“ปธ.สหภาพกองสลากฯ” ลั่นไม่ปล่อยผิด “นอท” เตือน”อนุชา”อย่าลืมนายกฯตั้งคุมแก้หวยแพง

จากประเด็นปัญหาการค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล ในอัตราสูงเกินราคาควบคุมตามกฎหมาย โดยไม่สนใจข้อกฎหมาย และหน่วยเกี่ยวข้องสำคัญ อย่าง สำนักงานสลากฯยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ ที่เป็นรูปธรรมในการจัดการเอาผิดผู้ค้ารายใหญ่อย่าง “กองสลากพลัส” หรือ “ลอตเตอรี่ ออนไลน์” ทำให้ปัจจุบันมีเงินทุนหลายพันล้าน เข้ามากว้านซื้อสลากฯไปขายได้จำนวนกว่าสิบล้านใบต่องวด และกระทบไปถึงหลายภาคส่วน ทั้งปริมาณสลากฯที่หายไปจากตลาด และ ราคาสลากฯที่มีตัวเลขพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุดนายอำนวยพร เกิดพุ่ม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล แสดงความเห็นกับ TOP NEWS ถึงกรณี นอท กองสลากพลัส ยังเดินหน้าขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ในราคา 80 บาท บวกเพิ่มค่าบริการอีก 23 บาท ทำให้ราคาขายปลีกเกินอัตราควบคุมตามกฎหมาย

 

 

โดยยืนยันว่า การจำหน่ายสลากฯผ่านช่องทางใดก็แล้วแต่ หากเกินราคา 80 บาทต่อใบ ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เพราะเป็นการจำหน่ายเกินราคาจากสำนักงานสลากฯได้กำหนดไว้ และสามารถดำเนินการเอาผิดได้ โดยการแจ้งความเพื่อดำเนินคดีและเปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมายืนยันสำนักงานสลากฯไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการดำเนินการติดตามเอาผิด ผู้เกี่ยวข้องตามอำนาจหน้าที่ของสำนักงานสลากฯ อาทิเช่น การตัดโควตาของผู้ค้าที่นำสลากฯไปขายทอดต่อให้กับเวบไซต์ออนไลน์ โดยสำนักงานสลากฯสามารถตรวจสอบย้อนกลับไปยังผู้รับโควตาสลากได้ทุกราย

 

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาสำนักงานสลากฯ ได้มีการดำเนินการตรวจสอบสลากฯที่มีการขายเกินราคา ทั้งจากการสุ่มตรวจ รวมถึงการล่อซื้อของเจ้าหน้าที่สำนักงานสลากฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุม พร้อมแจ้งความเอาผิด และหากพบว่า มีการกระทำผิดซ้ำๆ จะมีตัดโควตาผู้ขายสลากฯเกินราคา พร้อมยึดคืนสลากฯกลับมายังสำนักงานสลากฯทันที

 

 

 

ส่วนกรณีของ “นอท กองสลากพลัส” ก็เช่นเดียวกัน ที่ผ่านมามีการแจ้งความดำเนินคดี และเปรียบเทียบปรับอัตราสูงสุดทุกงวดการออกรางวัล ขณะเดียวกันสำนักงานสลากฯ ยังได้ทำการตรวจสอบสลากฯที่มีการนำมาขึ้นเงินรางวัล เพื่อเอาผิดในส่วนของผู้ขายทอดสลากฯอีกด้วย และที่ผ่านมาได้มีการตัดโควตาผู้ค้าสลากฯไปแล้วจำนวนมาก

 

 

ประธานสหภาพฯสำนักงานสลากฯ ยังระบุถึงวิธีการรวมรวบสลากฯในแต่ละงวดมากถึง 14 ล้านใบ ของ “นอท กองสลากพลัส” ว่า วิธีการของ “นอท กองสลากพลัส” เป็นการตั้งโต๊ะรับซื้อสลากฯ จากผู้มีโควตา และการส่งคนไปกว้านซื้อตามแหล่งต่างๆ ทั้ง อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย สี่แยกคอกวัว หรือ สนามบินน้ำ โดยการใช้เงินซื้อในราคาสูงถึง 95-97 บาท/ใบ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้มีโควตา ที่รับสลากฯมาในราคา 70.40 บาทต่อใบ เลือกจะนำมาขายให้กับบริษัทเอกชน แทนการไปขายเองหรือปล่อยให้กับผู้ค้ารายอื่น ๆ ซึ่งการกว้านซื้อของ “นอท กองสลากพลัส” ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยทำให้ราคาสลากฯ ในตลาดปรับตัวสูงขึ้น และผู้ค้าที่รับสลากต่อๆกันมา จำเป็นต้องขายสลากฯเกินราคาที่กำหนดไว้

 

ส่วนสาเหตุที่เเพลตฟอร์มออนไลน์ สามารถรวมชุดสลากฯได้จำนวนมาก นายอำนวยพร ให้ข้อมูลว่า การรวบรวมสลากฯรวมชุด ยังคงสามารถทำได้ง่าย เพราะในตลาดค้าใหญ่ๆ อาทิ สี่แยกคอกวัว หรือ วังสะพุง มีการทำสลากฯรวมชุดเพื่อจำหน่ายอยู่แล้ว จึงไม่ใช่เรื่องยากหากจะมีการนำสลากฯรวมชุดไปขายในแพลตฟอร์มออนไลน์ และบทบัญญัติกฎหมายในการเอาผิดไม่ได้รุนแรง จึงยังเป็นช่องโอกาสให้ผู้ค้าเลือกมีการกระทำผิดต่อเนื่อง

 

อย่างไรก็ตาม จากการเฝ้าติดตามการแก้ปัญหาสลากเกินราคา ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์นั้น ที่ผ่านมาทางสำนักงานสลากฯ มีการดำเนินการแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง และ ในบางขั้นตอน เป็นเรื่องที่อยู่ในกระบวนการทางข้อกฎหมายในการปิดเเพลตฟอร์มออนไลน์ทั้งหมด จึงไม่สามารถออกมาให้ข้อมูลใดๆต่อสาธารณชนได้ รวมถึงด้วยอำนาจหน้าที่ของสำนักงานสลากฯ สามารถดำเนินการได้เฉพาะการตัดโควตา หรือ สวบสวนว่ามีการนำสลากฯไปจำหน่ายที่ใด เพื่อฟ้องร้องเอาผิดลงโทษปรับ เป็นต้น

 

และดำเนินการก็ดำเนินการได้เฉพาะเจ้าของ หรือ ผู้ที่ได้รับโควตา เท่านั้น แต่ไม่มีอำนาจจับกุม ทำได้เพียงการแจ้งความเพื่อจับกุม หรือส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ หากพบมีการขายเกินราคา ซึ่งเป็นการกระทำผิดซึ่งหน้า สามารถเข้าจับกุมได้ทันที แตกต่างจากกรณีแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่มีค่อนข้างมีหลากหลายขั้นตอน โดยการดำเนินการเข้าตรวจสอบจะต้องมีการแจ้งความ และขอหมายค้น เพื่อเข้าไปดูว่าที่เเพลตฟอร์มออนไลน์มีการโฆษณาว่า มีสลากฯอยู่ 14 ล้านใบ เป็นจริงหรืออย่างไร

 

ส่วนกรณีความไม่ชอบมาพากลของเส้นทางการเงินบริษัทเอกชน ในการเข้าไปกว้านซื้อสลากฯงวดละกว่าสิบล้านใบนั้น นายอำนวยพร ระบุว่า ในส่วนของดีเอสไอ หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าไปตรวจสอบ เงินที่นำมากว้านซื้อสลากฯในแต่ละงวดมาจากช่องทางใด พร้อมตั้งข้อสังเกตุว่า ที่ผ่านมาเคยมีการโกงสลากเกิดขึ้น วงเงินกว่า 1,000 พันล้านบาท โดยรูปแบบการโกงคือ มีสลากฯจริงในมืออยู่เพียงก้อนเดียว แต่สามารถนำไปขายได้ทุกกลุ่ม ยกตัวอย่าง ตนมีสลากฯ 1 หมื่นใบ แต่นำไปขาย ให้กลุ่มนาย ก /กลุ่มนาย ข และกลุ่มนาย ค. กลุ่มละ 1 หมื่นเล่ม ซึ่งสร้างเม็ดเงินได้อย่างมหาศาล และกลายเป็นการโกงสลากฯ รวมถึงการขายสลากฯ โดยการขายต่อและบวกกำไรเพิ่มเป็นทอดๆ ทำให้ราคาสลากฯเพิ่มขึ้นและมีการขายเกินราคา และการขายหวยทิพย์ ซึ่งประชาชนทั่วไปจะไม่สามารถทราบว่าสลากมีจริงหรือไม่ ยกเว้นเจ้าหน้าที่สำนักงานสลากฯ จะทราบรายละเอียดหรือที่มาของสลากฯแต่ละใบว่ามาจากไหน เป็นต้น

 

 

พร้อมยอมรับว่า ปัจจุบัน การขายสลากฯให้กับลูกค้า ทั้งในส่วนที่เป็นผู้รับโควตาโดยตรงจากสำนักงานสลากฯ หรือ ผู้ที่ไปซื้อขายทอดสลากฯมา มีการนำเอาสลากฯมาจำหน่ายในราคาที่เกิน 100 บาทต่อใบอยู่แล้ว ขณะเดียวกันหากมีผู้ค้าสลากฯรายใดจำหน่ายสลากในราคา 80 บาทต่อใบ ก็จะมีผู้ค้าสลากฯมาซื้อสลากฯเพื่อนำไปขายในราคา 100 บาทต่อใบอยู่ดี ซึ่งมองว่าวิธีแก้ปัญหานั้น คือ การสร้างเครือข่าย โดยให้กลุ่มคนขายช่วยกันสอดส่องดูแลผู้กระผิด และการเลือกเพิ่มสลากฯให้กับผู้ค้าที่ปฏิบัติตรงตามเงื่อนไข เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้ผู้ค้าสลากฯ รวมถึงการเพิ่มผลิตภัณฑ์ออนไลน์ L6 และ N3 ซึ่งทั้งหมดอยู่ระหว่างการพิจารณาของครม. พร้อมกำหนดให้ผู้ขายจะต้องมี ไลเซนส์เพื่อตรวจสอบอีกด้วย

 

ส่วนผู้ค้าสลากฯเดิมที่มีโควตานั้น ประธานสหภาพฯสำนักงานสลากฯ ระบุว่า อยากฝากให้ผู้ค้าที่มีสลากฯอยู่ในมือให้รักษาโควตาของตัวเองไว้ให้ดี โดยเฉพาะการขายสลากฯในราคา 80 บาทต่อใบ เพราะหากนำไปขายให้คนที่เสนอราคาให้มากกว่า ราคาส่งของสำนักงานสลากฯอาจทำให้ผู้ค้าสลากฯโควตาได้รับสลากเพียงแค่งวดเดียวเท่านั้น เพราะเมื่อใดที่สำนักงานสลากฯตรวจสอบพบจะมีการยึดโควตาดังกล่าวกลับมาที่กองสลากฯ และจะไม่มีสลากฯจากสำนักงานสลากฯมาขายอีกต่อไป เพราะสำนักงานสลากฯสามารถตรวจสอบสลากฯจากการที่ผู้ค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ นำมาขึ้นเงินกับสำนักงานสลากฯซ้ำๆ จนพบว่าผู้ค้าสลากฯนั้นนำเอาสลากฯไปขายทอดให้กับแพลตฟอร์มออนไลน์รายใด

 

” ในฐานะของคนในสำนักงานสลากฯ ได้เห็นถึงการกระทำของ นอท กองสลากพลัส ที่สร้างภาพลักษณ์ไม่ดีให้กับสำนักงานสลากฯ ว่าไม่สามารถจัดการขายสลากในราคา 80 บาทได้ ตามนโยบายที่วางไว้ว่า ไม่ว่าใครก็ตามที่ทำธุรกรรมกับสำนักงานสลากฯ หากทำถูกความเจริญก็จะมา หากทำผิดก็จะมีกฎหมายที่จะเล่นงานอยู่แล้ว จึงไม่ต้องมาเยาะเย้ยสำนักงานสลากฯ ว่าไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ เพราะยังมีเวลาและไม่ใช่สำนักงานสลากฯ ไม่ดำเนินการ แต่สำนักงานฯ ยังดำเนินการอยู่ ในทุกแพลตฟอร์ม ไม่มีละเว้น ทั้งคนที่ไปร่วมลงทุน ก็มีการตรวจสอบกระบวนการหลังบ้านอีกด้วย ว่าเส้นทางทางการเงินของผู้ร่วมลงทุนมาจากช่องทางใด”

ช่วงท้าย ประธานสหภาพฯสำนักงานสลากฯ ระบุว่า ในส่วนของการดำเนินการปิดเว็บไซต์ “กองสลากพลัส” ทางด้านสำนักงานสลากฯได้มีการดำเนินการแจ้งความอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ จะต้องพิจารณาในแต่ละมูลความผิดที่เกิดขึ้น เช่นกรณีนี้สำนักงานสลากฯมีหน้าที่แจ้งความดำเนินคดีขายสลากเกินราคา แต่โดยพฤติกรรมคนไทย เมื่อมีการถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้เงินก็จะไม่มีการแจ้งความดำเนินคดี แต่หากถูกรางวัลแล้วไม่ได้เงินก็จะมีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเกิดขึ้น

