“นิด้าโพล” เผยผลสำรวจ ปิดผับตี 2 เหมาะสมแล้ว

“นิด้าโพล” เผยผลสำรวจ “ปิดผับตี 4” คนส่วนใหญ่ ร้อยละ 48.62 เห็นว่าปิดตี 2 เหมาะสมแล้ว ไม่ดึกจนเกินไปไม่รบกวนผู้พักอาศัยใกล้เคียง

วันที่ 30 ธ.ค. 2565 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “ปิดผับตี 4” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 23-27 ธันวาคม 2565 จากประชาชนที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับแนวคิดการขยายเวลาปิดสถานบันเทิง เฉพาะเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวต่างชาติ จากเวลา 02.00 น. ออกไปเป็นเวลา 04.00 น. จากการสำรวจเมื่อถามถึงการเที่ยวสถานบันเทิงยามค่ำคืนของประชาชน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 58.17 ระบุว่า ไม่เคยไป ขณะที่ ร้อยละ 41.83 ระบุว่า เคยไป

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เมื่อถามผู้ที่เคยไป (จำนวน 548 หน่วยตัวอย่าง) ถึงความถี่ในการเที่ยวสถานบันเทิงยามค่ำคืน ในช่วง 1 ปี ที่ผ่านมา พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 56.57 ระบุว่า ไม่เคยไปเลย รองลงมา ร้อยละ 29.56 ระบุว่า มีบ้างแล้วแต่โอกาส/เทศกาล ร้อยละ 6.39 ระบุว่า เดือนละครั้ง ร้อยละ 3.83 ระบุว่า เกือบทุกวัน (3-5 วัน/สัปดาห์) ร้อยละ 2.74 ระบุว่า อาทิตย์ละวัน และร้อยละ 0.91 ระบุว่า ทุกวัน (7 วัน/สัปดาห์)

ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อแนวคิดที่จะขยายเวลาปิดสถานบันเทิง เฉพาะเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวต่างชาติ เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่ เป็นต้น จากเวลา 02.00 น. ออกไปเป็นเวลา 04.00 น. โดยภาพรวม พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 48.62 ระบุว่า ปิดสถานบันเทิง เวลา 02.00 น. เหมาะสมดีอยู่แล้ว เพราะ เป็นเวลาที่ไม่ดึกมากจนเกินไป ขณะที่บางส่วนระบุว่า ไม่เป็นการรบกวนเวลาพักผ่อนของผู้ที่พักอาศัยอยู่ใกล้กับสถานบันเทิง รองลงมา ร้อยละ 26.26 ระบุว่า ควรอนุญาตปิดสถานบันเทิง เวลา 04.00 น. เฉพาะเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวต่างชาติ เพราะ เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว ช่วยสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้กับประเทศ และเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบกิจการสถานบันเทิงที่ได้รับผลกระทบช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ร้อยละ 14.35 ระบุว่า ควรจะอนุญาตปิดสถานบันเทิง เวลา 04.00 น. เหมือนกันทั่วประเทศ เพราะ ควรเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ และเป็นการเพิ่มช่วงเวลาในการหารายได้ให้กับผู้ประกอบกิจการสถานบันเทิง และกลุ่มอาชีพที่เกี่ยวข้อง เช่น คนขับรถแท็กซี่ ร้อยละ 7.18 ระบุว่า ควรปิดสถานบันเทิง ก่อนเวลา 02.00 น. เพราะ เวลา 02.00 น. เป็นเวลาที่ค่อนข้างดึกจนเกินไป อาจทำให้เกิดปัญหาอาชญากรรมและอุบัติเหตุได้ง่าย ร้อยละ 3.21 ระบุว่า ไม่ควรอนุญาตให้มีสถานบันเทิงยามค่ำคืนในประเทศไทย เพราะ เวลาช่วงค่ำคืนอาจเกิดอาชญากรรมและอุบัติเหตุได้ง่าย และเป็นการส่งเสียงดังรบกวนการพักผ่อนของผู้พักอาศัยในบริเวณใกล้เคียง และร้อยละ 0.38 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่แน่ใจ

เมื่อพิจารณาเฉพาะความคิดเห็นของผู้ที่เคยไปสถานบันเทิง (จำนวน 548 หน่วยตัวอย่าง) เกี่ยวกับแนวคิดที่จะขยายเวลาปิดสถานบันเทิง เฉพาะเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวต่างชาติ พบว่า ร้อยละ 42.52 ระบุว่า ปิดสถานบันเทิง เวลา 02.00 น. เหมาะสมดีอยู่แล้ว รองลงมา ร้อยละ 30.29 ระบุว่า ควรอนุญาตปิดสถานบันเทิง เวลา 04.00 น. เฉพาะเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวต่างชาติ ร้อยละ 22.26 ระบุว่า ควรจะอนุญาตปิดสถานบันเทิง เวลา 04.00 น. เหมือนกันทั่วประเทศ ร้อยละ 4.20 ระบุว่า ควรปิดสถานบันเทิง ก่อนเวลา 02.00 น. และร้อยละ 0.73 ระบุว่า ไม่ควรอนุญาตให้มีสถานบันเทิงยามค่ำคืนในประเทศไทย

ส่วนความคิดเห็นของผู้ที่ไม่เคยไปสถานบันเทิง (จำนวน 762 หน่วยตัวอย่าง) พบว่า ร้อยละ 53.02 ระบุว่า ปิดสถานบันเทิง เวลา 02.00 น. เหมาะสมดีอยู่แล้ว รองลงมา ร้อยละ 23.36 ระบุว่า ควรอนุญาตปิดสถานบันเทิง เวลา 04.00 น. เฉพาะเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวต่างชาติ ร้อยละ 9.32 ระบุว่า ควรปิดสถานบันเทิง ก่อนเวลา 02.00 น. ร้อยละ 8.66 ระบุว่า ควรจะอนุญาตปิดสถานบันเทิง เวลา 04.00 น. เหมือนกันทั่วประเทศ ร้อยละ 4.99 ระบุว่า ไม่ควรอนุญาตให้มีสถานบันเทิงยามค่ำคืนในประเทศไทย และร้อยละ 0.65 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่แน่ใจ
เมื่อถามถึงความมั่นใจของประชาชนต่อการขยายเวลาปิดสถานบันเทิงในเมืองท่องเที่ยวจะช่วยสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว โดยภาพรวม พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 27.86 ระบุว่า ค่อนข้างมั่นใจ รองลงมา ร้อยละ 26.72 ระบุว่า ไม่ค่อยมั่นใจ ร้อยละ 22.90 ระบุว่า ไม่มั่นใจเลย ร้อยละ 21.83 ระบุว่า มั่นใจมาก และร้อยละ 0.69 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

เมื่อพิจารณาเฉพาะความคิดเห็นของผู้ที่เคยไปสถานบันเทิง (จำนวน 548 หน่วยตัวอย่าง) เกี่ยวกับความมั่นใจต่อการขยายเวลาปิดสถานบันเทิงในเมืองท่องเที่ยวจะช่วยสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว พบว่า ร้อยละ 30.11 ระบุว่า ค่อนข้างมั่นใจ รองลงมา ร้อยละ 27.74 ระบุว่า มั่นใจมาก ร้อยละ 22.81 ระบุว่า ไม่ค่อยมั่นใจ ร้อยละ 19.16 ระบุว่า ไม่มั่นใจเลย และร้อยละ 0.18 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ ส่วนความคิดเห็นของผู้ที่ไม่เคยไปสถานบันเทิง (จำนวน 762 หน่วยตัวอย่าง) พบว่า ร้อยละ 29.53 ระบุว่า ไม่ค่อยมั่นใจ รองลงมา ร้อยละ 26.25 ระบุว่า ค่อนข้างมั่นใจ ร้อยละ 25.59 ระบุว่า ไม่มั่นใจเลย ร้อยละ 17.58 ระบุว่า มั่นใจมาก และร้อยละ 1.05 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการตั้งด่านตรวจเมาแล้วขับ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 49.54 ระบุว่า จำนวนด่านตรวจเมาแล้วขับปัจจุบันเหมาะสมดีแล้ว รองลงมา ร้อยละ 40.99 ระบุว่า ควรเพิ่มจำนวนด่านตรวจเมาแล้วขับ ร้อยละ 8.32 ระบุว่า ควรลดจำนวน ด่านตรวจเมาแล้วขับ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ควรยกเลิกด่านตรวจเมาแล้วขับทั้งหมด และร้อยละ 0.08 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เมียไรเดอร์ เปิดใจเสียงสั่น กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังรู้ข่าว หนุ่มอินเดียซิ่งเก๋งได้ประกันตัว ลั่น ‘คนมีเงินมันยิ่งใหญ่’
นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception เชิญชวนสัมผัสเสน่ห์อาหารไทย ชูศักยภาพเศรษฐกิจ
จีนแห่ ‘โคมไฟปลา’ แหวกว่ายส่องสว่างในอันฮุย
"พิพัฒน์" ตรวจเยี่ยมเอกชน ต้นแบบอุตสาหกรรม ผลิตด้วยเทคโนฯ AI พร้อมเร่งนโยบาย up skill ฝีมือแรงงานไทย
ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น