น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประกาศให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน แม้เศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัว แต่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสF8;bf -19 ยังคงภาระหนี้อยู่ จึงได้มอบนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ แก้ไขปัญหาหนี้สินที่มีอยู่เดิม สร้างรายได้ผ่านการอาชีพและอาชีพเสริม และสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ประชาชนด้วยการส่งเสริมทักษะในการประกอบอาชีพ
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ทั้งนี้ กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยร่วมกันจัดงาน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ : มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจนไม่สามารถชำระหนี้ได้ โดยมีเจ้าหนี้เข้าร่วมกว่า 60 ราย เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มเปราะบางที่รายได้ยังไม่กลับมาเต็มที่ และอาจได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น โดยได้จัดงาน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน”สัญจร 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ และเปิดให้มีการลงทะเบียน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ออนไลน์” ปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนเพื่อขอแก้ไขหรือปรับปรุงโครงสร้างหนี้ผ่านระบบออนไลน์มากกว่า 170,000 รายแล้ว (ข้อมูล ณ วันที่ 19 ธันวาคม) คิดเป็นจำนวนรายการสะสมมากกว่า 380,000 รายการ ประกอบด้วย ลูกหนี้ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 35% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19% ภาคกลาง 12% และภาคอื่นๆ 34% ของลูกหนี้ที่ลงทะเบียนทั้งหมด ส่วนประเภทสินเชื่อที่มีการลงทะเบียนสูงสุดคือ บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล 75% สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ 6% และจำนำทะเบียนรถ 4%