาร์เซน (C. larsenii P.Saensouk)
- เปราะ ทองชยันต์ (C. chayanii Yupparach & Wongsuwan)
- เปราะ ทองกมลวรรณ (C. kamolwaniae Picheans., Yupparach & Wongsuwan)
- เปราะ ทองใบเงิน (C. argentifolia Boonma & Saensouk)
- เปราะ ทองศรีสุมนตร์ (C. srisumoniae P. Saensouk, Saensouk & Boonma)
โดยทั้งหมดพบกระจายพันธุ์ในประเทศไทย ในขณะที่เปราะ ทองลาร์เซนพบทั้งในไทยและลาว ทำให้เปรา ะทอง 6 ชนิดที่พบแค่ในประเทศไทยยังคงมีสถานะเป็นพืชถิ่นเดียวของไทย (Endemic species) ยกเว้นเปราะ ทองลาร์เซนที่พบกระจายพันธุ์ในประเทศลาวด้วย
จากทั้ง 7 ชนิด พบว่า พืชสกุลเปราะ ทองมีลักษณะทางสัณฐานวิทยาร่วมกัน คือ
- มีเหง้าแบบเจริญออกทางด้านข้าง (sympodial rhizome)
- โดยเนื้อด้านในเหง้ามี 2-3 ชั้น
- มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ และมีรสขม
- ระบบรากเป็นแบบรากฝอยและมีรากสะสมอาหาร (tuberous roots)
- กาบใบเรียงสลับ มีลิ้นใบสั้นและบาง ปลายแยกเป็นสองพู แต่ละพูปลายโค้งกลมหรือปลายตัดตรง
- ใต้ใบมีขน ช่อดอกเกิดกลางกลุ่มใบโดยถูกหุ้มด้วยกาบของใบที่อยู่ด้านในสุด เนื่องจากมีก้านช่อดอกที่สั้นมาก
- ใบประดับรูปใบหอกหรือรูปไข่ ปลายแหลม แฉกหลอด
- กลีบดอกรูปใบหอกหรือรูปขอบขนาน ปลายรูปคุ่ม
- เกสรเพศผู้ที่เป็นหมันรูปไข่กลับแคบหรือรูปหอกกลับ ปลายโค้งมน สีเหลืองอมส้ม
- กลีบปากสีเหลืองอมส้มไปจนถึงสีส้ม และมีขีดหรือจุดสีแดงที่ส่วนฐานของกลีบ
- เกสรเพศผู้มีก้านชูอับเรณูสั้นและแบน สีเหลืองอ่อนไปจนถึงสีเหลืองเข้ม
- อับเรณูยาวปลายโค้ง สีเหลือง ยอดเกสรเพศเมียมีขนครุย รังไข่รูปทรงรีหรือรูปทรงไข่กลับ ผิวมีขน
พืชสกุลเปราะ ทอง 5 ชนิด ได้แก่
- เปราะ ทอง (C. aurantiiflora)
- เปราะ ทองลาร์เซน(C. larsenii)
- เปราะ ทองชยันต์ (C. chayanii)
- เปราะ ทองใบเงิน (C. argentifolia)
- เปราะ ทองศรีสุมนตร์ (C. srisumoniae)
จะบานพร้อมผสมในเวลาเช้า ในขณะที่เปราะ ทองกมลวรรณจะบานในช่วงบ่าย และเปราะ ทองก้านใบยาวจะบานในเวลากลางคืน
การใช้ประโยชน์พืชสกุลนี้
- ส่วนใหญ่นิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับ ไม้กระถางสะสมสำหรับผู้ที่หลงใหลในความงามของพืชวงศ์ขิง
- โดยทางผู้วิจัยได้มีการศึกษาวิจัยเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชในสกุลนี้ด้วย เพื่อการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนต่อไป
ข้อมูล : smujo
ข่าวที่เกี่ยวข้อง