พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แม้จะเป็นพรรคการเมืองหน้าใหม่เพราะเพิ่งจนทะเบียนตั้งพรรคไปเมื่อ ๒ มี.ค.๒๕๖๑ แต่ตอนนี้ได้สถาปนาตัวเองจนกลายเป็นพรรคการเมืองใหญ่ในแวดวงการเมืองไทยไปเสียแล้ว แถมประวัติศาสตร์การเมืองของพรรคก็ไม่ธรรมดา เพราะอดีตหลังการเลือกตั้งเมื่อ ๒๔ มี.ค.๒๕๖๒ ยังสามารถรวบรวมเสียงจนเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล จนสามารถชู “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นเป็นนายกฯสมัย ๒ ได้สำเร็จ แต่ระยะเวลาผ่านไปไม่นานแค่ ๔ ปี ดูเหมือนว่าตอนนี้พปชร.กำลังเดินมาถึงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญทางการเมือง ว่าจะสามารถประคองตัวเดินหน้าเป็นพรรคการเมืองในสารบบการเมืองไทยต่อไปได้อีกไหมในอนาคต หรือจะจบเห่กลายเป็นพรรคการเมืองเฉพาะกิจ ปิดฉากการเป็นพรรคฝ่ายทหารไปพร้อมๆกับการแตกสลายของ ๓ ป.บูรพาพยัคฆ์ ที่ประกอบด้วย “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม หลังมีข่าวว่าการเลือกตั้งคราวหน้า ลุงป้อมกับบิ๊กตู่จะแยกทางต่างคนต่างเดิน
ลุงป้อมอยู่โยงกับพปชร.ที่ฮุบพรรคมาจากน้องรัก ฝ่ายบิ๊กตู่ก็เตรียมโผทะยานไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ล่าสุดแต่งองค์ทรงเครื่องจัดทัพพร้อมรบเต็มที่โดยขยับ “เสี่ยตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกฯ ลงมาเป็นเลขาธิการนายกฯ ตัวอยู่ใกล้ใจไม่ห่างเพื่อให้คอยมาทำงานใน ๒ ภารกิจทั้ง การบริหารประเทศ และ การเดินหน้ารทสช.ไปสู่การเลือกตั้งแบบไร้รอยต่อ โดยเฉพาะในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ที่เหลือเวลาแค่ ๓ เดือนเศษก็จะครบวาระ ๔ ปีของสภาผู้แทนราษฎรแล้วในวันที่ ๒๓ มี.ค.๒๕๖๖ ที่หากบิ๊กตู่อยากให้ส.ส.ได้ย้ายพรรคก่อนโดยไม่ติดล็อคต้องเป็นสมาชิกพรรคก่อน ๙๐ วันหากอยู่จนครบเทอมครบวาระก็จะต้องชิงประกาศยุบสภาก่อนหน้าวันที่ ๒๓ มี.ค.ปีหน้า เพราะฉะนั้นจะเหลือเวลานับถอยหลังไปสู่การยุบสภาจริงๆ ไม่ถึง ๓ เดือนแน่นอน ตรงนี้ก็ต้องดูด้วยว่ากฎหมายลูก ๒ ฉบับคือ พ.ร.ป.พรรคการเมือง และ พ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส.จะลงมาเมื่อไหร่ หลังวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมายระบุว่านำขึ้นทูลเกล้าไปตั้งแต่วันที่ ๑๖ ธ.ค.ที่ผ่านมา นอกจากพีระพันธุ์จะลงมาเป็นเลขาธิการนายกฯแล้ว ข่าวว่า ๒๗ ธ.ค.นี้ รทสช.เตรียมเปิดตัว “ด็อกเตอร์สามสี” ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่ปรึกษานายกฯ และ “ป๋าชัช เตาปูน” ชัชวาลล์ คงอุดม ประธานที่ปรึกษาพรรคพลังท้องถิ่นไท มาร่วมงานกับรทสช.ด้วย
รทสช.ขยับปรับทัพกันยกใหญ่ แต่ฝ่ายพปชร.ยังวุ่นกันไม่เลิก โดยเฉพาะประเด็นร้อนที่ลุงป้อมเตรียมดึงก๊วน “ผู้กอง” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แกนนำพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) กลับมาอยู่กับพปชร. แถมล่าสุดข่าวมีข่าวว่ารับบรรดาส.ส.เก่าที่เป็นลูกน้องกลับเข้าพรรคหมดแล้ว แถมล่าสุดถึงขนาดมอบหมายให้ผู้กองนัส ในฐานะที่เคยเป็นอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปเป็นประธานเปิดการประชุมสามัญประจำปี สภาเครือข่ายประชาชนอีสาน (สอส.) สภาประชาชน ๔ ภาค ระหว่าง ๑๘ -๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๕ ณ ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง จ.นครราชสีมา เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา งานนี้มีผู้แทนสมาชิกสภาเครือข่ายประชาชนอีสานและตัวแทนสภาประชาชน ๔ ภาค เข้าร่วมประชุมกว่าหมื่นคน งานนี้ผู้กองนัสเลยได้โชว์พาวเวอร์ในฐานะตัวแทนลุงป้อมพูดคุยกับคนนับหมื่น ประกาศตัวเป็นสายตรงหัวหน้าพปชร.ให้คนรู้กันไปเลย “ วันนี้ท่านรองนายกฯ พล.อ.ประวิตร ติดภารกิจด่วนจึงไม่สามารถมาได้ เนื่องจากผมเคยเป็นผู้อยู่ใกล้ชิดพี่น้องมาแล้วในช่วงที่เคยทำงานร่วมรัฐบาลนี้ ตอนนั้นก็เคยได้รับมอบหมายจากพล.อ.ประวิตร ให้เป็นประธานอนุกรรมการแก้ปัญหาให้สภาประชาชน ๔ ภาค สมัชชา เกษตรกรอีสาน ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาที่ดินทำกินของพี่น้องทุกภาค” ผู้กองธรรมนัสระบุ
ทำไปทำมาเรื่องที่แกนนำพรรคหลายคนกลัวว่าร.อ.ธรรมนัสจะกลับมาอยู่กับพปชร.ก็เป็นจริง ไม่รู้ลุงป้อมติดใจอะไรกับผู้กอง ขนาดมีมติพรรคขับออกไปแล้ว รอบนี้ยังดึงกลับมาอีก ร.อ.ธรรมนัสกลับมาพปชร.รอบนี้ จับตาดูเลยว่าพปชร.เสี่ยงแตกแน่ ถ้าคุยกันไม่ตกผลึก วางแนวกันไม่ชัดเจน แม้ล่าสุดลุงป้อมจะหาทางออกด้วยการให้ผู้กองนัสเคลื่อนไหวทำงานอยู่นอกพรรค แต่ให้ส.ส.ก๊วนเศรษฐกิจไทยที่เคยถูกขับออกไปกลับเข้าพปชร.ทั้งหมด ส่วนผู้กองนัสก็ลอยตัวอยู่ข้างนอกรับงานเป็นเรื่องๆไป แต่ไม่รู้ว่าแผนนี้ของลุงป้อมจะเวิร์คไหม แกนนำพปชร.แต่ละคนจะว่ายังไง อย่าลืมว่าร.อ.ธรรมนัสเคยก่อคดีมีเรื่องกับเขาไปทั่ว ในพปชร.ก็งัดกับแกนนำทุกกลุ่ม ไล่เรียงกันไม่จบเป็นใหญ่เริ่มต้นก็งัดกับกลุ่มสามมิตรชิงเก้าอี้เลขาธิการพรรคพปชร.มาจาก “เสี่ยแฮงค์” อนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ เขี่ยน้องเล็กกลุ่มสามมิตรพ้นแม่บ้านพรรค ถัดมาก็ตั้งก๊วน “๔ ช.” ที่ประกอบด้วย “ร.อ.ธรรมนัส-นฤมล-สันติ-อธิรัฐ” แผ่อำนาจสร้างบารมีในพปชร.
