วันที่ 20 ธ.ค. นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ก่อนเริ่มเข้าวาระการประชุมครม. ในวันนี้ (20 ธ.ค. 2565) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีเรื่องแจ้งเพื่อทราบ และข้อสั่งการดังต่อไปนี้
โฆษกรับบาลเผย นายกฯ ย้ำผู้นำยุโรปชื่นชมไทยที่สามารถบริหารจัดการแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจได้ดี กำชับกระทรวงพลังงาน และพาณิชย์ ติดตามราคาพลังงานที่เหมาะสม – หาแนวทางลดผลกระทบต่อภาระค่าครองชีพของประชาชนให้เดือดร้อนน้อยที่สุด
ข่าวที่น่าสนใจ
1.เมื่อช่วงเช้านี้ผ่านมา นายกรัฐมนตรีและภริยาเป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตตภาวนา พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เพื่อถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และน้อมถวายกำลังพระทัยให้ทรงแข็งแรงโดยเร็ว
2.นายกรัฐมนตรีได้รายงานให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีทราบถึงผลสำเร็จในการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ โดยมีผู้นำอาเซียน 9 ประเทศและผู้นำยุโรป 27 ประเทศร่วมหารือ ซึ่งผู้นำหลายประเทศได้แสดงความชื่นชมในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค 2022 ของไทย รวมทั้งการแก้ปัญหาโควิด-19 และการฟื้นฟูการท่องเที่ยว โดยปัจจุบันไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแล้วกว่า 10 ล้านคน ทั้งนี้ ในที่ประชุม นายกรัฐมนตรีได้เสนอ 3 เรื่องสำคัญ ได้แก่ การรับมือความผันผวนทางภูมิรัฐศาสตร์และความท้าทายด้านความมั่นคง ด้วยการแยกความขัดแย้งออกจากความร่วมมือเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน การส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสีเขียวเพื่อความยั่งยืน สร้างความเป็นหุ้นส่วนสีเขียวอาเซียน-สหภาพยุโรป และการเปลี่ยนผ่านดิจิทัล พร้อมมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ การทรวงดีอีเอส กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ติดตามความร่วมมือในประเด็นดังกล่าวให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป
3.นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโลกพบว่า ภูมิภาคยุโรปกำลังเผชิญกับปัญหาทั้งราคาพลังงาน และเงินเฟ้อที่หนักกว่าบ้านเรา ซึ่งผู้นำยุโรปชื่นชมไทยที่สามารถบริหารจัดการแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจได้ดี อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีได้กำชับกระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชน์ ติดตามดูแลราคาพลังงานที่เหมาะสม รวมทั้งหาแนวทางลดผลกระทบต่อภาระค่าครองชีพของประชาชนให้เดือดร้อนน้อยที่สุด โอกาสนี้ นายสุพัฒน์พงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้รายงานต่อนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีถึงการประกาศปรับอัตราค่า Ft ของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ล่าสุดนั้น เป็นการปรับขึ้นตามต้นทุนการผลิตและไม่กระทบต่อภาคครัวเรือน อย่างไรก็ตามสำหรับข้อห่วงใยของภาคอุตสาหกรรมนั้น กระทรวงพลังงานได้ประสาน เพื่อขอความร่วมมือไปยังสำนักงาน กกพ. ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีแล้ว โดยขอให้พิจารณาการปรับค่า Ft นอกจากสะท้อนต้นทุนการผลิตแล้ว ขอให้คำนึงถึงความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ขณะเดียวกัน ก็ต้องรักษาระดับอัตราค่าไฟฟ้าไทยในระดับที่เหมาะสม
4. นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยกำลังพลของกองทัพเรือ ที่ประสบเหตุเรือหลวงสุโขทัยอัปปาง โดยให้หน่วยงานระดมเข้าไปช่วยเหลือกำลังพลของ ร.ล.สุโขทัยทุกคนให้กลับขึ้นฝั่งอย่างปลอดภัย รวมถึงดูแลและประสานกับครอบครัวผู้ประสบภัยอย่างใกล้ชิดด้วย
5.นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างๆ เข้าไปช่วยติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ และกำชับให้หน่วยงานทุกภาคส่วนช่วยเหลือประชาชนให้ปลอดภัย แก้ไขคลี่คลายสถานการณ์ตามแผนการช่วยเหลือ ให้จัดกำลังสนับสนุนส่วนราชการท้องถิ่นดูแลประชาชนที่ศูนย์อพยพชั่วคราว โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีน้ำท่วม ช่วยขนย้ายคนและสิ่งของจำเป็นไปยังพื้นที่ปลอดภัย ช่วยรับส่งประชาชน รวมทั้งร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่ มอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัย ปรุงอาหารแจกจ่ายประชาชน ย้ำให้ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง