ป๊อกเบรกป้อม ๓ ป.แตกยับ

ครม.เป็นเหตุ  ตำแหน่งอธิบดีกรมฝนหลวงเป็นต้นทาง พลังประชารัฐงัดประชาธิปัตย์  ป้อมทวงโควต้าสุนทรยกมือค้าน  ร้อนถึง “บิ๊กป๊อก” สะกิดต่อมเดือด ออกโรงเบรกพี่ใหญ่หัวทิ่มงัดลุงป้อมหงายหลัง สวนพี่ชายในครม.ไม่มีเรื่องโควต้า ย้อนอดีตความบาดหมาง “พี่ใหญ่-พี่กลาง” บูรพาพยัคฆ์   ปล่อยเด็กปากน้ำยกมือไม่ไว้วางใจตอนศึกซักฟอก  ให้ท้ายก๊วนส.ส.สมุทรปราการทั้งๆที่ทำผิด  ประเคนเก้าอี้รัฐมนตรีให้สุนทร  หมดแล้วความนับถือถึงเวลาดับเครื่องชน

ประเด็นฮอตปิดท้ายการประชุมครม.ปลายปีนี้ กลายเป็นข่าวใหญ่ว่าเกิดการงัดข้อระหว่างการประชุมครม.ของ ๒ พรรคการเมืองใหญ่ คือ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กับ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)  สืบเนื่องจากวาระการแต่งตั้งตำแหน่ง อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร   โดยต้นเรื่องทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอรายชื่อ “ สุพิศ พิทักษ์ธรรม”  รองอธิบดีฯขึ้นเป็นอธิบดีกรมฝนหลวงคนใหม่  แต่ถูกสุนทร ปานแสงทอง รมช.เกษตรและสหกรณ์  จากพปชร. ยกมือทักท้วงไม่เห็นด้วย  ทำให้  “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ  ต้องกดไมค์ถามนางณัฐฎ์จารี อนันตศิลป์ เลขาฯครม.ว่า รมต.สามารถทักท้วงการแต่งตั้งในที่ประชุมได้หรือไม่ โดยเลขาฯครม. ชี้แจงว่า ทำได้  ก่อนที่การพิจารณาจะผ่านจากเรื่องนั้นไป

แต่หลังจบการประชุมในวาระต่างๆ  ฝ่าย “อู๊ดด้า” จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์  ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นรองนายกฯที่กำกับดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  ได้หยิบยกเรื่องดังกล่าวขึ้นหารืออีกครั้งก่อนจบประชุม   โดยระบุว่า  ตนเองเป็นคนกำกับดูแลกระทรวงเกษตรฯ และได้โทรศัพท์พูดคุยกับ “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่การประชุมครม.วานนี้เจ้าตัวไม่ได้อยู่ในที่ประชุม ยืนยันว่าจะเสนอชื่อสุพิศเป็นอธิบดีกรมฝนหลวง  ส่งผลให้ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพปชร.ต้องออกโรง แย้งว่าตำแหน่งอธิบดีกรมฝนหลวง  เป็นโควตาในกำกับของรัฐมนตรีพปชร. และได้ตกลงกับเฉลิมชัยแล้วว่าจะเป็นคนอื่นไม่ใช่สุพิศ   ร้อนถึง “บิ๊กป๊อก”พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่ทนฟังอยู่นานแสนนานต้องกดไมด์แสดงความเห็นว่า  “  ในที่ประชุมครม.เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ควรยกเรื่องโควตาพรรคมาพูดกัน และตามกฎหมายผู้มีอำนาจแต่งตั้งอธิบดีคือปลัดกระทรวงเกษตรฯ”  พอได้ยินบิ๊กป็อกพูดแบบนั้น  ฝ่ายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพปชร.ก็พูดสนับสนุนการรักษาสิทธิ์ของลุงป้อมทันทีความว่า  “  เมื่อมีการแบ่งงานกันแล้วก็ควรให้เกียรติรมช.ที่กำกับดูแลหน่วยงานต่างๆ ไม่เช่นนั้นจะมีรมช.ไว้ทำไม”    ฝ่ายจุรินทร์ จึงสวนออกมาทันควันว่า “ เป็นสิทธิของรัฐมนตรีว่าการในการแบ่งงานในกระทรวง จะมอบหมายให้ใครทำอะไร”  พอเห็นว่าบรรยากาศในครม.เริ่มมาคุ  เพราะรมต.เถียงกันจนคอเป็นเอ็นพาลจะพาให้ครม.พัง  บิ๊กตู่จึงตัดบทว่าเรื่องนี้ให้ผ่านไปก่อนในส่วนของการแต่งตั้งของก.เกษตรฯทั้ง ๑๑ ตำแหน่ง ระหว่างนี้ยังอยู่ในขั้นตอนเปลี่ยนแปลงได้