นายอำนวยพร ระบุด้วยว่า ในส่วนของนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอขาย หรือ ขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งมา อยากให้เข้ามาแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง

อนุชา นาคาศัย - พลังประชารัฐ

 

“เราดำเนินคดีอยู่แล้ว ในเรื่องพวกนี้ เราก็เดินไปตามข้อกฎหมายที่ไปตรวจค้นมา ฟ้องจุดไหนก็ฟ้องไป จะปิดเว็บ ก็ว่าไป เป็นหน้าที่ของตำรวจ ของไอซีที ที่จะดำเนินการ คนที่นายกฯ แต่งตั้งมา ท่านอนุชา นาคาศัย ท่านที่มาแก้ไขสลากเกินราคาพวกนี้ ท่านออกกฎกติกามากมาย ท่านก็ต้องเล็งเห็นว่า อย่ามวยล้มต้มคนดู เอาให้จริงจังไปเลย ในเมื่อได้รับกระบี่มาจากท่านนายกฯ แล้ว ทำเถอะ” นายอำนวยพร กล่าว

 

 

อีกทั้งกรณีของการซื้อขายสลากออนไลน์ของกองสลากพลัสจะมีข้อตกลงให้ผู้จะซื้อยินยอม โดยอ้างว่าไม่ต้องการให้ผู้ซื้อหรือผู้ขายโดนตรวจสอบหรือตัดโควตาสลากฯ หรือ กรณีกองสลาก พลัส นำสลากมาขึ้นเงินรางวัล ก็จะมีการตรวจสอบย้อนกลับสลากฯดังกล่าวไปยังผู้ที่ขายทอดและทำการตัดโควตาต่อไป เพราะสำนักงานสลากมีหน้าที่ในการแจ้งความตัดโควตาและเปรียบเทียบปรับเท่านั้น พร้อมยืนยันว่า นอท ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลแต่อย่างใด และคนของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ “นอท” แต่อย่างใด เพราะไม่ต้องการเอาอนาคตของตนเองไปฝากไว้กับผู้กระทำผิด

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ก้าวสู่ปีที่ 5 Future Food Leader Summit 2025 ชวนสร้างไอเดีย บนแนวคิด “อาหารฟื้นฟูเพื่ออนาคต” เปิดตัว Future Food AI ครั้งแรกในเอเชีย
TIPH คว้าอันดับเครดิตองค์กรสูงสุดของกลุ่มโฮลดิ้งส์ ตอกย้ำศักยภาพผ่านการประเมินจากทริสเรทติ้ง
"บิ๊กเต่า" เตรียมส่งทีมสอบ "บอสพอล" ปมเส้นเงิน 8 แสน โยงแม่นักการเมือง ส.
"วราวุธ" ขออย่านำ "เกาะกูด" เป็นประเด็นการเมืองระหว่างประเทศ ชี้ MOU 44 ไม่เกี่ยวข้อกังวลทุกฝ่าย
แม่ค้าขนมครกโอดยอมกัดฟันสู้ หลังราคาน้ำกะทิขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 100 บาทแต่ยันขายขนมครกราคาเดิมกลัวลูกค้าหด
"นายกฯ" เผย ครม.อนุมัติ 2.5 พันล้าน ฟื้นฟูเกษตรกร หลังน้ำลด
หนุ่มขับรถกระบะไปส่งหมู หลับในขับรถพุ่งชนฟุตบาท พลิกคว่ำตีลังกาชนเสาไฟ ดับคารถพร้อมเพื่อนต่างด้าวที่นั่งมาด้วยกันเสียชีวิต 2 ศพ
ครม.ตั้ง “บิ๊กรอย” นั่งที่ปรึกษาภูมิธรรม “คารม-ศศิกานต์” เป็นรองโฆษกรบ.
พบแล้ว "สุสานหรู" ถูก "ซินแส" ใช้ลวงเหยื่อ ซื้อที่ดินต่อดวงชะตาชีวิต ก่อนสูญเงินกว่า 30 ล้านบาท
"นายกฯ" ลั่นไม่แทรกแซง หลังป.ป.ช.ขอเวชระเบียน "ทักษิณ"

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น