สพฐ.สั่งตั้งกก.สอบวินัยอย่างร้ายแรง ครูสาว พาดพิง “ป๋าเปรม”

โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ติดตามความคืบหน้าการดำเนินการของ สพฐ.กรณีครูสาวเป็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ ล่าสุดมีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง พร้อมสั่งย้ายเข้ากรุ สพฐ.กทม.เขต 2 รอพิจารณาความผิดและกำหนดโทษตามอำนาจหน้าที่

โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ติดตามความคืบหน้าการดำเนินการของ สพฐ.กรณีครูสาวเป็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ ล่าสุดมีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง พร้อมสั่งย้ายเข้ากรุ สพฐ.กทม.เขต 2 รอพิจารณาความผิดและกำหนดโทษตามอำนาจหน้าที่

มีรายงานเปิดเผย เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. ที่ผ่านมา นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญและติดตามความคืบหน้าการดำเนินการของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กรณีข้าราชการครูโรงเรียนแห่งหนึ่งที่เป็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ โดยล่าสุดมีความคืบหน้ากรณีดังกล่าว ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา กรุงเทพมหานคร เขต 2 ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงครูสาวรายดังกล่าวแล้ว พร้อมสั่งการให้ครูคนดังกล่าวมาประจำที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 2 โดยเมื่อดำเนินการสอบสวนเสร็จ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 2 จะพิจารณาความผิดและกำหนดโทษตามอำนาจหน้าที่ และรายงาน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา และ ก.ค.ศ. พิจารณาตามลำดับ

 

ครม.แต่งตั้ง 'อนุชา บูรพชัยศรี' เป็นโฆษกรัฐบาลคนใหม่แทน 'นฤมล' | อินโฟเควสท์ | LINE TODAY

ข่าวที่น่าสนใจ

นายอนุชา กล่าวว่า สพฐ.ได้รายงานต่อกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2565 โรงเรียนได้รับคลิปวิดีโอที่เป็นข่าวจากผู้ปกครอง หลังจากได้ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นการจัดการเรียนการสอนวิชาสังคมศึกษา ของระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 สอนโดยครูดังกล่าวเป็นผู้สอน ซึ่งในขณะนั้น โรงเรียนมีกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ โดยนักเรียนระดับชั้น ม.2 และ ม.3 ไปเข้าค่ายลูกเสือที่ จ.สระบุรี วันที่ 21-23 ธันวาคม 2565

 

ส่วนนักเรียนชั้น ม.1 ได้ทำกิจกรรมค่ายลูกเสือที่โรงเรียน วันที่ 22-23 ธันวาคม 2565 และในส่วนของนักเรียน ชั้น ม.4-6 ให้หยุดเพื่ออ่านหนังสือสอบ ในวันที่ 26-29 ธันวาคม 2565 เมื่อโรงเรียนทราบเรื่องดังกล่าว ได้ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที และให้คณะกรรมการได้ดำเนินการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้านและรอบคอบอย่างรวดเร็ว โดยคณะกรรมการได้แจ้งให้ครูรายดังกล่าวทราบถึงกรณีที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งให้จัดทำบันทึกชี้แจงรายงานต่อคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง จากนั้นผู้อำนวยการโรงเรียนได้รายงานเหตุการณ์ไปยังผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 2 และรายงานต่อเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามขั้นตอนแนวปฏิบัติของการปฏิบัติหน้าที่ทางราชการ

 

 

 

นายอนุชา กล่าวว่า ต่อมาในวันที่ 22 ธันวาคม 2565 คณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงได้สรุปรายงานการสืบสวนฯ เสนอผู้อำนวยการโรงเรียน โดยผลการสืบสวนปรากฏว่า พฤติกรรมของครูรายดังกล่าว มีมูลอันควรกล่าวหาว่ากระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรง จึงได้เสนอต่อผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 2 ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง ระหว่างนั้น โรงเรียนได้ทำการชี้แจงความคืบหน้าในการดำเนินการ ผ่านเครือข่ายผู้ปกครองได้รับทราบอย่างใกล้ชิด และทางด้านผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา กรุงเทพมหานคร เขต 2 ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงครูรายนี้ พร้อมสั่งการให้ครูคนดังกล่าวมาประจำที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 2

สำหรับการดำเนินการทางวินัยนั้นจะต้องเป็นไปตาม กฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการสอบสวนพิจารณา พ.ศ. 2550 ประกอบกรณีดังกล่าวเป็นที่สนใจของประชาชนจะต้องดำเนินการสอบสวนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้อีก ทั้งนี้ เมื่อดำเนินการสอบสวนเสร็จ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 2 จะพิจารณาความผิดและกำหนดโทษตามอำนาจหน้าที่ และรายงาน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา และ ก.ค.ศ. พิจารณาตามลำดับต่อไป

 

“สพฐ. ได้ส่งเจ้าหน้าที่ศูนย์ความปลอดภัย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ลงพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจกับนักเรียน ครู และผู้ปกครอง โดยสิ่งที่ต้องดำเนินการต่อไป คือ เพิ่มความเข้มข้นของโครงการนิเทศภายใน การเพิ่มความตระหนักของครูในเรื่องจรรยาบรรณวิชาชีพ เพิ่มช่องทางการประเมินการสอนของครูผู้สอนอย่างรอบด้าน เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้อีก รวมถึงเน้นย้ำครูทุกคนให้ดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด มิให้เกิดการสับสนในข้อมูล ซึ่งอาจส่งผลกระทบทางจิตใจของนักเรียนที่เกี่ยวข้อง และประชาสัมพันธ์นักเรียนและผู้ปกครองในการใช้ MOE Safety Center ที่เป็นระบบมาตรฐานความปลอดภัยในสถานศึกษาในการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ให้ได้รับการปกป้อง คุ้มครองความปลอดภัยทั้งด้านร่างกายและจิตใจ” นายอนุชาฯ กล่าว

 

อนุชา บูรพชัยศรี : สำนักข่าวอินโฟเควสท์

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย
ทบ.ขานรับนโยบายปราบยาเสพติด เพิ่มทหาร 6 กองกำลัง วัดเคพีไอ 10 กพ.-10 มิ.ย.
ซีพีเอฟ ซีพี-เมจิ ร่วมหนุนสระบุรีแซนด์บ๊อกซ์ "รวมพลังสร้างเมืองคาร์บอนต่ำแห่งแรกของประเทศไทย”
สละเรือแล้ว! "ผบ.อิสราเอล" ยื่น "ลาออก" เซ่นเหตุ 7 ต.ค. ไล่แทงกันในเทลอาวีฟเจ็บ 5
สุดปัง “นายกฯ” สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น