โดยไม่รวมถึงสินค้าและบริการ 10 ประการ ดังนี้ ค่าซื้อสุรา เบียร์ ไวน์ ค่าซื้อยาสูบ ค่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ ค่าซื้อหนังสือพิมพ์และนิตยสาร ค่าบริการหนังสือพิมพ์และนิตยสารที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ค่าบริการจัดนำเที่ยวที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว และมัคคุเทศก์ ค่าที่พักในโรงแรมที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต ค่าบริการสำหรับบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการระยะยาว ซึ่งเริ่มต้นก่อนวันที่ 1 ม.ค. 66 หรือสิ้นสุดหลังวันที่ 15 ก.พ. 66 และค่าเบี้ยประกันวินาศภัย
สำหรับมาตรการ “ช้อปดีมีคืน ปี 66” หวังส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อขยายฐานภาษี และสนับสนุนการใช้ระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ กำหนดให้ผู้มีเงินได้ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2566 ถึงวันที่ 15 ก.พ.2566
2.มาตรการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2566 โดยลดภาษีให้ในอัตราร้อยละ 15 ของจำนวนภาษีที่คำนวณได้สำหรับการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของปีภาษี 2566 สำหรับการแจ้งประเมินให้ท้องถิ่นแจ้งประชาชนจากเดิมเดือนกุมภาพันธ์ ขยายไปเป็นเดือนเมษายน 66 และให้ประชาชนชำระภาษีไม่เกินเดือนมิถุนายน 66
3.มาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัยปี 2566 โดยลดค่าจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์จากร้อยละ 2 เหลือร้อยละ 1 และลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จากเดิม ร้อยละ 1 เหลือร้อยละ 0.01 สำหรับการซื้อขายที่อยู่อาศัย ได้แก่ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านแถว อาคารพาณิชย์ และห้องชุด (ทั้งบ้านมือ 1และมือ 2) เฉพาะที่มีราคาซื้อขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 3 ล้านบาท และวงเงินจำนองไม่เกิน 3 ล้านบาท ต่อสัญญา 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม 65 หวังลดภาระให้กับผู้ต้องการมีบ้าน
4.มาตรการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิต สำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินไอพ่นที่นำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับอากาศยานภายในประเทศ โดยลดอัตราภาษีตามปริมาณของน้ำมันเชื้อเพลิง สำหรับเครื่องบินไอพ่นที่ใช้บินในประเทศ จากลิตรละ 4.726 บาท เหลือลิตรละ 0.20 บาท มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 30 มิถุนายน 2566 จากเดิมครบกำหนดในสิ้นปี 65 เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวและบริการให้มีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและบรรเทาผลกระทบการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและสายการบินภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด19 กระทรวงคลังขอความร่วมมือสายการบิน ในช่วงปีใหม่ ขอให้สายการบินลดค่าโดยสาร เพราะค่าโดยสารแพงมาก หรือจัดทำโปรโมชั่นให้กับผู้ซื้อตั๋วล่วงหน้า หลังจากคลังช่วยเหลือสภาพคล่องไปแล้วช่วงที่ผ่านมา
5.มาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมการอนุญาตขายสุรา ยาสูบ และไพ่ ตาม พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต 2560 ให้สิทธิยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตขายสุรา ยาสูบ และไพ่ ประเภทที่ 1 และประเภทที่ 2 สำหรับผู้ประกอบการที่ประสงค์จะประกอบกิจการต่อเนื่อง ณ สถานประกอบการเดิม ประเภทใบอนุญาตเดิม ที่ยื่นคำขอระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม 2566 เพื่อลดภาระของผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตขายสุรา ยาสูบ และไพ่ให้สามารถฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องภายหลังสถานการณ์โควิด19 เพื่อช่วยเหลือร้านค้าขายของไม่ได้ช่วงที่ผ่านมา แม้ราคาใบอนุญาตไม่สูงมากนัก แต่ช่วยเหลือรายย่อยได้ถึง 1.45 ล้านใบอนุญาติ
ขณะเดียวกัน ในส่วนของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ได้มีมาตรการและโครงการของขวัญปีใหม่ พ.ศ.2566 ดังนี้
1.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. จะมีโครงการชำระดีมีคืน ลดดอกเบี้ยแก้หนี้ภาคครัวเรือน มาตรการส่งเสริมสภาพคล่องและฟื้นฟู สำหรับสินเชื่อฟื้นฟู ให้กู้ 10,000 บาทต่อราย ปลอดดอกเบี้ย 1 เดือน
2.ธนาคารออมสิน มี 2 มาตรการใหญ่ ผ่านโครงการวินัยดี มีเงิน โดยมอบเงินรายละ 500 บาท ให้แก่ลูกค้าชำระดี ไม่ต่ำกว่า 3 ปี วงเงินกู้ไม่เกิน 2 แสนบาท ผ่านแอป MyMo ภายใน 25 ธันวาคม 65
3.บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ได้ ยกเว้นค่าดำเนินการค้ำประกันสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการ SMEs
4.ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศ (ธพว.) เช่น ผ่อนดีมีคืน (บัตรกำนันสูงสุด 300 บาท) มาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุน
5. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ มอบของขวัญปีใหม่ ให้กับลุกค้าผ่อนชำระสม่ำเสมอได้รับเงินคืน 1,000 บาท ประกอบด้วยลูกค้ารายย่อยเดินบัญชีปกติ วงเงินกู้เงิน 2 ล้านบาท
6. EXim Bank จัดแพ็กเกจของขวัญปีใหม่ เพื่อผู้ส่งออก ผ่านสินเชื่อพลิกฟื้นธุรกิจส่งออก พร้อมคุ้มครองกรณีไม่ได้รับการชำระเงินค่าซื้อสินค้าจากต่างประเทศ พร้อมมาตรการแก้หนี้ รับปีใหม่กระต่าย
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการและโครงการของขวัญปีใหม่ พ.ศ.2566 จากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง 7 โครงการ ได้แก่
1)มาตรการช่วยเหลือผู้กู้ยืมเงินเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ.2566 จากกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)
2)มาตรการของขวัญปีใหม่ปี 2566 ให้กับลูกค้ารายย่อยที่ไม่มีหลักประกัน/ผู้ค้ำประกัน จากบริษัทบริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด (บสอ.)
3)โครงการเที่ยวปีใหม่สุขใจไปกับพิพิธภัณฑ์ธนารักษ์ เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ.2566 ให้แก่ประชาชน จากกรมธนารักษ์
4)โครงการสนับสนุนตลาดทุนและเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืนลดภาระแก่ผู้ประกอบธุรกิจเพื่อความสุขที่มั่นคงของทุกภาคส่วน จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทัพย์ (ก.ล.ต.)
5)โครงการส่งเสริมให้ประชาชนและผู้ลงทุนมีศักยภาพในการสร้างสุขภาพทางการเงินที่ดี และมีภูมิคุ้มกัน ไม่ถูกหลอกลวง จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทัพย์ (ก.ล.ต.)
6)โครงการกรมธรรม์ประกันภัยรายย่อย (ไมโครอินชัวรันส์) สำหรับเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2566 จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)
7)โครงการ “ชม ชิม ช็อป ยาสูบเชียงราย” จากการยาสูบแห่งประเทศไทย เปิดพื้นที่โรงบ่ม จัดพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวชุมชนในจังหวัดเชียงราย นำชาวไร่นำสินค้ามาวางขาย ในช่วงฤดูหนาว คาดมีนักท่องเที่ยว 1 แสนราย