วันที่ 24 ธ.ค.65 ที่ศูนย์ปฏิบัติการสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย นายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมฯ นายสมชาย จรรยา อุปนายก นายสุรชัย นิโคธานนท์ อุปนายก นายกันตเมธส์ จโนภาส ทนายประจำสมาคมฯ พร้อมตัวแทนสื่อมวลชนแขนงต่างๆร่วมแถลงการตั้งฉายาตำรวจประจำปี 2565
นายไพโรจน์ เผยว่า ผู้สื่อข่าวในสายงานด้านอาชญากรรมได้ทำงานใกล้ชิดกับแหล่งข่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตลอดปีที่ผ่านมา ได้เฝ้าติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจนำเสนอผลงานสู่สายตาประชาชน เพื่อสะท้อนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ร่วมกันตั้งฉายาตำรวจประจำปีขึ้นทุกปี ซึ่งเกณฑ์ในการตั้งฉายานั้น มีการประชุมร่วมกันกับตัวแทนสื่อมวลชนจากสังกัดต่างๆ เสนอรายชื่อนายตำรวจเข้ามา และทำการคัดเลือก โดยในปีนี้เหลือเพียง 11 นาย ดังนี้
1.พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับฉายา “ผบ.ปี ชง” นับตั้งแต่การก้าวเข้ามารับตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.65ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน 3 เดือน“บิ๊กเด่น”พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ต้องเผชิญกับสารพัดปัญหา ตลอดจนเจอมรสุมเรื่องวงการสีกากี อาทิเช่น อดีตตำรวจก่อเหตุกราดยิงที่ จ.หนองบัวลำภู อดีตตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ขโมยปืนหลวงไปขาย กลุ่มทะลุฟ้ายื่นเรียกร้อง ผบ.ตร. 3 ข้อให้รับผิดชอบกล่าวหาตำรวจใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุม “ราษฎรหยุด เอเปค 2022” คดีทุนจีนสีเทา ที่สงสัยว่าจะมีข้าราชการตำรวจไปเอี่ยว เรียกรับผลประโยชน์ แลกปล่อยรถหรูผับจินหลิง
ล่าสุดกับการโกงสอบเข้าเป็นตำรวจในพื้นตำรวจภูธรภาค 9 ทั้งหมด ผบ.ตร.สั่งการให้ตำรวจตรวจสอบถอดบทเรียนความผิดพลาดทุกกรณี จนสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆไปได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งเปรียบเสมือนปีนี้เป็นปี ชง ของ ผบ.ตร.จริงๆ
2. พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ ได้รับฉายา “หิน คลีนนิ่ง” เป็นที่ทราบกันดีว่าในรอบปีที่ผ่านมาข่าวคราวในแวดวงตำรวจเป็นไปในทิศทางลบ มีเรื่องราวต้องให้แก้ไข และทุกครั้งจเรตำรวจแห่งชาติ จะถูกมอบหมายให้รับภารกิจในการตรวจสอบข้อเท็จจริง เปรียบเสมือนพ่อบ้านที่คอยเก็บกวาดขยะที่ซุกซ่อนอยู่ใต้พรม ในปีนี้ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ ได้ทำการตรวจสอบตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ย.65 มีข้าราชการตำรวจถูกลงโทษทั้งสิ้น 229 นาย เป็นการไล่ออกจากราชการ จำนวน 178 นาย และปลดออกจากราชการ จำนวน 51 นาย จึงเป็นที่มาของฉายา “หิน คลีนนิ่ง”
3. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับฉายา “โจ๊ก…เต็มคาราเบล” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถือได้ว่าเป็นนายตำรวจที่มีประชาชนติดตามการทำงานเป็นจำนวนมาก ได้รับมอบหมายงานด้านสืบสวนสอบสวน เป็นผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปน.ตร.) และปราบปรามน้ำมันเถื่อน ก็มีผลงานปรากฏสู่สายตาประชาชนในการทำคดีต่างๆ มากมาย
และคดีล่าสุดได้ดำเนินการกวาดล้างขบวนการกลุ่มทุนจีนสีเทา ที่เข้ามาใช้ไทยเป็นฐานในการกระทำความผิดรวมทั้งขยายผลยึดทรัพย์จับกุมนาย “ตู้ห่าว” ผู้ต้องหาคนสำคัญซึ่งเชื่อว่าเป็นหนึ่งในห้ามาเฟียกลุ่มจีนสีเทา โดยการดำเนินการในแต่ละครั้ง “บิ๊กโจ๊ก” จัดหนัก จัดเต็ม ทุกรูปแบบทุกมิติ ทั้งขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงิน ยึดทรัพย์ จึงเป็นที่มาของฉายา “โจ๊ก…เต็มคาราเบล”
4.พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ ตร. ชื่อเล่นว่า “หลวง” ได้รับฉายาว่า “แมวหลวง สตช.” พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ เป็นนายตำรวจที่เก่งทั้งบู๊และบุ๋นและเป็นหนึ่งเดียวในระดับผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้รับความไว้วางใจจาก ผบ ตร. และ รอง ผบ ตร. ดูแลงานครบทุกหน้างานและทุกมิติ ทั้งงานสืบสวน สอบสวน งานป้องกันปราบปราม งานมั่นคงและกิจการพิเศษ อีกทั้งยังได้รับหมายให้ดูแลงาน ป้องกัน บำบัด ผู้ติดยาเสพติด โดยเน้นนำผู้เสพยาเสพติดเข้าสู่ขบวนการบำบัด ซึ่ง เป็นนโยบายของรัฐบาล ผลงานการปราบปรามอาชญากรรมสำคัญๆที่สามารถปิดคดีได้ ก็เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดล่าสุดสามารถจับกุมผู้ที่ลักลอบเล่นพนันทายผลฟุตบอลโลก จับกุมผู้ต้องหาได้ 12,245 ราย ยึดทรัพย์กว่า 1,770 ล้าน เงินสะพัดกว่า 1.1 หมื่นล้านจึงได้รับฉายาว่า “แมวหลวง สตช.”
5.พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้รับฉายา “โอ๋ เดอะสตาร์” พล.ต.ท.ธนายุตม์ เป็นนายตำรวจฝีมือดีที่ทำงานเชิงรุกจนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ได้รับความไว้วางใจดูแลพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 7 ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาสามารถจับกุมคดียาเสพติด ยาบ้า ยาไอซ์ ยาเค เฮโรอีน ได้เป็นจำนวนมาก และตรวจยึดทรัพย์สินมูลค่า ร่วม100 ล้านบาท จับกุมคดี อาวุธสงคราม 2 พันกว่ากระบอก ผู้ต้องหา 2,589 ราบ และจับกุมบุคคลตามหมายจับ 3,033 คดี ผู้ต้องหา 3,024 ราย ล่าสุดสามารถจับกุมผู้ที่เล่นพนันทายผลฟุตบอลโลกเป็นอันดับ1 ของกองบัญชาการ จนเป็นที่โดดเด่นในสายตาของประชาชนและสื่อมวลชนจึงได้รับฉายาว่า “โอ๋ เดอะสตาร์”
ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีคำสั่งแต่งตั้งก็เป็นตัวเก็งว่าจะถือตั๋วคว้าตำแหน่ง”ผบช.ภ.8” ตั้งแต่ไก่โห่ จนกระทั้งมติ ก.ตร.แต่งตั้งโยกย้ายเสร็จสิ้นกลับไม่ปรากฎชื่อ เป็นผู้บัญชาการใดสักแห่ง ล่าสุดการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับผู้บังคับการ (ผบก.)- ผู้บัญชาการ (ผบช.) นอกวาระประจำปีปรากฏว่ามีชื่อ พล.ต.ต.วันไชย เป็นจเรตำรวจ (สบ 8) เทียบเท่าผู้บัญชาการ จึงเป็นที่มาของฉายา“นายพลดับเครื่องชน”