ชัดเจนแล้วว่าการเลือกตั้งทั่วไปคราวหน้า หนึ่งในแคนดิเดตนายกฯที่มีลุ้นเป็นนายกฯ จะต้องมีชื่อของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) พี่ใหญ่ ๓ ป.บูรพาพยัคฆ์ ที่คราวหน้าขอลุ้นเป็นนายกฯเต็มตัว หลังจากที่ก่อนหน้านี้อยู่ใต้เงาของน้องเล็ก ๓ ป. อย่าง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหมมาตลอด แต่มาเลือกตั้งรอบนี้ หลังบวกลบคูณหารคุยกับคนใกล้ตัวเสร็จสรรพลุงป้อมจะขอลุ้นนายกฯขอเป็นผู้นำประเทศด้วยลำแข้งของตัวเอง ทั้งๆที่รู้ว่าพปชร.ไม่ได้เข้มแข็งมีส.ส.มากเหมือนเก่า เพราะบางส่วนจะตามบิ๊กตู่ไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) บางส่วนก็หอบผ้าหอบผ่อนหนีไปอยู่กับ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เหลืออยู่จริงๆเต็มที่ไม่น่าเกิน ๕๐ คน แต่ลุงป้อมก็ยังมั่นใจว่ามีลุ้นได้
“ ในครั้งที่แล้ว เราตั้งพรรคมา ๒ เดือนได้ ส.ส. ร้อยกว่าคน คราวนี้อยู่กับพรรคนี้มาตั้ง ๔ ปี แล้ว มันจะไม่ได้ได้อย่างไร เราหวังอย่างยิ่งว่าประชาชนจะให้ความสนใจต่อพรรคลังประชารัฐ ซึ่งเป็นพรรคในการจัดตั้งรัฐบาลเหมือนครั้งที่ผ่านมา และเราก็หวังว่าจะไปร่วมในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งใหม่” พล.อ.ประวิตรเปิดใจ ก่อนยืนยันหนักแน่น ตั้งใจว่าจะทำพปชร.ให้เป็นสถาบันทางการเมืองที่เข้มแข็ง เพราะ ส.ส.ในพรรคทุกคน ให้การสนับสนุนร่วมใจอย่างดี อย่างไรก็ตามหากเลือกตั้งคราวนี้ประชาชนไม่สนับสนุนพปชร.ก็เลิก แต่ถ้าประชาชนให้ความเชื่อถือศรัทธาก็เดินหน้าต่อ “ อย่างคราวที่แล้วก็ไม่ได้คิดว่าจะมาการเมืองด้วย มาครั้งแรกก็ตกกระไดพลอยโจนเข้ามา ๓ ปีเอง อย่างไรก็ตามหากมีคนสนับสนุนผมก็ทำไป ถ้าไม่มีใครสนับสนุนผมก็เลิก ผมไม่ได้ประโยชน์อะไรจากทางการเมือง ผมบอกเลยว่า ผมชอบเป็นทหารมากกกว่า ผมไม่ชอบเป็นการเมือง” ลุงป้อมยืนยันส่วนประเด็นที่หลายคนเป็นกังวลว่า ๓ ป. แยกวงกัน อาจทำให้ความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องระหว่าง “ลุงป้อม-บิ๊กตู่” ต้องแตกหักมองหน้ากันไม่ติด เพราะต่างก็มีดาวคนละดวง ประเด็นนี้พล.อ.ประวิตรยืนยันถึงแยกพรรคกันความสัมพันธ์เหมือนเดิม “ ยังไงก็เป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม เพราะอยู่กันมา 40-50 ปี เราก็ดูแลกันมา ส่วนเรื่องของการเมือง ก็เป็นการเมือง เรื่องของส่วนตัวก็เป็นเรื่องของส่วนตัว เรื่องของพี่น้องก็เป็นเรื่องของพี่น้องไม่มีปัญหาอะไร ยังรักกันเหมือนเดิม ไม่มีความขัดแย้งอะไรกัน……พล.อ.ประยุทธ์ ถือเป็นน้องไม่ถือว่าคู่แข่งกัน แต่ถ้าทางการเมือง ใครทางการเมืองดีกว่าคนนั้นก็เป็นไป ไม่มีปัญหา” ลุงป้อมระบุ
นอกเหนือจากการประกาศขอลุ้นนายกฯเต็มตัว มั่นใจคัมแบ๊กกลับมาเป็นรัฐบาลในการเลือกตั้งคราวหน้าเต็มที่ อีกประเด็นที่พล.อ.ประวิตรพูดมาตลอดก็เรื่องของการลดความขัดแย้ง ไม่ทะเลาะกับใคร คุยได้กับทุกขั้ว ล่าสุดก็ออกมาตอกย้ำดังๆชัดๆอีกครั้งในเรื่องนี้ “ พปชร.เราต้องการก้าวข้ามความชัดแย้งทั้งหมด ไม่ให้มีความขัดแย้งเลย ซึ่งเรื่องความขัดแย้งจะเป็นหัวใจสำคัญในการเดินหน้าของพรรค เพราะพรรคต้องการก้าวผ่านความขัดแย้งทั้งหมด ผมจะไม่ขัดแย้งกับใคร และที่ผ่านมาก็ไม่เคยทะเลาะกับใคร” พล.อ.ประวิตรประกาศ พูดแบบนี้ก็ชัดเจนว่าลุงป้อมแบะท่าพร้อมจับมือเป็นรัฐบาลกับทุกพรรค ลุยการเมืองกับทุกขั้วการเมือง ไม่แปลกที่ลุงป้อมจะพูดออปชั่นนี้ออกมาแต่เนิ่นๆ เพราะประเมินแล้ว เลือกตั้งคราวนี้ให้ทุ่มเทกระสุน บวกกระแส ใช้อำนาจบารมีให้ตายยังไงก็ไม่มีทางเป็นพรรคอันดับ ๑ ในขั้วรัฐบาลเดิมได้แน่ จากที่บรรดาเกจิ เซียนการเมือง กูรูผู้รู้ ประเมินคร่าวๆ ซีกรัฐบาลเดิมภท.ของเสี่ยหนูน่าจะนอนมา อันดับสองน่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)ของ “อู๊ดด้า” จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ อันดับ ๓ กับ ๔ น่าจะเป็นพรรคของพี่น้อง ๒ ป. “พปชร.-รทสช.” ไม่ว่ามองมุมไหนพรรคของลุงป้อมกับพรรคของบิ๊กตู่เมื่อแยกกันเดินก็ต้องหลุดมาอยู่ลำดับที่ว่านี้แหละ โอกาสยากที่จะแซงภท.กับปชป. ขึ้นไปเป็นแกนนำรัฐบาลฃ
ที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นพรรคไหนในขั้วรัฐบาลเดิมทั้ง ๔ พรรค ไล่ตั้งแต่ ภท. ปชป. พปชร. รทสช. ไม่มีทางที่จะตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้แน่นอน เอาแค่ได้ส.ส.เกิน ๑๐๐ คนก็อยากแล้วมีลุ้นพรรคเดียวที่น่าจะทำได้คือภท. ส่วนพรรคอื่นหมดสิทธิ์ไม่มีปัญญาถึงแน่นอน ต่อให้เป็นภท.เองแม้จะได้เกิน ๑๐๐ คนจริงแต่ก็ยังอีกไกลที่จะร่วมรัฐบาลได้ เพราะฉะนั้นไม่แปลกที่ทุกพรรคต้องพยายามเอาตัวรอดให้กับตัวเอง เพื่อรักษาโอกาสในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลในคราวหน้า ไม่แปลกที่ก่อนหน้านี้ “ครูใหญ่เน” เนวิน ชิดชอบ ผู้ก่อตั้งภท.จะออกมาให้สัมภาษณ์เรื่องไม่มีสี ไม่มีขั้ว ไม่มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย “ไม่มีมิตรแท้ และศัตรูถาวร” เพราะเนวินอ่านเกมทะลุมองทุกอย่างออก ต่อให้ภท.ได้เยอะยังไงก็ไม่มีทางเป็นแกนนำรัฐบาลคว้าเก้าอี้นายกฯได้ ยังไงก็ต้องมาพรรคอื่นมาช่วยด้วย ถ้าไม่เอาขั้วรัฐบาลเดิมอย่าง พปชร. ปชป. หรือ รทสช. เข้ามาสนับสนุน ก็ต้องสวังไปดึงพท.มา เนวินออกมาพูดแบบนี้ก็คือการเพิ่มออปชั่นเป็นรัฐบาลให้กับตัวเอง ถ้าได้เกิน ๑๐๐ คนยังไงก็ต้องเป็นนายกฯเป็นแกนนำรัฐบาล ถ้าไม่มั่นใจตรงนี้อนุทินคงไม่ออกมาประกาศกร้าวหรอกว่าถ้าได้ส.ส.สนับสนุนเกิน ๒๕๐ คน ส.ว. ๒๕๐ คนจะให้เป็นนายกฯไหม เพราะเจ้าตัวก็ไม่มั่นใจว่าว่าส.ว.ที่อยู่ในมือ “ลุงป้อม-บิ๊กตู่” จะมาไม้ไหนจะเอายังไง แม้ไม่มีส่วนในการเลือกนายกฯโดยตรง แต่ก็เป็นเสียงสนับสนุนให้แคนดิเดตนายกฯแต่ละคนมีโอกาสมากขึ้น
