นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกประจำศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามการเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์และสมุยพลัสโมเดลอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้ความมั่นใจว่า โครงการดังกล่าวยังคงเดินหน้าต่อ แม้ว่าจะมีตัวเลขของผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ในจังหวัดภูเก็ตเพิ่มขึ้น แต่พบว่าส่วนใหญ่มาจากคนในพื้นที่ แคมป์ก่อสร้าง หรือผู้ที่เดินทางข้ามจังหวัด ซึ่งปัญหาดังกล่าวไม่ได้เกิดจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาตามโครงการนี้ เพราะจากตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมที่เดินทางเข้ามาภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์นั้น อยู่ที่ประมาณ 13,281 คน พบว่าติดเชื้อใหม่เพียง 1 คน ส่วนผู้ติดเชื้อชาวต่างชาติสะสม มีจำนวน 30 คน และตรวจพบเชื้อตั้งแต่วันแรกที่เดินทางเข้ามา และถูกส่งเข้ารับการรักษาแล้ว อย่างไรก็ตาม
อีกทั้ง จังหวัดภูเก็ตได้ยกระดับมาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ควบคุมการเดินทาง เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 – 16 ส.ค. 2564 ยกเว้นบางกรณีที่สามารถเข้าพื้นของจังหวัดได้ เช่น รถฉุกเฉินทางการแพทย์ ขนส่งยา เวชภัณฑ์ สินค้าอุปโภคบริโภค แก๊สหุงต้ม น้ำมันเชื้อเพลิง ขนส่งเงินของธนาคาร หรือผู้ที่มีความจำเป็น เป็นต้น ถือเป็นการปิดการเดินทางเข้า-ออกจังหวัด แต่ไม่ได้ปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์แต่อย่างใด เพื่อให้การควบคุมโรคมีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ และเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและคนภูเก็ตทุกคน
นายธนกร กล่าวอีกว่า ในส่วนของสมุยพลัสโมเดล กรณีที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 บนเกาะสมุย จำนวน 54 รายนั้น เป็นคลัสเตอร์ร้านอาหาร ซึ่งทางจังหวัดก็สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว ยืนยันว่า สมุยพลัสโมเดลยังดำเนินการต่อไปได้ เนื่องจากกลุ่มที่ติดเชื้อไม่ได้มาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติโครงการสมุยพลัสโมเดล และไม่ใช่นักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ที่ข้ามไปจากจังหวัดภูเก็ตด้วย ขอให้มั่นใจในโครงการดังกล่าวว่าสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติตามโครงการสมุยพลัสโมเดล และภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ที่เดินทางเข้าเกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่านั้น อยู่ที่ประมาณ 200 คน โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาต่างพอใจ รู้สึกผ่อนคลายกับทัศนียภาพรอบเกาะ และไม่ได้มีความกังวลใดๆ
นายธนกร กล่าวต่ออีกว่า ท่านนายกฯ ขอให้เชื่อมั่นในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวโดยเน้นพื้นที่ปลอดภัย และเตรียมขยายพื้นที่เดินหน้าต่อในการเปิดเกาะพีพี เกาะไหง และไร่เล ของจังหวัดกระบี่ และเขาหลัก เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่ ของจังหวัดพังงา ตั้งเป้าภายในเดือนสิงหาคมนี้ ในส่วนของพื้นที่ของเกาะนั้นมีความพร้อม ประชาชนตามเกาะฉีดวัคซีนแล้ว 70 – 100% และเป็นพื้นที่ไม่พบผู้ติดเชื้อ โดยระยะแรกจะให้ประชาชนคนไทยที่ฉีดวัคซีนครบโดสและมี
นอกจากนี้ ผลการตรวจ Swab ภายในระยะเวลาที่กำหนด ตลอดจนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาจะมาจากกลุ่มภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์และ สมุยพลัสโมเดลก่อน เชื่อว่าจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มมากขึ้น โดยยึดแนวทางสร้างความสมดุลระหว่างการเฝ้าระวังความปลอดภัยสุขภาพอนามัย และการส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพื่อคนไทยทุกคน ตามเจตนารมณ์ของท่านนายกฯ ดังนั้น ขอให้ช่วยกันสร้างบรรยากาศที่ดีเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว และร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจเดินหน้าต่อไป