วันที่ 28 ธ.ค.65.-นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบสาธารณสุขไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนโยบาย Medical Hub หรือการเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติที่ส่งผลให้การแพทย์และการสาธารณสุขของไทย เป็นที่ยอมรับทั้งด้านศักยภาพและความพร้อมในระดับโลก กลายเป็นจุดแข็งดึงดูดประชากรโลกและนักเที่ยวเที่ยวเดินทางมาประเทศทั้งเพื่อการพักผ่อนและการรักษาตัว ซึ่งในปี 2564 ที่ผ่านมา Medical Tourism Association จัดอันดับให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของไทยติดอันดับ 5 ของโลก เกิดจากแพทย์ไทยมีศักยภาพและมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ คุณภาพและมาตรฐานการรักษาระดับสากล ค่ารักษาพยาบาลสมเหตุสมผล ส่วนหนึ่งเป็นเพราะภาครัฐมีมาตรการสนับสนุนทั้งทางตรงและทางอ้อม มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ
ทั้งนี้ ยังไม่นับรวมด้าน Wellness ทั้งการนวดไทย สปา ผลิตภัณฑ์สุขภาพต่างๆ ซึ่งเป็น Soft power ไทยที่สร้างความประทับใจ ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวและรายได้เข้าประเทศไทยมากขึ้น อย่างไรก็ตาม รัฐบาลโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมเป็นเจ้าภาพขับเคลื่อนแผนแม่บทประเด็นด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ Wellness ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี กำหนดรายได้จากการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพขยายตัวต่อเนื่องเฉลี่ยร้อยละ 8 ต่อปี ตั้งแต่ปี 2566-2570 ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขยังได้เปิดเผย รายได้จาก Medical Hub ในปี 2564 โดยอ้างอิงข้อมูลสำรวจธนาคารแห่งประเทศไทยร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขมีมูลค่าถึง 11,903 ล้านบาท และยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจภาคเอกชน ที่คาดการณ์ว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของไทยจะกลับมาฟื้นตัวอย่างรวดเร็วด้วยมูลค่าเกือบ 2.5 หมื่นล้านบาทในปี 2566