“ยธ.” สั่งตั้งกก.สอบ จนท.มีเอี่ยว พา “ประสิทธิ์” หลบหนีศาล

เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แจงปม "ประสิทธิ์" หลบหนีศาล เชื่อแอบอมลูกกุญแจไว้ในปาก พร้อมตั้งกรรมการไล่เบี้ยสอบ จนท. มีเอี่ยวหรือไม่

วันนี้ (23 ธ.ค.) เมื่อเวลา 15.20 น.ที่ เรือนจำกลางคลองเปรม ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เข้าตรวจสอบกล่องเก็บเครื่องมือพันธนาการผู้ต้องขังภายในเรือนจำพร้อมแถลงกรณีนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก จำเลยในคดีฉ้อโกงประชาชนและความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พยายามหลบหนี ขณะถูกเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ควบคุมตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไปเบิกความที่ศาลอาญา

ข่าวที่น่าสนใจ

ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤติ บอกว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม มอบหมายให้ตนได้ชี้แจงกรณีดังกล่าว พร้อมขออภัยที่ทำให้ประชาชนเกิดความไม่สบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยอธิบดีกรมราชทัณฑ์สั่งให้กรมฯ สอบสวนว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีส่วนในการทุจริตหรือไม่ โดยจะใช้เวลาภายใน 1 สัปดาห์ พร้อมสั่งย้ายนายประสิทธิ์ ไปแยกขังที่เรือนจำบางขวาง และจับตาตลอด 24 ชั่วโมงเนื่องจากเกรงว่าจะเกิดความเครียดจนทำร้ายตัวเอง รวมถึงสั่งงดเยี่ยม ทั้งนี้ยืนยันว่าหากตรวจสอบแล้วพบว่ามีเจ้าหน้าที่กระทำทุจริตก็ดำเนินการตามขั้นตอนทุกอย่าง ยอมรับว่าจะนำกรณีนี้ไปแก้ไขปรับปรุงต่อไปเพราะไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น

ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต บอกอีกว่า ก่อนหน้านี้นายประสิทธิ์ ได้ถูกเบิกตัวจากเรือนจำคลองเปรมไปขึ้นศาลเป็นประจำ จนเกิดเป็นช่องทางในการคิดหลบหนีมาโดยตลอด แต่ยืนยันว่า ไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างผู้ต้องขังกับเจ้าหน้าที่แน่นอน เพราะใช้เจ้าหน้าที่จะเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในการคุมตัวออกไปเสมอ

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่ากล่องเก็บอุปกรณ์พันธนาการและกุญแจที่ใช้ในการออกศาลนั้น ลักษณะเป็นตู้ไม้ที่เก่ามีตัวล็อก 2 ชั้น โดยในบริเวณดังกล่าวไม่มีกล้องวงจรปิดติดตั้งครอบคลุม ซึ่งเมื่อนำตัวผู้ต้องขังออกจากเรือนจำ จะมีผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นผู้ต้องขังในเรือนจำ 1 คนที่ได้รับการพิจารณาตรวจสอบแล้ว คอยมาช่วยเหลือพัสดี โดยเวลาเกิดเหตุช่วงเช้า มีเจ้าหน้าที่ออกศาล 3 ราย พัสดี 1 ราย ต้องใช้เวลาตรวจค้นร่างกายไม่น้อยกว่าครึ่งชั่วโมง ซึ่งบริเวณใกล้จุดเก็บของมีเก้าอี้นั่งที่นายประสิทธิ์พักคอยโดยใส่เครื่องพันธนาการเรียบร้อย แต่เจ้าหน้าที่ได้แขวนกุญแจใกล้กับกล่องเก็บ ซึ่งจะมีลูกกุญแจ 1 ชิ้น กับเข็มแทงสลัก 1 ชิ้น โดยเป็นกุญแจชนิดพิเศษที่ไม่สามารถปั๊มใหม่ได้

ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต ยังระบุอีกว่า วันที่เกิดเหตุนายประสิทธิ์พูดกับเจ้าหน้าที่น้อยมากกว่าปกติ เพราะทุกๆ ครั้งนายประสิทธิ์จะพูดคุยเป็นประจำ จึงตั้งข้อสังเกตไว้ว่านายประสิทธิ์ แอบอมลูกกุญแจเอาไว้ในปาก ระหว่างนั้นนายประสิทธ์อ้างว่ามีอาการปวดท้องหนักรุนแรง ทำให้หวั่นว่าอาจจะถ่ายหนักเมื่อใดก็ได้ ดังนั้นเจ้าหน้าที่เกิดความหวังดีจึงคุมตัวไปยังห้องน้ำที่บุคคลทั่วไปสามารถเข้าใช้ได้ ซึ่งตามปกติ เจ้าหน้าที่จะคุมตัวไปยังห้องน้ำบริเวณใต้ถุนศาล

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จะจดจำเครื่องแบบของผู้ต้องขังอยู่เสมอ แต่หลังจากนายประสิทธิ์ออกมาจากห้องน้ำกลับเปลี่ยนเสื้อผ้า สวมกางเกงยีนส์และสวมรองเท้าแตะ และเดินก้มหน้าออกมา เมื่อสอบถามแล้ว นายประสิทธิ์ ก็รีบเดินลงบันไดอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงรีบเข้าไปตรวจสอบในห้องน้ำแล้วไม่พบตัว จึงรีบประสานตำรวจศาลเข้าจับกุม แล้วไปพบนายประสิทธิ์ที่ชั้น 6 ก่อนมีการฉุดกระชากจนเสื้อขาด แล้วไปจับตัวได้ที่ชั้น 3 โดยตอนนี้ได้สอบปากคำผู้ช่วยฯ และผู้คุม พร้อมค้นตัวผู้ต้องขังอีก 2 ราย โดยเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) จะตรวจสอบเส้นทางการเงินของเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวันเกิดเหตุด้วย แต่ยืนยันได้ว่าผู้ให้การช่วยเหลือของนายประสิทธิ์นั้นเป็นบุคคลจากภายนอก เพราะภายในเรือนจำไม่มีการใช้เงิน

จากการทดสอบยังพบว่าใช้เวลาปลดลูกกุญแจไม่เกิน 20 วินาทีเท่านั้น เบื้องต้นพบว่ามีตัวสลักและลูกกุญแจหายไปอีกด้วย ยอมรับในเรื่องงบประมาณในการจัดซื้ออุปกรณ์ที่มีจำกัด และกำลังคนในการดูแลผู้ต้องขังไม่เพียงพอจึงต้องมีผู้ช่วยผู้คุม ส่วนประเด็นการตรวจค้นร่างกายผู้ต้องขังนั้น ในการนำตัวออกจากเรือนจำมีความเข้มข้นอยู่แล้ว หากแต่การนำตัวกลับมาคุมขังต่อนั้นจะเข้มข้นมากกว่า ส่วนสาเหตุที่ไม่ใช้โซ่ตรวนกับผู้ต้องขังนั้น เนื่องจากมีประเด็นในเรื่องของสิทธิมนุษยชน จึงใช้กุญแจมือ ล็อกช่วงข้อเท้าแทน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"พระปีนเสา" เล่านาที ถูกทำร้ายหน้าช่อง 8 เจ็บจนเห็นดาวเห็นเดือน โร่แจ้งความตำรวจ สน.บางเขน
"กลุ่มชายปริศนา" แหวกวงล้อมสื่อ เข้ารุมทำร้าย "พระปีนเสา" ขณะให้สัมภาษณ์
เปิดตัว "TKR Connect" แพลตฟอร์มจัดหางานครบวงจร สร้างมิติใหม่รองรับแรงงานต่างด้าวอย่างถูกกม.
ออกหมายจับ "หมอบุญ" พร้อมพวกรวม 9 คน “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน” ปลอมลายเซ็นอดีตลูกสะใภ้กู้เงิน 8 พันล้าน
ระทึกกลางดึก ไฟไหม้ "ร้านกาแฟ" เผาวอดทั้งหลัง เสียหายกว่า 7 แสนบาท
"อุตุฯ" เผย "เหนือ-อีสาน-กลาง" อากาศเย็นตอนเช้า เตือนใต้ยังรับมือฝนตก
แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนครอบครัวกำลังพล ห่วงใยไปถึงบ้าน เพราะเราคือครอบครัวกองทัพบก
สวนนงนุชพัทยาเปิดเวที CHONBURI PROUD EXPO 2024 หนุน SMEs ชลบุรีสู่ตลาดโลก
“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น