กรมคุมประพฤติ เผยตัวเลข7 วันอันตราย เข้าวันที่ 2 “นนทบุรี” ครองแชมป์เมาแล้วขับ

กรมคุมประพฤติ เผยตัวเลข7 วันอันตราย เข้าวันที่ 2 "นนทบุรี" ครองแชมป์เมาแล้วขับ

กรมคุมประพฤติ เผยตัวเลข เมาแล้วขับ ช่วง 7 วันอันตราย วันที่ 2 เมืองนนท์ ครองแชมป์ 120 คดี เทียบเคียงสถิติ ปีที่นี้ พบผู้กระทำผิดมีแนวโน้มสูงขึ้น คิดเป็นร้อยละ 95.6 เตรียม 3 มาตรการจัดการผู้กระทำผิด ทั้งส่งบำบัด เข้าค่ายปลูกจิตสำนึก และ บำเพ็ญประโยชน์สังคม

 

31 ธ.ค. 2565 นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผย สถิติคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมความประพฤติในวันที่สองของการควบคุมเข้มงวด (30 ธันวาคม 2565) ว่า มีคดีทั้งสิ้น 1,507 คดี เป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา 1,433 คดี คดีขับรถประมาท 2 คดี คดีขับเสพ 72 คดี ซึ่งจังหวัดนนทบุรี มีสถิติคดีเมาขับสะสมสูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง 120 คดี รองลงมา สมุทรปราการ 105 คดี และกรุงเทพมหานคร 92 คดี

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เมื่อเปรียบเทียบสถิติคดีเข้าสู่งานคุมประพฤติในวันที่ 2 ของเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2565 และ พ.ศ. 2566 พบว่า คดีขับรถขณะเมาสุราปี 2565 จำนวน 575 คดี และปี 2566 จำนวน 1,433 คดี เพิ่มขึ้น 858 คดี คิดเป็นร้อยละ 95.9

อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้กระทำผิดที่เข้าสู่กระบวนการคุมความประพฤติ ในฐานความผิดขับรถขณะเมาสุราทุกราย จะต้องผ่านการคัดกรองตามแบบประเมินพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากพบว่า มีความเสี่ยงสูงจากการติดสุราจะส่งบำบัดรักษาตามสถานพยาบาล ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข และหากพบว่ามีแนวโน้มกระทำผิดซ้ำสูง จะส่งไปแก้ไขฟื้นฟูแบบเข้มข้นในรูปแบบค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ระยะเวลา 3 วัน และยังคงต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการคุมความประพฤติ อาทิ รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ และทำงานบริการสังคม เพื่อให้ตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดจากการเมาแล้วขับ

ทั้งนี้สำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศ ได้ร่วมสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่บริเวณจุดบริการประชาชน ด่านชุมชน และด่านตรวจค้น 133 จุด โดยมีเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครคุมประพฤติ ภาคีเครือข่าย เครือข่ายยุติธรรมชุมชน ประชาชนและผู้ถูกคุมความประพฤติ เข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้น 2,658 คน

ในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้ นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ ขอฝากความห่วงใยให้กับประชาชน โดยเฉพาะงานสังสรรค์ที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ควรขับรถขณะเมาสุรา ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง และสวมหมวกนิรภัย เพื่อป้องกันการสูญเสียต่อตนเองและครอบครัว

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สุดทน "พ่อพิการ" ร้อง "กัน จอมพลัง" หลังถูกลูกทรพี ใช้จอบจามหัว-ทำร้ายร่างกาย จนนอน รพ.นับเดือน
สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย
“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์ โชว์ฝีมืองาน เวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น
ห่ามาแล้ว! “แม่สอด” พบติดเชื้ออหิวาต์ เผยญาติฝั่งพม่าซื้อข้าวมากินด้วยกัน
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ สั่งตั้งคกก.สอบ "ตร.จราจร" รีดเงินแทนเขียนใบสั่ง
สตม. บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางคอนโดหรูห้วยขวาง รวบ 6 คนจีน อึ้งเจอซิมการ์ด 2 แสนซิม
ครูบาอริยชาติ เชิญชวนพุทธศาสนิกชน ฉลองสมโภช 18 ปีวัดแสงแก้วโพธิญาณ และทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคล 44 ปี
กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา "ชวาล" ส.ส.พรรคประชาชน ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ โทษคุก-ตัดสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
จีนเตือนสหรัฐกำลังเล่นกับไฟหลังส่งอาวุธให้ไต้หวัน
อิลอน มัสก์วิจารณ์แรงผู้นำเยอรมันเหตุโจมตีตลาดคริสต์มาส

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น