“อนุทิน” โชว์วิสัยทัศน์ว่าที่แคนดิเดตนายกฯ ส่งท้ายปี

“อนุทิน” โชว์วิสัยทัศน์ว่าที่แคนดิเดตนายกฯ ส่งท้ายปี

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ขณะลงพื้นที่พบปะประชาชนที่จังหวัดบุรีรัมย์ ถึงกระแสข่าวในช่วงนี้พร้อมวิสัยทัศน์สำหรับประเทศไทยภายหลังการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง ว่า พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคที่ไม่ค่อยมีกระแสวูบวาบให้ตื่นเต้น แต่ตนสัมผัสได้จากโพลในชีวิตจริง จากการพบปะกับพี่น้องประชาชนทั้งเวลาลงพื้นที่ และตามถนนหนทางร้านก๋วยเตี๋ยวที่ชอบไปแวะกินว่า มีคนแสดงออกอย่างเป็นมิตรและดีใจที่ได้เจอเรามากขึ้น มีคนมาขอถ่ายรูปมาขอบคุณ อวยพรฝากฝังชาติบ้านเมืองกับเรามากขึ้น สิ่งเหล่านี้แต่ก่อนไม่มี แล้วมามีมากในช่วงครึ่งปีหลังมานี้ เราก็เก็บมาเป็นกำลังใจในการทำงาน

ส่วนเรื่องนโยบายหาเสียงเลือกตั้งของพรรคนั้น นายอนุทินกล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า โชคดีที่พรรคภูมิใจไทยไม่มีปัญหาความขัดแย้งภายใน มีความชัดเจนในตัวผู้นำที่จะเป็นแคนดิเดทนายก และเอกภาพภายในพรรคสูงมาก จึงมีความพร้อมในการทำนโยบายเร็ว และสื่อสารออกมาเป็นแพคเกจได้ทันทีที่มีความชัดเจนเกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้ง โดยนโยบายหลักๆที่ถือเป็นเรือธงของพรรค ได้แก่ นโยบายพักหนี้ “เกษตรร่ำรวย” “กรีนดี อยู่ดี” และ “ทำด้ามขวานไทย เป็นด้ามขวานทอง” ด้วยโครงการแลนด์บริดจ์ ซึ่งล้วนแต่มีความเป็นรูปธรรมจับต้องได้ และสื่อสารง่าย

“พรรคเราได้ชื่อว่าเป็นพรรคปฏิบัติการ เราจึงทำทุกอย่างโดยเน้นความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ (practical) อะไรที่พูดแล้วสวยหรูแต่ทำไม่ได้เราไม่พูด พรรคเราต้องพูดแล้วทำ แต่ก่อนจะพูดแล้วทำได้ เราต้องประเมินว่ามีอะไรที่พอจะเป็นไปได้บ้าง แล้วผลักดันตรงนั้น”นายอนุทิน กล่าวว่า

นายอนุทิน กล่าวถึง นโยบายเกษตรร่ำรวย หรือ Contract Farming ที่จะเป็นทางเลือกให้ประชาชน ว่าหลักการคือจะต้องมีพันธะร่วมกันระหว่างรัฐกับเกษตรกร โดยเกษตรกรจะรู้ราคาพืชผลล่วงหน้า แต่หากมีความเสียหายจากความเสี่ยงใดๆที่เกิดขึ้นได้ในการทำไร่ทำนา รัฐก็รับภาระตรงนั้นให้ เราต้องอย่าลืมว่าเกษตรกรรมสำหรับประเทศนี่ถือเป็นความมั่นคงทางอาหารด้วย เราจะปล่อยพี่น้องชาวไร่ชาวนาไปตามยถากรรมกับความไม่แน่นอนของฟ้าฝนไม่ได้ ถ้าวันหนึ่งเขาเลิกทำไร่ไถนา คนไทยจะขาดความมั่นคงทางอาหาร ต้องไปพึ่งพาต่างชาติ ในภาวะที่มีความไม่ราบรื่นระหว่างประเทศหรือในยามสงคราม เราก็จะลำบาก ดังนั้นต้องมีการสนับสนุน แต่วิธีไหนเคยทำมาในอดีตแล้วมีปัญหา เราก็ไม่ทำ พรรคภูมิใจไทยก็เลือกวิธีใหม่ที่ถูกพิสูจน์แล้วว่าทำได้ ภาคเอกชนเขาก็ทำกัน