ใช่จะมีแค่เนวินกับภท.เท่านั้นที่ออกมาประกาศสลายขั้วการเมือง อีกคนสำคัญที่ออกมาพูดเรื่องนี้ไม่หยุดและส่งสัญญาณเรื่องนี้แบบโคตรชัดก็คือลุงป้อม เพียงแต่เลี่ยงบาลีสลายขั้วการเมือง มาเป็น “ไม่ขัดแย้งกับใคร” ถึงขนาดพปชร.เขียนเป็น ๑ ในอุดมการณ์พรรคเลยว่า “ก้าวข้ามความขัดแย้ง” ส่วนลุงป้อมไม่รู้ไม่ทราบก็ยืนกรานหัวเด็ดตีขาด “ไม่ทะเละไม่ขัดแย้ง” กับใคร เอาง่ายๆคือพร้อมผสมพันธุ์กับทุกพรรคพร้อมร่วมงานกับทุกขั้ว อย่าลืมว่าลุงป้อมแม้เลือกตั้งคราวนี้จะมีส.ส.น้อยลง เพราะแยกกันเดิมกับบิ๊กตู่ เต็มที่พปชร.อาจจะได้ราว ๔๐-๕๐ คน ตรงนี้ก็เรียกว่าเต็มกลืนแล้ว แต่จุดแข็งจุดเด่นที่ลุงป้อมเชื่อมั่นว่าตัวเองถือไพ่อยู่ในมือ มีแต้มต่อมากว่าแคนดิเดตนายกฯคนอื่นๆก็คือสภาสูงบรรดาส.ว.นั้นแหละ ล่าสุดพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานส.ว.ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ยิกๆตีกันบิ๊กตู่อวยยศลุงป้อม คนตามการเมืองเห็นพรเพชรพูดอ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้วว่าอยู่ฝั่งไหนไปกับใคร ลุงป้อมออกมาส่งสัญญาณไม่ขัดแย้งกับใคร แถมยังพูดปลดล็อคเงื่อนไขพร้อมจับมือกับทุกพรรคร่วมรัฐบาลทำงานการเมืองไปด้วยกัน เพราะเหตุนี้แหละจึงทำให้พปชร.มีเงื่อนไขในการข้ามห้วยข้ามฝากไปจับมือกับพท.หรือพรรคฝ่ายค้านได้ง่ายกว่าทั้ง ๔ พรรคในซีกรัฐบาล อย่าได้แปลกใจหากลุงป้อมจะคิดการใหญ่หวังไปไกลกับการเลือกตั้งทั่วไปงวดนี้ ๓ พรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันมีจุดแข็งและมองแล้วยากที่จะไปร่วมงานกับพท. ไม่ว่าจะเป็น “ปชป.-รทสช.” ที่หัวเด็ดตีนขาดไม่ไปร่วมสังฆกรรมกับพรรคทักษิณคอกนายใหญ่อยู่แล้ว ส่วนภท.แม้ก่อนหน้านี้แข็งกร้าว แต่ล่าสุดก็ออกมา “แบะท่า อ้าขา” พร้อมร่วมงานกับพท.เหมือนกัน ทุกอย่างก็เป็นไปตามที่เนวินพูดอนุทินก็ออกมาส่งสัญญาณคล้อยตามไปทางเดียวกัน
อย่าได้แปลกใจที่ทุกพรรคพยายามหา “ทางรอด” รวมถึง “รักษาโอกาส” ในการคว้าเก้าอี้นายกฯลุ้นเป็นรัฐบาลให้กับตัวเอง แบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมอะไร “ ชั่ว ดี ถี่ ห่าง” อย่างไรไม่สนอะไรแล้ว ล่าสุดมีข่าวเชื่อถือได้ระบุว่า มีหัวหน้าพรรคการเมืองคนหนึ่งและอดีตผบ.ตร.คนหนึ่งดอดไปพบ “โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีที่เกาะฮ่องกง ขณะที่ก่อนหน้านี้ก็มีอดีตผบ.ตร.อีกคนหนึ่งบินไปหาทักษิณที่ฮ่องกงเหมือนกัน เท็จจริงหรือไม่อย่างไรลองไปหาข่าวดูกัน โทนี่กลับมาเนื้อหอมพท.กลับมามีราคาใครจะให้ค่าหรือทอดสะพาน คอการเมืองก็คงเดาไม่ยากว่าพรรคไหน ? ใคร ? ที่กระสันอยากเป็นนายกฯ กระเสือกกระสนทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เป็นรัฐบาล ถูกผิดไม่รู้ จะไปอยู่กับพวกล้มเจ้าพรรคที่ต่อต้านสถาบันก็เอา กลืนน้ำลายทุกอย่างขอให้ตัวกูพรรคกูได้เข้าสู่อำนาจ คนไทยจำได้คนไทยรู้ทัน ตระบัดสัตย์โกหกลวงโลกระวังคนไทยจะให้บทเรียน เลือกตั้งปี ๒๕๖๖ กำลังคืบคลานเข้ามาคนใกล้ชิดนายกฯอย่าง “เสี่ยแด๊ก” ธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯออกมาส่งซิกนายกฯยุบสภาแน่ๆใกล้ๆครบวาระ ๒๓ มี.ค.๒๕๖๖ ใครอยากย้ายพรรคไม่ต้องกังวลใจบิ๊กตู่เปิดออปชั่นยุบสภาแน่ไม่ต้องกังวล ส่วนจะไปสมัครเข้ารทสช.วันไหน ขอให้จบตาวันดี ๙ ม.ค.๒๕๖๖ ฤกษ์ดีบิ๊กตู่อาจยกพลพรรค อาทิ สุชาติ ธนกร ฯลฯ สมัครเข้ารทสช. เปิดตัวลงการเมืองเต็มตัวกับพรรคนั่งร้านใหม่
////////////////////