ใครที่กำลังมองหาที่เคาท์ดาวน์ รับ "ปีใหม่ 2566" แบบชิล ๆ ริมทะเลใกล้กรุงเทพฯ ห้ามพลาดกับ 7 ที่เที่ยวทะเลตะวันออก น้ำสวย ทะเลใส ในราคาสบายกระเป๋า
ข่าวที่น่าสนใจ
สายเที่ยวเตรียมแพ็คกระเป๋าให้พร้อม! “ปีใหม่ 2566” นี้เที่ยวไหนดี ไม่ต้องคิดนาน! TOP News ลิสต์มาให้แล้ว ใครว่าหน้าหนาวต้องเที่ยวภูเขาเท่านั้น แอดเถียงขาดใจเลยจ้า! ทะเลไทยหน้าหนาวก็สวยไม่แพ้แดนเหนือ-อีสานเหมือนกัน แถมงานนี้ไม่ต้องไปไหนไกล เตรียมเช็คอินริมทะเล พร้อมชุดว่ายน้ำตัวเก่งกันได้เลย กับ 7 เที่ยวทะเลตะวันออกช่วงสิ้นปี รับ “ปีใหม่ 2566” (ชลบุรี-ตราด-ระยอง)
1. เกาะเสม็ด
ประเดิมด้วยหนึ่งในท็อปลิสต์ฮิตติดชาร์จตลอดกาลของจังหวัดระยอง ที่ “ปีใหม่ 2566” สายเที่ยวต้องจัด เพราะที่นี่โดดเด่นด้วยกิจกรรมแน่นจัดเต็มทั้ง
- ดำน้ำชมประการัง
- พายเรือแคนู
- เดินชมธรรมชาติรอบเกาะ
- เส้นทางศึกษาธรรมชาติที่มีจุดชมวิวในตัว ซึ่งแต่ละเส้นทางจะพบพรรณไม้นานาชนิด อย่างเช่น พันธุ์มะนาวป่า ต้นขันทองพยาบาท ต้นเสม็ดแดงและสัตว์ป่าเช่น พังพอนเล็ก ลิงแสม กระรอกและนกนางแอ่นบ้าน เป็นต้น
ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในหมุดหมายปลายทางยอดฮิตทั้งนักท่องเที่ยวขาวไทยและชาวต่างชาติ
การเดินทางไปเกาะเสม็ด
1. รถยนต์ส่วนตัว
- มุ่งหน้าไปที่บ้านเพ มองหาป้ายเกาะเสม็ด ไปตามทางจนเจอสามแยกศรีบ้านเพ ให้เลี้ยวซ้ายและตรงไปประมาณ 2 กิโลเมตร จะเจอสถานีตำรวจทางซ้าย
- เพื่อน ๆ จะเห็นท่าเรือนวลทิพย์สาขา 2 อยู่ทางขวามือ และท่าเรือนวลทิพย์ 1 อยู่ถัดกัน
- ฝั่งตรงข้ามเป็นตลาดของฝากนวลทิพย์เป็นลานจอดรถ (ค่าฝากรถไป-กลับ 50 บาท/วัน ค้าง 1 คืน 80 บาท )
2. รถโดยสารประจำทาง
- ขึ้นได้ที่สถานีขนส่งเอกมัยและสถานีขนส่งหมอชิต ขึ้นรถประจำทางที่มีจุดหมายไปจังหวัดระยองได้เลย (รถออกทุก 1 ชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง)
– สายกรุงเทพฯ-ระยอง
– บ้านเพ
– แกลง
– แหลมแม่พิมพ์
– มาบตาพุด
– ประแสร์
- สามารถแจ้งกับทางรถได้เลยว่าลงที่ท่าเรือ แต่หากเพื่อน ๆ มาลงที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดระยอง ก็สามารถใช้บริการรถสองแถวที่จอดอยู่แถว บขส. ได้ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที
การเดินทางจากบ้านเพไปเกาะเสม็ด
บริเวณท่าเรือ จะมีเคาน์เตอร์ขายตั๋วเรือ สามารถติดต่อซื้อตั๋วเรือได้เลย จากท่าเรือนวลทิพย์ มีเรือโดยสารบริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
- ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เรือออกทุกชั่วโมง (วันหยุดออกทุก 30 นาที)
- หลัง 18.00 น. รอครบ 20 คน เรือออกหนึ่งลำ
2. เกาะสีชัง
- สถานตากอากาศที่มีชื่อเสียงนับร้อยปีที่สายรักความเงียบสงบไม่ควรพลาด
- เพราะที่นี่มีธรรมชาติที่สวยงาม บรรยากาศเงียบสงบ อากาศดี มีสถานที่ท่องเที่ยวงดงาม แถมยังสามารถเที่ยวแบบวันเดียวหรือค้างคืนก็ได้อีกด้วย
- และที่สำคัญเกาะสีชังยังเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เพราะ เป็นที่ประทับของพระเจ้าแผ่นดินถึง 3 พระองค์ คือ รัชกาลที่ 4 รัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6
การเดินทางไปเกาะสีชัง
1.รถยนต์ส่วนตัวจากกรุงเทพฯ
- ใช้ถนนสายบางนา-ตราด ไปที่หาดบางแสน เลี้ยวขวาที่ห้างโรบินสัน
- ขับรถตรงไปยังท่าเรือเกาะสีชัง (ท่าเรือเกาะลอย) ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตรจะถึงท่าเรือ (สำหรับคนที่ค้างคืนสามารถจอดรถไว้ที่ฝั่งท่าเรือเกาะลอยได้)
2. รถโดยสารสาธารณะ
- สถานีเอกมัย
– นั่งรถกรุงเทพ – สัตหีบ
– กรุงเทพ – ศรีราชา
– กรุงเทพ – พัทยา
- ไปลงบริเวณหน้าห้างโรบินสันศรีราชา จากนั้นเดินข้ามฝั่งไปยังห้างโรบินสัน แล้วนั่งมอเตอร์ไซต์รับจ้างหรือสามล้อเครื่องไปยังท่าเรือ
จากท่าเรือเกาะลอยไปเกาะสีชัง มีเรือโดยสารประจำทางให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-19.00 น. ใช้เวลาประมาณ 45 นาที แต่ถ้าต้องการความรวดเร็ว ก็มีสปีดโบ๊ทให้บริการ
การเดินทางบนเกาะสีชัง
- สามารถเช่ามอเตอร์ไซค์หรือสามล้อเครื่องสกายแลป (คล้าย ๆ รถตุ๊กตุ๊ก นั่งได้ 3- 4 คน)
- ค่ารถมอเตอร์ไซค์วันละ 250 บาท
- ค่ารถสกายแลปเริ่มต้น 250 บาท ขึ้นอยู่กับจุดที่ต้องการแวะเที่ยวบนเกาะได้
3. เกาะหมาก
- เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ในท้องทะเลตราด
- มองจากแผนที่จะมีรูปร่างคล้ายดาวสี่แฉก ส่วนใหญ่ชาวบ้านบนเกาะประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำสวนมะพร้าวและสวนยางพารา
- ส่วนเรื่องความสวยงาม ที่นี่ก็โดดเด่นไม่แพ้ใครด้วยหาดทรายขาวและแนวปะการังที่สมบูรณ์และสวยงาม และยังมีที่พักเงียบสงบใกล้ชิดกับธรรมชาติอีกด้วย
- นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีชุมชนที่เข้มแข็ง ช่วยกันรักษาธรรมชาติ ลดการใช้ขยะและผลักดันให้เกาะนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแบบอนุรักษ์ ใครมาเที่ยวที่นี่ต่างได้ทักษะการเที่ยวแบบ Zero waste กลับไปทุกคน
การเดินทางไปเกาะหมาก
1. รถยนต์ส่วนตัว
- จอดรถได้ที่ร้านค้าตรงข้ามอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพร
- มีบริการรับฝากรถคืนละ 50 บาท
2. ขนส่งสาธารณะ
- สามารถขึ้นรถโดยสารประจำทางได้ที่สถานีขนส่งเอกมัย มีหลายบริษัทให้บริการ (แนะนำให้แจ้งพนักงานตอนซื้อตั๋วว่าลงที่ท่าเรือแหลมงอบ)
บริเวณท่าเรือมีบริษัทเรือข้ามฟากหลายบริษัท สามารถสอบถามพนักงานบริเวณท่าเรือได้ว่า เรือรอบล่าสุดที่จะออกคือบริษัทไหน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45-60 นาที
4. เกาะแสมสาร
- 1 ใน 9 เกาะที่อยู่ในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพฯ (รู้จักกันในนามของ อพ.สธ.)
- เปิดเป็นแหล่งเรียนรู้และท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ สามารถศึกษาธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด
- โดยเกาะนี้แบ่งออกเป็น 5 ชายหาดด้วยกันก็คือ
– หาดเทียน
– หาดแหลมฝรั่ง
– หาดเตย
– หาดกรวด
– หาดลูกลม
- สามารถลงเล่นน้ำได้แค่ 2 หาด คือ หาดเทียนและหาดลูกลม บนเกาะจะมีรถรับ-ส่งระหว่าง 2 หาดนี้ไว้ให้บริการฟรี
- แถมยังมีกิจกรรมอย่างดำน้ำ ดูปะการัง นั่งเรือท้องกระจก ท่ามกลางทะเลสวย น้ำใส หาดทรายขาวละเอียดได้อย่างจุใจ แต่ที่นี่ไม่อนุญาตให้ค้างคืนบนเกาะ ต้องไปเช้าเย็นกลับเท่านั้น
- หากต้องการเดินทางไปเกาะแสมสาร ก่อนอื่นต้องไปที่ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย เพื่อรับตั๋วเรือ (หากเไม่ได้จองล่วงหน้า สามารถซื้อตั๋วเรือที่นี่ได้เช่นกัน)
- ค่าบริการเรือไป-กลับเกาะแสมสาร
– ผู้ใหญ่ 300 บาท
– เด็ก 220 บาท (อายุไม่เกิน 18 ปี หรือกำลังศึกษาไม่เกินชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6)
– ชาวต่างชาติ 600 บาท
- เมื่อซื้อตั๋วเสร็จก็เดินไปขึ้นเรือที่ ท่าเรือเขาหมาจอ ได้เลย ใช้เวลาเดินแค่ 2-3 นาที
- ใช้เวลานั่งเรือจากท่าเรือเขาหมาจอประมาณ 15-30 นาที แล้วแต่สภาพอากาศ โดยเรือจะจอดที่หาดเทียน
5. เกาะล้าน
- “ปีใหม่ 2566” ทั้งที เกาะล้านไม่พลาดแน่นอน หนึ่งในที่เที่ยวยอดฮิต เดินทางง่าย ทะเลสวย เหมาะสำหรับ One Day Trip ในงบประหยัด
- มีที่เที่ยวบนเกาะหลากหลาย ทั้งเดินชิลริมหาด พายเรือ ขับรถรอบเกาะ ชมวิวและมีกิจกรรมมันส์ ๆ อย่าง Paragliding, Snorkeling, Banana Boat, Jet Ski ให้เล่นอีกด้วย
การเดินทางไปเกาะล้าน
รถยนต์ส่วนตัว
- สามารถฝากรถไว้ได้ที่ลานจอดรถบริเวณใกล้ ๆ ท่าเรือแหลมบาลีฮาย
- โดยจะมีค่าบริการประมาณ 200 บาท/คัน
วิธีเดินทางไปเกาะล้าน
- จะแตกต่างกันไปแล้วแต่เรือที่เราเลือกนั่ง
- โดยต้องไปขึ้นเรือที่ ท่าเรือแหลมบาลีฮาย พัทยา ใช้เวลาประมาณ 20-40 นาที
- สามารถดูรอบเรือ : คลิกที่นี่
6. เกาะกูด
- เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย
- จุเด่นของเกาะกูด คือ ความสวยงามของธรรมชาติ ความสงบและวิถีชีวิตเรียบง่ายของชาวประมงบนเกาะ
- มีน้ำตกอนัมก๊ก น้ำตกประวัติศาสตร์ที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จประพาสเมื่อ พ.ศ. 2454 เพื่อเป็นที่ระลึกถึงองเชียงสือ กษัตริย์ญวนที่เคยลี้ภัยเข้ามาอาศัยแผ่นดินไทยในสมัยรัชกาลที่ 1
การเดินทางไปเกาะกูด
- มีหลายท่าเรือให้เลือกขึ้น สามารถเดินทางไปขึ้นที่ท่าเรือตามหมุดที่ปักนี้ได้เลย
– เรือบุญศิริ เฟอร์รี่ ใช้เวลา 60 นาที : คลิกที่นี่
– เรือสปีดโบ๊ท เกาะกูด เอกเพลส ใช้เวลา 45-60 นาที : คลิกที่นี่
– เรือเฟอร์รี่ เกาะกูด เอกเพลส ใช้เวลาเดินทาง 1.15 ชม. – 1.30 ชม. : คลิกที่นี่
- ค่าจอดรถจะอยู่ที่ 50 บาท/คืน/คัน
7. เกาะช้าง
- ปิดท้ายด้วยสถานที่ท่องเที่ยวริมทะเลสุดฮิตดังพลุแตกไปทั่วโลกใน “ปีใหม่ 2566” ไม่ติดโผไม่ได้กับเกาะช้าง เกาะสวยทะเลใส ตอบโจทย์การพักผ่อนวันหยุดยาวที่สุด
- มีทั้งที่พัก ที่เที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม หาดทรายสวย จะเที่ยวแบบครอบครัวหรือเดอะแก๊งก็ได้หมด
- บนเกาะจะแบ่งเป็นฝั่งซ้ายและฝั่งขวา หากใครชอบแนวธรรมชาติและชุมชน ให้ไปทางฝั่งซ้าย หากชอบที่พักสวย ๆ มีส่วนกลางครบครัน หาดทรายสวยงามให้มาฝั่งขวา
การเดินทางไปเกาะช้าง
1. รถส่วนตัว
- สามารถขึ้นเรือได้ที่ ท่าเรือเฟอรี่อ่าวธรรมชาติ
- สามารถนำรถขึ้นเรือไปด้วยได้เลย
- ใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงเกาะช้างแล้ว
2. รถโดยสารประจำทาง รถบัส รถทัวร์
- สามารถขึ้นได้ที่สถานีขนส่ง 2 สถานี คือ สถานีขนส่งหมอชิตใหม่และสถานีขนส่งเอกมัย
- ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-6 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ ไปถึงสถานีขนส่งจังหวัดตราด
- จากนั้นต่อรถสองแถวไปท่าเรือเฟอร์รี่ (ประมาณ 30 นาที ค่าโดยสารประมาณ 50 บาท)
รายละเอียดเรือเฟอร์รี่อ่าวธรรมชาติ
- ราคาค่าเรือ : ราคาเรือ 80 บาท/คน/เที่ยว
- ค่ารถ 120 บาท/คัน
- รอบเรือ : 06.45-18.30 น. (มีเรือออกทุกชั่วโมง)
ข้อมูล : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง