“ชูวิทย์” ชี้สำนวน “ตู้ห่าว” ไม่รัดกุม ขู่เขย่าเก้าอี้ผบ.ตร. หากไม่เปลี่ยนตัวผบช.น ทำคดี

ชูวิทย์ ชี้สำนวนคดีตู้ห่าว หละหลวมไม่รัดกุม เข้าข่ายสมคบคิด แจ้งข้อหาฟอกเงินช้า เป็นช่องโหว่ให้มีการยักย้ายทรัพย์สินได้ ขู่เขย่าเก้าอี้ ผบ.ตร. หากไม่เปลี่ยนตัว ผบช.น.

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง แถลงข่าว “รับวันคริสต์มาส” เพื่อมอบของขวัญเป็นคำถามให้กับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ว่า การทำสำนวนคดีของตำรวจเปรียบเหมือนการปรุงอาหาร ที่ตำรวจเป็นคนปรุงและส่งให้อัยการชิม ก่อนเสิร์ฟให้ศาลเพื่อตัดสินว่า อร่อย (รับฟ้อง) หรือ ไม่อร่อย (สำนวนอ่อน ยกฟ้อง) ซึ่งขณะนี้ตนเองมองว่า การทำคดีนี้ เป็นการสมคบคิดร่วมกันทำ มีการทำอาหารจานนี้ หรือ สำนวนคดี มีความละหลวม ไม่รัดกุม มีหลายประเด็นที่มีข้อสงสัย หากปล่อยให้สำนวนคดีนี้ไปถึงชั้นศาล ย่อมอาจเป็นช่องว่างให้ทางทนายความฝั่งจำเลยใช้ช่องเหตุแห่งความสงสัยต่าง ๆ เพื่อสู้คดี

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

 

อีกทั้งที่ผ่านมา ตนเองออกมาพูดเรื่องการเอาผิดกับกลุ่มผู้ต้องหาโดยเฉพาะ นายชัยณัฐร์ กรณ์ชาญานันท์ หรือตู้ห่าว เรื่องของการฟอกเงินมาตลอด แต่ทางตำรวจได้มีกาปล่อยให้กินเวลานานถึงสองเดือน จึงจะเริ่มมีการแจ้งข้อหา ซึ่งเรื่องของทรัพย์สินตนเองตั้งข้อสงสัยว่า อาจมีการยักย้ายถ่ายเทไปแล้วหลายส่วน โดยหากมองจากไทม์ไลน์ลำดับเหตุเหตุการณ์ วันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเข้าจับกุมตรวจค้น ผับจินหลิง ต่อมามีกาจับกุม นายตู้ห่าว เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน จนมาเมื่อวานวันที่ 24 ธันวาคม พึ่งจะมีการแจ้งข้อหาฟอกเงิน กับผู้ต้องหา แต่ไม่มีการแจ้งข้อหากับ นายตู้ห่าว แต่อย่างใด

 

แต่งตั้ง ผบ.ตร. คนที่ 13 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์

ส่วนคำถามในข้อแรกที่ตนเองอยากให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลตอบคำถามต่อสังคมคือ การเข้าค้นรอบแรกวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้ของกลางจาก ผับจินหลิง รวมยาเสพติดกว่า 4.5 กิโลกรัม แต่ไม่เข้าค้น วิบวับคาร์วอช ทั้งที่เป็นบ้านเลขที่เดียวกัน ตั้งอยู่ในรั้วเดียวกัน แต่กลับมาค้นที่วิบวับคาร์วอช อีกครั้งในวันที่ 1 พฤศจิกายน เวลา 17.00 ถึง 18.00 พบของกลางยาเสพติด เพียง 950 กรัม ทำไมจึงไม่ทำการค้นตั้งแต่วันแรกที่เข้าค้น เพราะมีการลงเวลาการค้นเพียง 1 ชั่วโมง

 

ขณะเดียวกัน ตนเองมองว่า วิบวับคาร์วอชช เป็นคลังเก็บยาเสพติด ส่วนจุดที่ค้นในวันที่ 26 ตุลาคม เป็นเพียงจุดขายปลีก ดังนั้นเชื่อว่า การทิ้งไว้นานถึง 5 วัน อาจเป็นช่องให้มีการยักย้ายถ่ายเทยาเสพติดออกจากพื้นที่ แม้จะมีการอ้างว่า มีการส่งกำลังตำรวจเข้าไปปิดล้อมพื้นที่ แต่พบว่าเป็นเพียง ตำรวจยศนายสิบ 2 คน ที่เข้าไปดูแลสถานที่ อีกทั้งสำเนาบันทึกของกลางที่เข้าตรวจค้นในวันที่ 26 ตุลาคม ก็สูญหายที่ สน.ยานนาวา จนถึงขณะนี้ยังไม่พบเอกสารดังกล่าว