นายอนุทิน กล่าวว่า แม้นโยบายทั้งหมดจะเป็นไปเพื่อปากท้องของประชาชนเป็นหลัก แต่ก็มีความเชื่อมโยงกับเรื่องที่เป็นวาระระดับนานาชาติด้วย เช่นนโยบาย “กรีนดี อยู่ดี” “เราก็มีนโยบายในการช่วยลดมลภาวะและการใช้พลังงาน เช่นจะสนับสนุนการติดแผงโซล่าเซล เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์จากพลังงานแสงอาทิตย์ ลดค่าไฟได้เดือนละ 450 บาท มีเหลือขายให้รัฐได้” นอกจากนี้ พรรคภูมิใจไทยยังสนับสนุนการใช้รถไฟฟ้า โดยเริ่มจากมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ที่จะขายในราคาถูกและผ่อนจ่ายรายเดือนได้เพียงเดือนละหนึ่งร้อยบาท และการปลูกต้นไม้แลกกับเงินจากคาร์บอนเครดิต ซึ่งจะตอบโจทย์ทั้งในการยกระดับคุณภาพชีวิตและประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอย่างยั่งยืน

“จะเห็นว่าทุกนโยบายของเรามุ่งไปตอบโจทย์เรื่องเดียวกัน คือปากท้องของพี่น้องประชาชน ด้วยวิธีลดรายจ่าย และเพิ่มรายได้ หลักคิดง่ายๆแค่นี้ เพื่อให้คนไทยมีเงินเหลือในกระเป๋า ไม่ใช่ต้องชักหน้าไม่ถึงหลังกันตลอดเวลา เมื่อมีเงินเหลือในกระเป๋าแล้ว เขาก็ไม่ต้องมีความกังวล สามารถไปพัฒนาศักยภาพและกิจการของตนเองได้ดีขึ้น เพิ่มความมั่งคั่งให้ครอบครัวได้ ส่วนรัฐก็จะไปพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในระดับชาติ เพื่อเปิดโอกาสทางเศรษฐกิจอีกที” นายอนุทิน กล่าว

ข่าวที่น่าสนใจ

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า สำหรับนโยบายทางการสาธารณสุข อย่างการฟอกไตฟรี ให้มีเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็งฟรีทุกจังหวัด ศูนย์ฟอกไตฟรีทุกอำเภอ ก็ล้วนแต่เป็นการลดภาระให้ประชาชน ทำให้ครอบครัวมีความเข้มแข็งพอจะไปทำมาหากินต่อได้

นายอนุทิน ยังฉายภาพในอนาคต กับวิสัยทัศน์ “ทำด้ามขวานไทย เป็นด้ามขวานทอง” ด้วยโครงการแลนด์บริดจ์ โดยมองว่าไทยซึ่งมีที่ตั้งอยู่กึ่งกลางอาเซียนนั้น ควรจะต้องมีระบบขนส่งที่เชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน เป็นเหมือน “หัวจ่าย” ที่สามารถกระจายสินค้าไปได้ทุกทิศ โดยไม่ต้องขุดคอคอดกระให้เป็นประเด็นเรื่องความมั่นคงกัน แต่ใช้สิ่งที่เรียกว่า วันพอร์ต แลนด์บริดจ์ โดยเชื่อมฝั่งอันดามันกับฝั่งอ่าวไทย ซึ่งจะประหยัดเวลาขนส่งสินค้าได้ถึง 4 วัน จากที่เคยต้องแล่นเรืออ้อม ส่งผลให้สินค้าบางอย่างเสียหายได้

