เมื่อวันที่ 3 เม.ย. นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก Chao Meekhuad ว่า กรณีศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ 1351/2559 ลงวันที่ 13 ต.ค. 2559 ที่ให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว จำนวน 20 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท ของความเสียหายทั้งหมด 1.78 แสนล้านบาท นอกจากนี้ยังให้เพิกถอนคำสั่งของกรมบังคับคดี กับพวกที่ออกคำสั่ง หรือประกาศใดๆ ที่ดำเนินการเกี่ยวกับการอายัดทรัพย์สิน น.ส.ยิ่งลักษณ์และสามี ผลของคำพิพากษาศาลปกครองกลางที่ออกมาแบบนี้ทำให้ฝ่ายที่สนับสนุนน.ส.ยิ่งลักษณ์ หยิบเอาไปเป็นประเด็นทางการเมืองว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ผิดแถมไปไกลถึงขั้นขอให้คืนความเป็นธรรมให้กับน.ส.ยิ่งลักษณ์ด้วย โดยลืมไปว่าความจริงแล้วกรณีเดียวกันนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของนักการเมืองได้มีคำพิพากษาลงโทษจำคุก น.ส.ยิ่งลักษณ์ 5 ปี แต่เนื่องจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้หลบหนีออกนอกประเทศก่อนวันอ่านคำพิพากษา ดังนั้นผลของคำพิพากษาคดีนี้ยังผูกพันติดตัวน.ส.ยิ่งลักษณ์ไปตลอดอายุความ ซึ่งตามกฏหมายถือว่าไม่มีอายุความคือ หมายความว่าต้องหลบหนีไปตลอดทั้งชีวิตและไม่มีคำพิพากษาใดที่จะมาหักล้างหรือกลับคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของนักการเมืองที่ถึงที่สุดแล้วนี้ได้
นายเชาว์ ระบุอีกว่า ส่วนคำพิพากษาของศาลปกครองกลางยังไม่ถึงที่สุด คู่ความยังสามารถอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดได้ภายใน 30 วัน แต่สามารถยื่นขยายเวลาออกไปได้ถ้ายื่นไม่ทัน ดังนั้นคำพิพากษาศาลปกครองกลางอาจถูกกลับหรือยกโดยคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดได้ เพราะฉะนั้นก็ต้องรอดูต่อไปว่าเมื่อมีการยื่นอุทธรณ์แล้ว ศาลปกครองสูงสุดจะมีคำพิพากษาว่าอย่างไร ทั้งสองฝ่ายก็อย่าเพิ่งตีโพยตีพาย แอะอะ โวยวาย หรือดีใจกันออกนอกหน้า คำพิพากษาศาลชั้นต้นถูกกลับโดยคำพิพากษาศาลสูงมีให้เห็นอยู่บ่อยๆ
“ที่สำคัญคือคำพิพากษาศาลปกครองกลาง ไม่สามารถลบล้างความผิดที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ก่อความเสียหายให้กับประเทศ ฐานไม่ระงับยับยั้งความเสียหายจากโครงการจำนำข้าวได้ โดยข้อเท็จจริงปรากฏชัดเจนว่า โครงการนี้ใช้กรอบวงเงินเกิน 5 แสนล้านบาท ที่ครม. มีมติอนุมัติเป็นกรอบเอาไว้ นอกจากนี้ยังเกิดปัญหาขาดสภาพคล่อง ระบายข้าวไม่ได้ ทำให้รัฐขาดทุน ไม่มีเงินจ่ายชาวนา จนมีชาวนาหลายสิบคนต้องผูกคอตาย คำพิพากษาศาลฎีกายังระบุด้วยว่าปรากฏข้อเท็จจริงว่า นโยบายดังกล่าวขาดประสิทธิภาพและประสิทธิผล มีการทุจริตเกิดขึ้นในทุกขั้นตอน แม้ว่าบางขั้นตอนอยู่ในฝ่ายปฏิบัติ แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี และประธาน กขช. กลับไม่รับฟังข้อท้วงติงของหลายฝ่าย จนเกิดความเสียหายต่อรัฐ และยังมีกรณีระบายข้าวแบบจีทูจีโดยทุจริต แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กลับไม่ดำเนินการสั่งตรวจสอบอย่างจริงจัง หรือเข้มข้นเหมือนตอนตรวจสอบกรณีจำหน่ายข้าวถุงราคาถูกแก่ประชาชน ศาลฎีกาจึงมีคำพิพากษาสั่งจำคุกน.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นเวลา 5 ปีโดยไม่รอลงอาญา นี่คือข้อเท็จจริงที่ยืนยันได้ว่านารีขี่ม้าขาวไม่มี มีแต่นารีหนีคุก” นายเชาว์ ระบุ