“ชูวิทย์” สาวไส้บิ๊กต่ออีกยก อ้างมีหลักฐานปปง.ส่อเอื้อทุนจีนสีเทา จี้ลาออกยกคณะ

หลักฐานสำคัญที่แสดงถึงความเชื่อมโยงระหว่างผู้บริหารระดับสูงของ ปปง. และนายตู้ห่าว รวมทั้งนายหลินหลง ก็คือ สติ๊กเกอร์ตราโล่ ของผู้บริหารระดับสูงของปปง. ซึ่งไปติดที่บริเวณหน้ารถตู้ของนายหลินหลง เครือข่ายกลุ่มทุนจีนสีเทา ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ตนจึงขอเรียกร้องให้คณะกรรมการปปง. ลาออกก่อนสิ้นปีนี้ เพื่อรับผิดชอบในคดีดังกล่าว เพราะจนถึงวันนี้ยังเพิกเฉย ไม่ดำเนินการตรวจสอบ ทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องการฟอกเงิน และถ้าคิดปฏิเสธความจริงดังกล่าว ตนจะเอารูปภาพที่มีการชนแก้วไวน์มานำเสนอ

ทั้งนี้หลังจากนี้จะนำพยานหลักฐานไปร้องต่อสำนักงานอัยการสูงสุด ร้องต่อสมาชิกวุฒิสภา และสำนักงาน ป.ป.ช. โดยจะเสนอตัวเองเป็นพยานสอบตนในฐานะพยาน เพื่อชี้เบาะแสการกระทำความผิด กระบวนการอาชญากรรมข้ามชาติเหล่านี้ทั้งหมด

นายชูวิทย์ ยืนยันว่าไม่เกรงกลัวหากจะถูกฟ้องร้องไล่หลังที่ออกมาแฉในเรื่องดังกล่าว เพราะเป็นประชาชนคนไทยที่จ่ายภาษีอากรให้หน่วยงานรัฐทำหน้าที่ ฉะนั้นจะต้องซื่อสัตย์ เพราะหมายังซื่อสัตย์ต่อเรา พร้อมทิ้งท้ายว่า หากใครก็ตามที่ปล่อยให้ทั้งไทยเทา จีนเทาทำกันแบบนี้ ต้องเจอ “อดีตไทยเทา” อย่างผมจัดการให้แตกกระเจิง ล้มกระดานให้ได้ คือเป้าหมายสูงสุด

อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าจับตามองว่า หลังการลาออกของพล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ประธานปปง.คนเก่า ซึ่งนายชูวิทย์ออกมาให้ข้อมูลว่ามีสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มทุนจีน จนนำไปสู่การเข้าเกียร์ว่างในการติดตามตรวจสอบเส้นทางการเงินและทรัพย์สิน ที่ยึดอายัดจากทุนจีนสีเทา ส่งผลให้การแจ้งดำเนินคดีข้อหาฟอกเงิน ที่มีพล.ต.ธ.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ต้องช้าออกไปกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เมื่อมีการถ่ายเลือดใหม่จะดำเนินไปในทิศทางใด