ฉะนั้นการที่ผ่านมานานกว่า 5 วัน เป็นการจงใจทำให้เกิดสิ่งใดหรือไม่ จุดนี้เป็นประเด็นที่ตนเองในฐานะประชาชนสามารถตั้งคำถามได้ ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ต้องตอบคำถามในประเด็นนี้ให้ได้อย่างชัดเจน เพราะการทิ้งระยะเวลาผ่านไปถึง 5 วัน อาจส่งผลกระทบกับตัวสำนวนคดีอย่างมาก

ขณะที่ คำถาม 2 คือ วันเข้าตรวจค้น วันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา เลขคดี 794/2565 ไม่มีการลงระบบ Crime ซึ่งเป็นระบบ ฐานข้อมูลสำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ในวันเข้าค้นวันที่ 1พฤศจิกายน เลขคดี 803/2565 กลับมีการลงบันทึก เป็นการเข้าค้นในวันที่สองพฤศจิกายนซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริง

อีกทั้งการเข้าค้นในวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาตำรวจพบหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด ปรากฏภาพของนายเหมาหยาง ว่าเป็นบุคคลที่อยู่ในสถานที่ดังกล่าวแต่ตำรวจกลับไม่มีการดำเนินการใดใดกับนายเมาหยางทั้งทั้งที่สถานที่ดังกล่าวมีการตรวจพบยาเสพติด และกลับลงในระบบฐานข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าไม่พบผู้กระทำความผิดในวันเข้าตรวจค้น

พร้อมกันนี้ตนเองยังฝากถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติว่า หากไม่มีการเปลี่ยนตัวผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะถูกเขย่าสั่นไหว ตนเองจึงขอแนะนำให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งให้มีการเปลี่ยนตัวและหาคนอื่นมาทำงานแทน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

รัฐบาลยืนยันเดินหน้าช่วยเหลือ "นายจ้าง-ลูกจ้าง" รับผลกระทบเหตุแผ่นดินไหว ให้ความคุ้มครองตามกม. ยึดประโยชน์ทุกฝ่าย
ดีอี เผยสถิติ สแกน “เฟคนิวส์” 1.17 พันล้านข้อความ พร้อมแจ้งเตือนข่าวปลอม-บิดเบือน ปชช.แล้วกว่า 10,000 เรื่อง
"ธรรมนัส" ร่วมผู้ว่าฯพะเยา เดินหน้าโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยต้นผึ้ง เผยกักเก็บน้ำ 2 แสนลิตร เป็นประโยชน์ชาวบ้าน เกษตรกร กว่า 700 ครัวเรือน
ทำเนียบขาวสหรัฐ เผย 50 ประเทศ เริ่มขอเจรจา "ทรัมป์" ปมภาษีนำเข้า
อุตุฯเตือนรับมือ พายุฤดูร้อนถล่ม 38 จังหวัด เหนือ-อีสาน หนักสุด กทม.ก็โดนด้วย
กทม.แจงปรับแผนรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิต "ตึกสตง.ถล่ม" รอยืนยันจากนิติเวช ก่อนขึ้นบอร์ด
"พรรคสังคมประชาธิปไตย" ออกแถลงการณ์ฉบับใหม่ ย้ำจุดยืนต้านร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์+กาสิโน ชี้ปชช.ไร้ส่วนร่วมตัดสินใจ
"นายกฯ" วางพานพุ่มดอกไม้ ถวายราชสักการะ เนื่องในวันที่ระลึก "มหาจักรี"
สมาคมประชาคมคนตาบอดไทย เข้าพบ "ดร.ปราจิน"  รับมอบเงิน  6 แสนบาท สมทบทุนซื้อ "ไม้เท้าขาว" ส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้พิการทางสายตาทั่วประเทศ
“DITP" ขับเคลื่อนนโยบายเชิงรุก ยกทัพบุก 5 จังหวัดชายแดนใต้ ปั้นนักรบการค้า "ฮาลาล" สู่ตลาดโลก

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น