นายอนุทิน กล่าวว่า เราต้องมองทุกอย่างเป็นองค์รวม อย่างที่ผ่านมาในฐานะรองนายกฯได้ดูแลกระทรวงที่มีส่วนกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจถึงสามกระทรวง คือ สาธารณสุข ท่องเที่ยว และคมนาคม เราเอาทุกอย่างมาเชื่อมกันหมด ทำอย่างไรให้ระบบสาธารณสุขเข้มแข็ง มีชื่อเสียงจนสร้างความมั่นใจกับนักท่องเที่ยวได้ ช่วงโควิดเราฉวยโอกาสในระหว่างที่มีการล็อคดาวน์ จัดการเดินหน้าโครงการต่างๆเพื่อยกระดับระบบคมนาคมให้ดีขึ้น เราจึงเป็นประเทศที่มีความพร้อมมากที่สุดประเทศหนึ่งในทันทีที่ประกาศเปิดประเทศและลดสถานะของโรคโควิด 19 ทุกนโยบายมีความเชื่อมโยงและไปบรรจบกันที่การยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย ด้วยการลดภาระรายจ่าย สร้างช่องทางในการเพิ่มรายได้ แล้วต่อยอดด้วยการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจในระดับประเทศ

ผู้สื่อข่าวถามถึงการต่อสู้ทางการเมืองในศึกการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง ว่าภูมิใจไทยมีแนวโน้มจะจับมือกับพรรคใดเป็นพิเศษบ้างหรือไม่ในการจัดตั้งรัฐบาล นายอนุทิน “อย่างที่บอกไปแล้ว ราชสีห์ของหนู คือประชาชน หนูตัวนี้จะไปอยู่ตรงไหนก็ได้ ตราบใดที่เอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นตัวตั้ง” นอกจากนี้สิ่งที่อยากเห็นในการเมืองไทยหลังเลือกตั้งรอบนี้คือ “การสลายขั้ว” ประเทศไทยจะได้เดินหน้าต่อไปได้อย่างราบรื่น ดังตัวอย่างจากพรรคภูมิใจไทย ที่เมื่อไม่มีปัญหาความขัดแย้งภายใน ก็สามารถจะโฟกัสกับการขับเคลื่อนเพื่อผลักดันนโยบายต่างๆได้ หากไร้ซึ่งเอกภาพภายใน ก็คงไม่สามารถเป็นพรรคที่เติบโตมั่นคงมาได้อย่างทุกวันนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ทักษิณ" ลั่นอย่าฟังเสียงนกเสียงกา "รัฐบาล" ใกล้พัง หยันฝันลมแล้งยุบสภา จวกขาประจำด่านายกฯระวังให้ดี
"พิพัฒน์" รับยังไม่พอใจ ผลผลักดันขึ้นค่าแรง 400 บาท คาดหวังจะได้หลายจังหวัดกว่านี้
ตร.ไซเบอร์ บุกทลาย "เว็บพนันรายใหญ่" เมืองเชียงราย พบเงินหมุนเวียน 200 ล้านต่อเดือน
เพจดังโคตรแสบ! ตั้งฉายา สส.พรรคส้ม แห่กระทืบไลก์ “มะขิ่น ขอสไลด์”
จีนเตือน ‘ฟิลิปปินส์’ ถอนระบบขีปนาวุธสหรัฐฯ ตามคำมั่น
ซานต้าเริ่มตระเวนแจกของขวัญในวันคริสต์มาสอีฟ
บริกส์รับไทยเป็นหุ้นส่วนอย่างเป็นทางการมกราคมปีหน้า
ตำรวจเปรูปลอมตัวเป็น “เดอะ กริ๊นช์” ทลายแก๊งยาเสพติด
ปูตินเผยคืบหน้าแผนพัฒนาดินแดนยึดครองรัสเซีย
อธิบดีกรมการจัดหางาน รับมีการซื้อใบรับรองแพทย์ 'ตรวจโรคต่างด้าว' ขอความร่วมมือนายจ้างเข้มงวด หวั่นเกิดโรคระบาด

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น