ไปๆมาๆเรื่องที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นเรื่องก็กลายเป็นเรื่องขึ้นมาจนได้  ปมปัญหาการแต่งตั้งอธิบดีกรมฝนหลวงมีอยู่ ๒ ขยักซ้อนกัน  ปมแรกคือการงัดกันระหว่างพรรคสีฟ้ากับพรรคลุงป้อมย้อนอดีตกลับไปยาวๆก่อนหน้านี้ปชป.กับ พปชร. เคยมีเรื่องงัดข้อกันบ่อยครั้งในกระทรวงเกษตรฯ ช่วงปี ๒๕๖๔ ในยุคที่มี “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นรมช.เกษตรฯ ครั้งแรกก็เป็นเรื่องของการแบ่งพื้นที่จังหวัดให้รัฐมนตรีรับผิดชอบ ตอนนั้นก็เป็นลุงป้อมนี้แหละที่แบ่งจ.สงขลากับจ.ภูเก็ตให้ร.อ.ธรรมนัสไปดูจนปชป.ออกมาโวยนายกฯว่าแบ่งพื้นที่แบบ “ผิดฝาผิดตัว” แทนที่จะให้เจ้าของพื้นที่ดูแลจ.ภาคใต้กลับให้รมต.ภาคอื่นมาดูงานแทน  แถมทั้ง ๒ จังหวัดยังเป็น “ไข่มุกอันดามัน-เพชรงามอ่าวไทย” ฐานที่มั่นของปชป.เป็นใครจะยอมให้  ต่อมาผู้กองโดนปลดเพราะมีเรื่องล้มนายกฯ  จู่ๆ ลุงป้อมก็ลักไก่เสนอครม.ยึด ๔ กรม ที่อยู่ในความดูแลของร.อ.ธรรมรัส ประกอบด้วย  ๑.กรมพัฒนาที่ดิน ๒.ส.ป.ก. ๓.กรมการบินและฝนหลวง และ ๔.อ.ต.ก. ให้ไปขึ้นตรงกับตัวเอง  ทั้งๆที่เมื่อรมช.ถูกปลดพ้นออกไปแล้ว อำนาจทั้งหมดควรกลับไปอยู่ที่รมว.เกษตรฯอย่างเสี่ยต่อ  ตอนนั้นก็เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตมาทีนึงแล้ว  มารอบนี้ก็มาฉายหนังซ้ำเรื่องของยึดเก้าอี้อธิบดีกรมฝนหลวงฯว่าเป็นโควต้าของพปชร.อีก

ปัญหาขยักแรกว่าเดือดแล้ว ปัญหาขยักสองนี้หนักกว่า กรณีที่บิ๊กป็อกออกมาสวนลุงป้อมแม้จะเกิดขึ้นสั้นๆใช้คำไม่กี่ประโยค  แต่ก็แฝงนัยยะสะท้อนสถานภาพภายในของ ๓ ป. บูรพาพยัคฆ์ ที่ประกอบด้วย “ลุงป้อม-บิ๊กป๊อก-บิ๊กตู่”  ชัดเจน ว่าวันนี้แตกยับแบบกู่ไม่กลับแล้ว  ก่อนหน้านี้ถ้ายังจำกันได้ดี   ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจปีนี้ ๒๕๖๕  บิ๊กป๊อกเคยถูกส.ส.ก๊วนปากน้ำใต้ปีกของ  “เสี่ยเอ๋” ชนสวัสดิ์ อัศวเหม บ้านใหญ่สมุทรปราการ  ที่มีความสนิทสนมกับ “ ป.ที่ ๔”   ซึ่งเป็นน้องรักของลุงป้อมวางยามารอบนึงแล้ว   ด้วยการยกมือไม่ไว้วางใจสวนมติพรรค ตอนนั้นบิ๊กป๊อกได้รับคะแนนไม่ไว้วางใจ ๒๑๒ เสียง  ไว้วางใจ ๒๔๕ เสียง งดออกเสียง ๑๓  เสียง   ปรากฏว่าใน  ๖ เสียงที่ไม่ไว้วางใจในนั้นมีส.ส.กลุ่มปากน้ำจากพปชร.ถึง ๖ คน  ประกอบด้วย ๑.กรุงศรีวิไล สุทินเผือก ส.ส.เขต ๕ สมุทรปราการ ๒.ฐาปกรณ์ กุลเจริญ ส.ส.เขต ๖ สมุทรปราการ ๓.ต่อศักดิ์ อัศวเหม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ๔.น.ส.ภริม พูลเจริญ เขต ๓ สมุทรปราการ ๕. ยงยุทธ สุวรรณบุตร เขต ๒ สมุทรปราการ และ ๖.อัครวัฒน์ อัศวเหม เขต ๑ สมุทรปราการ  ยกมือสวนมติพรรคแล้วยังไม่ถูกลงโทษไม่ถูกลงทัณฑ์   เลือกปฏิบัติใช้วิธีการสองมาตราฐานต่างจากสมัย “ก๊วนดาวฤกษ์” ของมาดามเดียร์ที่งดออกเสียง “เสี่ยโอ๋” ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคมจนถูกลงโทษทั้งแก๊งค์ยังไม่พอ  รุ่งขึ้นถัดมาลุงป้อมยังลงพื้นที่ไปปากน้ำเอาใจส.ส.กลุ่มที่ทำผิด  แถมอวยยศพูดโอ๋กันสุดลิ่มทิ่มประตูพูดจาเอาอกเอาใจทำนองว่ากวาดส.ส.ยกจังหวัดแบบนี้ต้องได้เก้าอี้รัฐมนตรีเป็นรางวัลแล้ว รอบหน้าปรับครม.จะดูให้    ที่สุดก็นำมาสู่การประเคนเก้าอี้รมช.เกษตรฯให้กับกลุ่มปากน้ำ  และเสี่ยเอ๋ก็ยกตำแหน่งเสนาบดีที่ว่าให้กับสุนทร   จนได้เข้ามาเป็นหนึ่งในครม.เรือแป๊ะรุ่นสุดท้ายในคราวนี้

ความแตกแยกระหว่าง ๓ ป.มีเค้าลางก่อตัวมานานแล้ว  โดยเฉพาะระหว่างลุงป้อมกับบิ๊กตู่มีเรื่องราวระหองระแหงกันมาตลอดเรียกว่านับไม่ถ้วน  แต่สำหรับลุงป้อมกับบิ๊กป๊อกที่สวนกันจริงๆงัดกันหนักจนเป็นข่าวก็คือตอนศึกซักฟอกที่ผ่านมา  แต่บิ๊กป๊อกพี่กลางดูจะเก็บอาการไม่ตอบโต้ไม่ซัดกลับพี่ใหญ่ ๓ ป.แต่อย่างใด  แถมก่อนหน้านี้ เมื่อ ๒๔  พ.ย. ๒๕๖๕  ระหว่างเป็นประธานพิธีเปิดการอบรมสัมมนา “การพัฒนาศักยภาพของท้องถิ่นสู่ความเป็นเมือง ตามหลักการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นไทย” ณ.จ.เชียงใหม่  ต่อหน้าผู้บริหารองค์การบริการส่วนตำบล (อบต.) ๕,๓๐๐ แห่งทั่วประเทศ  บิ๊กป๊อกเคยพูดจาเหมือนต้องการจะวางมือประมาณว่า  “ผมก็เป็นคนแก่คนหนึ่งที่อยากบอกท่านว่า ผมก็ถ้อยทีถ้อยอาศัยกับท่านนั่นแหละ ผมก็อยู่เชียร์ท่านอีกไม่กี่เดือน แล้ววันหนึ่งผมก็จะไปเดินกินก๋วยเตี๋ยวในพื้นที่ท่าน เป็นตาแก่คนหนึ่งก็ดูแลด้วย โกรธก็อย่ามาเตะมาต่อย เตะไปก็เปลืองแรงเปล่าๆ เดี่ยวก็ตายแล้ว ไม่เกิดประโยชน์กับตัวท่านเอง ท่านมีจิตใจที่จะทำงานเพื่อสังคมแต่ไฟผมหมดแล้วให้ท่านทำไป ผมเป็นกำลังใจให้แล้วจะทำในส่วนที่ทำได้” มท.๑ กล่าวมีการวิเคราะห์กันว่าที่บิ๊กป๊อกพูดออกมาแบบนั้น  เพราะสะท้อนใจเห็นสัจธรรมชัดว่า ๓ ป.แตกแล้วไปต่อไม่ได้แล้ว ครั้นจะไปต่อกับฝ่ายใดก็ลำบากใจ ไม่ว่าจะอยู่กับลุงป้อมหรือไปอยู่รทสช.กับบิ๊กตู่ แต่ภายหลังจากที่ออกมาสวนลุงป้อมเบรกพี่ใหญ่จนหัวทิ่มดินกลางครม.  คล้ายส่งสัญญาณหมดแล้วความนับถือถึงเวลาดับเครื่องชน ได้เวลาคิดบัญชีแค้นแบบเชือดนิ่มๆตามสไตล์  “หน้าชัด หลังเหลอ”

จากนี้ที่คิดว่าอนาคตทางการเมืองของบิ๊กป๊อกอาจวางมือ  เจอดอกนี้ไปอาจจะไม่แล้ว  อย่าลืมว่าชื่อเสียง บารมี อำนาจ ของพี่กลาง ๓ ป.อย่างบิ๊กป็อกนั้นไม่ธรรมดา  ในบรรดาพี่น้อง ๓ ป.  ชื่อเสียงของบิ๊กป๊อกอาจจะน้อยกว่าใครเพื่อน   แต่บอกเลยว่าเหลี่ยมคูทางการเมืองของบิ๊กป๊อกนั้นไม่เป็นสองรองใคร   ภาษาไทยเข้าทำนอง “คมในฝัก”  สุภาษิตจีนก็ประมาณ “เหยียบเมฆาไร้รอย”    อย่าลืมว่าพล.อ.อนุพงษ์ถือเป็นนายทหารที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาโชกโชน  อดีตเคยเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น ๑/๑๐ (ตท.๑๐)  เป็นเสียงข้างน้อยเป็นคนละฝ่ายอยู่คนละพวกกับทักษิณ ชินวัตร ขาใหญ่ตท.๑๐  ช่วงทักษิณอำนาจบารมีกร้าวแกร่งก็ยังทำอะไรบิ๊กป๊อกไม่ได้    ตอนขึ้นเป็นผบ.ทบ.ครองอำนาจในรั้วแดงกำแพงเหลืองยุค “ลุงหมัก” สมัคร สุนทรเวช หลายคนก็คิดว่าบิ๊กป๊อกต้องจอดแน่คราวนี้  แต่ทำไปทำมากลับกลายเป็นขาเข้าถูกคอกับลุงหมัก เส้นทางรับราชการในกองทัพของบิ๊กป๊อกก็ไม่ธรรมดาเพราะเป็นสายคอมมานด์มาตลอด ผู้การร.๒๑ รอ. (ทหารเสือราชินี) , ผบ.พล.๑ รอ. ,แม่ทัพภาคที่ ๑ ,ผช.ผบ.ทบ. และ ผบ.ทบ.  เป็นนายทหารที่อยู่ในเหตุการณ์สำคัญๆมาทุกยุคสมัย นั่งเป็นทบ. ๑ นานถึง ๒ ปี ๓๖๔ วัน  ก็ส่งมอบตำแหน่งให้น้องรักอย่างบิ๊กตู่เป็นผบ.ทบ.ต่อไป   หลังบิ๊กตู่เข้าควบคุมอำนาจเมื่อ ๒๒ พ.ค.๒๕๕๗ มีการตั้งรัฐบาลขึ้นมาบริหารประเทศ  บิ๊กตู่ก็ตั้งบิ๊กป๊อกพี่เลิฟคนนี้แหละเป็นรมว.มหาดไทยคุมผู้ว่าฯทั่วประเทศมาตลอด  รับตำแหน่งตั้งแต่ ๓๐ ส.ค.๒๕๕๗  เป็นมท.๑ ยาวนาน ๘ ปี ๑๑๕ วัน  โดยไม่มีการเปลลี่ยนคนอื่นมาแทนเลย  ลองคิดดูว่าบารมีในกองทัพของบิ๊กป๊อกก็เหลือๆแล้ว เพราะเป็นผบ.ทบ.เกือบ ๓ ปี  เป็นระดับบิ๊กๆของกองทัพมาทั้งหมด  ตั้งลูกน้องวางขุมข่ายเป็นแม่ทัพนายกองมามากมายมหาศาลขนาดไหนในวงการท็อปบู๊ตก็ว่ามหาศาลแล้ว  ข้ามมาวางตัวพ่อเมืองคุมจังหวัดดูแลอำเภอบริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีอำนาจเบ็ดเสร็จต่อเนื่องยาวนานขนาดไหนแทบไม่ต้องพูดถึง  เผลอๆวันนี้บารมีในกองทัพของลุงป้อมอาจเป็นรองบิ๊กป๊อกกับบิ๊กตู่ก็เป็นได้  เพราะขาดจากกองทัพห่างจากการวางกำลังแม่ทำนายกองมานานแล้วนาน  แต่ในกระทรวงคลองหลอดมหาดไทยบอกเลยบิ๊กป๊อกเป็นเบอร์ ๑ ในตองอูไม่มีป.ไหนจะมาสู้ได้  บิ๊กป๊อกกับมาฮึดขวางลำลุงป้อมกลางครม.แบบนี้  จับตา “เสือซ่อนเล็บ” ถึงเวลาพยัคฆ์คำราม หรือจะเป็นการส่งสัญญาณของบิ๊กป๊อกจะลุยการเมืองช่วยน้องรักอย่างบิ๊กตู่ประคองรทสช.ลุยเลือกตั้งต่อ  เหลือเวลาอีก ๒ ปีภารกิจน้องรักจบถึงเวลาตอนนั้นค่อยกลับบ้านพร้อมบิ๊กตู่ก็ยังได้

//////////////

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"อดีตบิ๊กข่าวกรอง" ชี้เจรจา MOU 44 ถามคนไทยหรือยัง เอาพลังงานหรืออธิปไตย
สุดเศร้า "นักเรียน ม.4" เรียนวิชาพละ  วิ่งได้ 200 เมตร หัวใจวายเสียชีวิต
"ณัฐวุฒิ" โอ่คนไทยอ่านขาดแล้ว เกมฝ่ายขวาจัด ปลุกชาตินิยม ล้มรบ. เย้ยรอบนี้ไม่ง่ายเหมือนก่อน
เปิด 40 รายชื่อ สรุปยอดผู้สมัคร ป.ป.ช. พบคนดังเพียบ
"ยายวัย 80 ปี" เครียดอยากจบชีวิต หลังถูก "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" หลอกโอนเงินเก็บเกลี้ยงบัญชี
"ร้านเนื้อย่างดัง" โพสต์ตามหา "ลูกค้า" โอนเงินค่าอาหารเกิน 2 แสนบาท
กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 10 เตือน ปชช.ไทยตอนบนอากาศแปรปรวน ภาคใต้ฝนตกหนัก เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน
ระทึก ! บุกยิงบ้านผู้ใหญ่ โบว์ คาดว่า การเมือง ท้องถิ่นเป็นเหตุ
‘บิ๊กต่าย’ เผยตร.ทำงานยังคงทำคดี ‘ดิไอคอน’ ตามที่ DSI ร้องขอ
ครูบาอริยชาติ เกจิภาคเหนือวัดแสงแก้วโพธิญาณ เชียงราย สร้างพระพุทธเมตตา จากหยกรัสเซียใหญ่ที่สุดในโลก น้ำหนักกว่า 10 ตัน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น