นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์คัดค้านรัฐบาลออกข้อกำหนดที่ 29 เนื่องจากขัดรัฐธรรมนูญว่า จากการศึกษาข้อกฎหมาย แม้จะเห็นว่าข้อกำหนดดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ แต่การจะดำเนินการอย่างไรได้นั้น ต้องมีคดีความเกิดขึ้นก่อน หมายความว่า รัฐต้องบังคับใช้ข้อกำหนดดังกล่าวต่อสื่อมวลชนหรือประชาชนก่อน ประเด็นต่อมาคือ เมื่อมีการใช้อำนาจตามข้อกำหนดแล้วจะมีผู้เสียหายที่ถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพ เช่นนั้นแล้วถึงจะเป็นคดีขึ้นสู่ศาลว่าเขาถูกละเมิดอย่างไร การบังคับใช้กฎหมายขัดรัฐธรรมนูญอย่างไร
หรือกรณีมีสื่อมวลชน ประชาชนเห็นว่าข้อกำหนดดังกล่าวทำให้ไม่สามารถใช้สิทธิเสรีภาพได้ ไม่กล้าเขียนบทความไม่กล้าแสดงความคิดเห็นเพราะเกรงว่าจะถูกดำเนินคดีเช่นนี้ก็จะเข้าข่ายยื่นคำร้องได้ ซึ่งตอนนี้ทางพรรคกำหลังศึกษาแนวทางอยู่ หากมีบุคคลที่ถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพทางพรรคเพื่อไทยยินดีเป็นตัวแทนทำคำร้องไปยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อเอาผิดรัฐบาล อีกทั้งในขณะนี้ที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พรรคเพื่อไทยก็ได้หารือกันว่าจะนำประเด็นการใช้อำนาจเกินขอบเขตของรัฐธรรมนูญ การใช้อำนาจกฎหมายที่ลุแก่อำนาจไม่คำนึงถึงสิทธิเสรีภาพของประชาชนและสื่อมวลชน เป็นประเด็นในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ด้วย
ส่วนความพร้อมสำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยหารือกันมาตลอดซึ่งตอนนี้มีความชัดเจนแล้ว 90% ประเด็นหลักหนีไม่พ้นการบริหารสถานการณ์โควิดที่ล้มเหลวของรัฐบาล ตั้งใจว่าจะยื่นญัตติต่อประธานสภาฯ ช่วงที่รัฐสภาจะพิจารณาวาระ 2 3 ของ ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณฯ หรือประมาณกลางเดือน สิงหาคม