แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง และผู้อำนวยการศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ แถลงถึงการขบวนการทุจริตซื้อขายคิวฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อว่า ที่ผ่านมาศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ดำเนินการใน 2 รูปแบบหลักในสองระยะ คือ การจองคิวล่วงหน้า โดยเปิดให้ลงทะเบียนจองคิวล่วงหน้าผ่าน 4 ค่ายมือถือ และการนัดล่วงหน้าขององค์กรขนาดใหญ่ โดยจะให้สิทธิในการแก้ไขข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ IT ของกรมการแพทย์ และสถาบันโรคผิวหนัง ประมาณ 10 ท่านเท่านั้น ส่วนการเปิดบริการแบบวอล์กอิน เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2564 โดยในช่วงนี้ ทางศูนย์ฯ จะไม่มีข้อมูลเดิมของผู้รับบริการ ต้องลงทะเบียนหน้างานใหม่ทั้งหมด ทำให้จำเป็นต้องเปิดสิทธิให้จิตอาสาที่มาทำหน้าที่ในส่วนการลงทะเบียนที่มีอยู่มากกว่า 200 จุด ที่สามารถเพิ่มหรือแก้ไขข้อมูลของผู้รับบริการได้ทั้งหมด ซึ่งมีจิตอาสาหมุนเวียนและได้รับสิทธิในการดำเนินการดังกล่าวเป็นจำนวนมาก จนเกิดช่องทางให้เกิดการทุจริตเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตามทางศูนย์ฯได้เฝ้าระวังตลอดจนเก็บข้อมูลเชิงสถิติ จึงทำให้ตรวจพบความผิดปกติในการนัดหมายล่วงหน้าที่คาดว่าอาจจะมีการทุจริตเกิดขึ้น
สำหรับการตรวจพบความผิดปกติ เริ่มตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2564 พบพิรุธหลักๆ 2 ประการคือ 1.พบว่ามีจำนวนการนัดล่วงหน้าสูงกว่าปกติที่เจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯได้นำเข้าสู่ระบบฐานข้อมูล โดยเริ่มพบตัวเลขผิดปกติในหลักสิบในช่วงวันที่ 20-27 กรกฎาคม และเพิ่มจำนวนนัดมากกว่าปกติเป็นหลักพันในวันที่ 28-31 กรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของการเปิดรับการบริการแบบวอล์กอิน 2.พบความผิดปกติของช่วงเวลาในการอัพโหลดข้อมูลการนัดล่วงหน้าเข้าสู่ระบบ และศูนย์ได้รับแจ้งเบาะแสว่ามีการซื้อขายเพื่อรับคิวการฉีดวัคซีนจากประชาชนเป็นจำนวนมาก จึงได้ตรวจสอบและพบว่ามีการเพิ่มจำนวนนัดล่วงหน้าโดยทุจริตจากยูสเซอร์ 19 ล็อกอิน ซึ่งอยู่ในกลุ่มจิตอาสา ที่ได้รับการเพิ่มสิทธิในการนำเข้าหรือแก้ไขข้อมูลผู้รับบริการในช่วงเปิดบริการแบบวอล์กอิน
ทางศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ จึงได้วางแผนจับกุมเพื่อสืบให้ได้ถึงผู้กระทำผิดรายใหญ่ทั้งหมด ดำเนินการในวันที่ 28 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันแรกที่มีคิวนัดล่วงหน้าเพิ่มมากกว่าปกติกว่า 2,000 คน ศูนย์ฯ ได้ขุดบ่อล่อปลาให้ผู้ที่ซื้อคิวโดยทุจริต เดินทางมารับบริการที่ศูนย์ฯ เมื่อตรวจเช็คแล้วว่าเริ่มมีการลงทะเบียนไปประมาณ 600 คน จากจำนวน 2,000 กว่าคน ศูนย์ฯ จึงแจ้งยกเลิกคิวการฉีดของทั้งสองพันกว่าคนทั้งหมด พร้อมทั้งขอความร่วมมือเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลของตัวการผู้ที่อยู่เบื้องหลังการทุจริตในครั้งนี้ โดยสามารถรวบรวมผู้ทำนัดหมายฉีดวัคซีนโดยทุจริตนี้ได้มากกว่า 300 คน
ข้อมูลจากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า การซื้อคิวนัดมีทั้งซื้อเอง ญาติหรือนายจ้างซื้อให้ และจ่ายเงินทั้งแบบเงินสด และการโอนเงินในอัตรา 400-1,200 บาทต่อคิว ซึ่งขณะนี้ทางศูนย์ฯ ได้รับข้อมูลรายชื่อและเลขที่บัญชีธนาคารที่ใช้รับโอนของกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวแล้ว จึงได้ให้นิติกรกรมการแพทย์เป็นผู้แทนในการดำเนินการแจ้งความที่ สน.นพวงศ์ ซึ่งขณะนี้ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้สอบสวนเบื้องต้นกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและจิตอาสาทั้ง 19 คนนี้เป็นที่เรียบร้อย อีกทั้งได้ขอความร่วมมือกับ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บก.ปอท. เพื่อสอบสวนหาหลักฐานเชิงลึก นอกจากนี้เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดทุจริตดังกล่าวในอนาคต ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ได้ยกเลิกนัดล่วงหน้าที่ผิดปกติซึ่งตรวจพบระหว่างวันที่ 28-31 กรกฎาคม ทั้งหมด ,ยกเลิก ล็อกอิน-ยูซอร์เดิมทั้งหมด และให้สิทธิในการแก้ไขข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ IT ภายในของกรมการแพทย์และสถาบันโรคผิวหนังเท่านั้น ,ปิดระบบทำการทั้งหมดในช่วงกลางคืนเพื่อป้องกันการ vpn เข้ามาทำการนอกเวลางาน ,ตรวจสอบข้อมูลความผิดปกติของการนัดล่วงหน้า และการนำเข้าข้อมูลอย่างต่อเนื่อง โดยในขณะนี้ได้ยกเลิกการนัดผิดปกติเพิ่มเติมถึงวันที่ 8 สิงหาคม 2564 แล้ว
ทั้งนี้ขอย้ำกับประชาชนว่าการฉีดวัคซีนที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ไม่มีการเรียกรับเงินทุกกรณี และหากจะมีเบาะแสการทุจริตใดๆ ก็ตาม โปรดแจ้งให้ทางศูนย์ฯ ทราบเพื่อที่จะได้ดำเนินการจับกุมและแก้ไขต่อไปดังเช่นกรณีนี้