“อนุทิน” แย้มเปิดทางจับมือตั้งรบ.กับทุกพรรค ชี้สัมพันธ์ดีกับทุกค่าย

“อนุทิน” แย้มเปิดทางจับมือตั้งรบ.กับทุกพรรค ชี้สัมพันธ์ดีกับทุกค่าย

วันนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงแนวทางการร่วมรัฐบาลของพรรคภูมิใจไทยหลังการเลือกตั้งเที่ยวหน้าว่า การจะร่วมรัฐบาลกับใครต้องดูว่าไปรวมแล้วเสียงจะเกินหนึ่งของสภาฯหรือไม่ ควบคู่กับ ประเมินจากคะแนนพรรค และคะแนนผู้สมัครตรงนี้จะทำให้เราทราบว่าประชาชนต้องการให้เราทำอะไร ไปในทิศทางไหน เราคงจะไม่ฝืนความต้องการของประชาชน ส่วนเงื่อนไขของพรรค ในการจะจับมือหรือไม่จับมือกับพรรคการเมืองใดในการทำงานนั้น พรรคภูมิใจไทยไม่เคยมีปัญหาในเรื่องของความสัมพันธ์กับพรรคไหนอยู่แล้ว ความคิดเห็นที่ต่างกันทางการเมืองท่าทีของเรื่องต่างๆที่เห็นต่างกันถือเป็นเรื่องปกติ เราไม่เห็นด้วยกับหลายเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาล และเราก็แสดงท่าทีชัดเจน อย่างเช่น เรื่องกฎหมายกัญชาที่มีคนไม่เห็นด้วยกับพรรคภูมิใจไทย เราจะไปบังคับความคิดเขาได้อย่างไร สุดท้ายเป็นเรื่องของแต่ละพรรคที่จะพิจารณา และแสดงความคิดเห็น แต่เรื่องของมารยาทการอยู่ร่วมกัน ควรต้องสนับสนุนซึ่งกันและกันหรือไม่ ไม่เช่นนั้นต่อไปใครจะออกกฎหมายแล้วเป็นรัฐบาลผสม

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนพรรคภูมิใจไทยมีสัญญาใจจะต้องจับมือกับรัฐบาลขั้วเดิมก่อนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่างอยู่ที่ผลของการเลือกตั้งครั้งหน้า เราคงพูดตอนนี้ไม่ได้ เพราะยังไม่รู้ว่าพรรครัฐบาลมีใครบ้าง และยังไม่รู้เลยว่าพรรคพลังประชารัฐที่เคยเป็นพรรคแกนหลักจัดตั้งรัฐบาล รวมทั้งความเป็นไปในพรรคเป็นอย่างไร แกนนำของแต่พรรคยังตัดสินใจที่จะอยู่ด้วยกันหรือไม่ หรือจะแยกไปทำพรรคอื่นต่างหาก ในเมื่อเราไม่รู้ และเราควบคุมอะไรไม่ได้ เมื่อผลการเลือกตั้งออกมา ถ้ายังมีอะไรที่เราจะต้องก้าวไปในทิศทางไหนก็ค่อยพิจารณา ส่วนถ้าพรรคเพื่อไทยได้คะแนนเยอะเป็นแกนนำจะสามารถร่วมงานกันได้ใช่หรือไม่นั้น ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ ได้ส.ส.เยอะ ก็ต้องไปถามพรรคเพื่อไทย แต่ในส่วนของเราก็ต้องทำให้มีจำนวนส.ส.มากที่สุด ซึ่งคนที่จะทำให้เราได้มากหรือน้อยคือประชาชน

หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยังกล่าวถึงกรณีพรรคก้าวไกลมีจุดยืนแก้ ประมวลกฎหมายอาญา ม.112 าไม่น่าจะร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยใช่หรือไม่ว่า ถ้าจุดยืนนี้ยังไม่เปลี่ยนก็คงลำบากที่จะทำงานด้วยกัน เพราะพรรคภูมิใจไทยมีความชัดเจนเรื่องของสถาบันพระมหากษัตริย์ เรามีความเชื่อว่ามาตรา 112 ที่บัญญัติไว้ในปัจจุบันเป็นสิ่งที่มีไว้เพื่อธำรงรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์หรือสถาบันหลักของชาติไว้ เรามีความจำเป็นที่จะต้องยึดถือเรื่องนี้เอาไว้ เรายังพูดเหมือนเดิมว่า ถ้าเราไม่คิดจาบจ้วง ก้าวล่วง ให้ร้ายสถาบันมาตรา 112 แทบจะไม่ได้มีความหมายอะไรกับคนปกติทั่วไป ซึ่งมาตรา 112 ไม่ว่าจะบัญญัติอย่างไรก็แล้วแต่ พรรคภูมิใจไทยก็ไม่ได้เดือดร้อนด้วย ประเทศไทยต้องมีสถาบันพระมหากษัตริย์ นี่คือสิ่งที่ไม่ใช่พรรคภูมิใจไทยคิดอย่างเดียว แต่หัวหน้าพรรค ผู้บริหารพรรค ก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"กรมโยธาฯ" จับมือ "คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล" ลงนาม MOU ช่วยชีวิตผู้ป่วยด้วยการบริจาคโลหิต
“ไทด์” แฉลึก! ยศใหญ่โทรปิดเกม สั่งย้าย “แตงโม” เข้านิติเวช รพ.ตำรวจ
เมียไรเดอร์ เปิดใจเสียงสั่น กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังรู้ข่าว หนุ่มอินเดียซิ่งเก๋งได้ประกันตัว ลั่น ‘คนมีเงินมันยิ่งใหญ่’
นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception เชิญชวนสัมผัสเสน่ห์อาหารไทย ชูศักยภาพเศรษฐกิจ
จีนแห่ ‘โคมไฟปลา’ แหวกว่ายส่องสว่างในอันฮุย
"พิพัฒน์" ตรวจเยี่ยมเอกชน ต้นแบบอุตสาหกรรม ผลิตด้วยเทคโนฯ AI พร้อมเร่งนโยบาย up skill ฝีมือแรงงานไทย
ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น