แต่อนิจจาอยู่ได้ไม่นานก็เกิดขัดแย้งกับสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เพราะรับปากว่าจะช่วยดันสันติเป็นเลขาธิการพรรค แต่พอถึงเวลากับหยิบชิ้นปลามันคว้าพุงปลาไปครองแกงสันติให้อกหักจนเป็นได้แค่ผอ.พรรค จากนั้นหลังสร้างเลือกแจกกล้วยส.ส.หวังล้มนายกฯคว่ำบิ๊กตู่ ก่อนถูกขับพ้นพปชร.ไปตั้งพรรคใหม่ที่ชื่อเศรษฐกิจไทย ตั้งพรรคใหม่ได้ไม่นานก็มีข่าวอยากกลับมาบ้านเก่าแต่ก็ถูก “เสี่ยโอ๋” ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัล บ้านใหญ่สระบุรี ติดเบรกเตะตัดขาในทำนองอย่ากลับมาเลย อยู่นั้นดีแล้ว จนผู้กองควันออกหูต้องออกมาสวนกลับประมาณ “เด็กใหม่อย่าปีนเกลียว” จนเป็นข่าวใหญ่บนหน้าหนังสือพิมพ์ นอกจากนี้ยังมีวีรกรรมเขี่ยชื่อ “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ให้ฝ่ายค้านเพิ่มชื่อในบัญชีศึกซักฟอกปีล่าสุด ๒๕๖๕ ทั้งๆที่ส่งชื่อไปแล้ว ๑๐ คน ก็ยังมาเพิ่มชื่อคนที่ ๑๑ ไปอีก ฯลฯ
ทั้งหมดนี้แค่หนังตัวอย่างที่เป็นข่าวที่คนรับรู้ วีรกรรม-วีรเวรเด็ดๆของเด็กสร้างลุงป้อมยังมีอีกเพียบ ต่อให้ลุงป้อมใช้บารมีเอาร.อ.ธรรมนัสกลับเข้าบ้านได้ก็คงไม่แปลก แต่อนาคตจับตามองได้เลยพปชร. ที่รวมบรรดา “เสือ สิงห์ กระทิง แรด” ได้ร.อ.ธรรมนัสกลับไปผนึกกำลังกับ “อ.แหม่ม”นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค อดีตรมช.แรงงาน รอบนี้อีกครั้ง รับรองนับถอยหลังจะมีเรื่องวุ่นๆในพปชร.ตามมาอีกเป็นพะเรอเกวียน เพราะเป็นแกนระดับ “ไฟลุก” เจ้าของฉายา “เข้าแก๊งค์ไหนหัวหน้าตายหมด” แถมมาจับคู่ด้วยกัน “ธรรมนัส-นฤมล” อนาคตในพปชร.คงสนุกพิลึก ล่าสุดยังมีประเด็นที่ “เสี่ยจั้ม” สกลธี ภัททิยกุล อดีตรองผู้ว่าฯกทม.ที่ติดขัดปัญหาไม่อาจไปช่วยบิ๊กตู่ที่รทสช.ได้ ก็ ต้องบ่ายหน้ากลับมาอยู่กับลุงป้อมที่ก็อยากกลับมาช่วยดูพื้นที่กทม.อีกคน งานนี้ก็ต้องมาเบียดวัดบารมีกับอ.แหม่มนฤมลคู่ซี้ร.อ.ธรรมนัส พปชร.คงวุ่นวายน่าดูสำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในอนาคต เพราะมีนักการเมืองพวกเขี้ยวรากดิน กองกันเป็นพรวน มุ้งการเมืองก็เพียบ แค่เอ่ยชื่อ ร.อ.ธรรมนัส นฤมล ไพบูลย์ วิรัช สามมิตร มิ่งขวัญ ก๊วนปากน้ำ ฯลฯ ก็สยองพองขนแล้ว ไม่แปลกใจเลยที่บิ๊กตู่ถึงต้องฉีกตัวออกมาหาพรรคใหม่อยู่ เพราะดูทรงลุงป้อมพี่ใหญ่ ๓ ป. หลงนฤมลชงร.อ.ธรรมนัสจนกู่ไม่กลับ ต่อสู้ร่วมรบฝ่าความเป็นความตายมาเป็น ๔๐ ปี สุดท้ายบิ๊กตู่กับลุงป้อมต้องมาแตกคอกันเพราะคนไม่กี่คน รอดูปลายทางก็แล้วกันว่าลุงป้อมกับพปชร.ที่มี “นฤมลกับร.อ.ธรรมนัส” เป็นลูกขุนพลอยพยัก กับบิ๊กตู่ที่จะไปกับรทสช.มีน้องรักอย่างพีระพันธุ์เป็นคู่คิดใครจะไปได้ไกลกว่ากัน
///////////////
