นายโวล์ฟกัง คูบิกกี้ รองประธานสภาบุนเดิสทาค สภากลางของเยอรมนี ให้สัมภาษณ์กับบิลด์ สื่อดังของประเทศว่า ความล้มเหลวของรัฐบาลเยอรมนีในการแก้ไขวิกฤตพลังงาน อาจทำลายเศรษฐกิจของประเทศได้ การที่โครงสร้างพื้นฐาน, ราคาพลังงาน, และกองทัพ ไม่สามารถปกป้องประเทศและประชาชนได้ คือความท้าทายที่ทางการเยอรมนีต้องดำเนินการทันที มิฉะนั้น ประเทศก็อาจเผชิญกับสิ่งผิดพลาด
ทั้งนี้ คูบิกกี้ได้ตำหนินายโรเบิร์ต ฮาเบก รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนีว่า ใช้เหตุผลด้านอุดมการณ์ล้วนๆ ในเรื่องการใช้เงินจำนวนมาก ซื้อก๊าซธรรมชาติเหลว (หรือ LNG) จากกาตาร์, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, และสหรัฐ แต่กลับมาปฏิเสธที่จะขุดก๊าซจากชั้นหินในเยอรมนีเอง ทั้งๆที่มีราคาถูกกว่ามาก นอกจากนี้ คูบิกกี้ยังแนะว่า ทางการเยอรมนีก็ควรทบทวนเกี่ยวกับแนวทางของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ที่ควรให้มีการดำเนินการ ในขณะที่ประเทศกำลังเผชิญกับวิกฤตพลังงาน เนื่องจากเยอรมนีไม่ต้องการก๊าซและน้ำมันจากรัสเซียอีกต่อไป
คูบิกกี้ยังได้เรียกร้องอีกว่า รัฐบาลควรมีการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ และปฏิเสธการใช้เงินช่วยเหลือที่มากเกินไป เพราะหากประเทศยังคงดำเนินนโยบายจ่ายเงิน เพื่อต่อสู้กับวิกฤตพลังงานต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี ประเทศก็มีความเสี่ยงขั้นร้ายแรง ที่จะล้มละลายได้ ทั้งนี้ คูบิกกี้ได้บอกว่า เงินทุนที่เยอรมนีกำลังวางแผนที่จะใช้จ่ายเพื่อซื้อแหล่งพลังงานเพิ่มเติมนั้น เดิมทีถูกกำหนดไว้แล้วว่า เตรียมไว้ใช้สำหรับการลงทุนในเรื่องอื่น ก่อนที่วิกฤตพลังงานจะเกิดขึ้น ซึ่งประเทศก็ไม่สามารถอยู่ในภาวะวิกฤติการเงินได้นาน เพราะจะมีความเสี่ยงในการขาดแคลนเงินทุน สำหรับการสนับสนุนด้านอื่นๆต่อไป