“อัษฎางค์” จัดหนัก “ชัชชาติ” ยกเลิกเดินเรือไฟฟ้า มองบริการสาธารณะเป็นธุรกิจต้องทำกำไรจากปชช.

"อัษฎางค์" จัดหนัก "ชัชชาติ" ยกเลิกเดินเรือไฟฟ้า มองบริการสาธารณะเป็นธุรกิจต้องทำกำไรจากปชช.

นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค”  โดยระบุข้อความว่า “การลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมด้วยการการบริหารงานสาธารณะ” การบริหารงานสาธารณะไม่ใช่การบริหารธุรกิจ

ผมดูข่าวมีคมคุณสันติสุขเมื่อเช้ารายงานว่า ผู้ว่าชะชะช่าจะเลิกการเดินเรือไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งผู้ว่าอัศวินและรัฐบาลพลเอกประยุทธ์เริ่มต้นไว้ด้วยต้นทุนร้อยกว่าล้านบาท ด้วยเหตุผล ไม่มีกำไรแถมขาดทุน

ด้วยเหตุผลดังกล่าว คุณหนุ่มจึงถามถึง การเดินรถไฟหรือรถเมล์ ซึ่งขาดทุนมาตั้งแต่ชาติที่แล้ว ควรจะเลิกกิจการด้วยหรือไม่ เพราะเป็นกิจการที่ขาดทุนมาตั้งแต่ชาติก่อนจนถึงปัจจุบันนี้

ผมขอเสริมว่า เมื่อ BTS เริ่มเปิดให้บริการ ก็มีคนมาใช้บริการน้อยและจากทุนอยู่นานหลายปี แต่ BTS ซึ่งเป็นบริษัทเอกชน ก็ยังเข้าใจว่า นี่คืองานบริการสาธารณะที่ได้รับสัมปทานมาจาก กทม. ทำให้ BTS ไม่คิดเลิกกิจการ แต่ดำเนินการต่อมาจนประสบผลสำเร็จอย่างดงามและสร้างความพอใจในบริการให้กับประชาชนมาจนในปัจจุบัน

แต่เรือไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของ กทม.เพิ่งเปิดดำเนินการมาได้ไม่เท่าไหร่ พอเปลี่ยนผู้ว่าฯ ก็ถูกยกเลิกเสียแล้ว ด้วยเหตุผลว่ามีผู้ใช้บริการน้อย ไม่คุ้มทุน !
จริงๆ คุณหนุ่มพูดในรายการข่าวได้ครบจบจริงไปแล้ว แต่ผมคัดปากอยากเสริมว่า คนที่เรียนบริหารธุรกิจและทำงานในภาคเอกชน เขาจะคำถึงถึงผลประกอบการด้วยกำไรขาดทุน แต่คนที่เรียนรัฐประศาสนศาสตร์หรือบริหารรัฐกิจและทำงานบริหารราชการแผ่นดิน ต้องคำนึงถึงงานบริการสาธารณะ ไม่ใช่เรื่องกำไรขาดทุน

คุณเป็นผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ หรือจะเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วคุณบริหารงาน โดยวิธีคิดจะเอากำไรจากพี่น้องประชาชนเป็นตัวตั้งหรือ ไหนตอนหาเสียง บอกว่า อาสามารับใช้ประชาชน งานบริหารสาธารณะคืออะไร

ผมจะเล่าให้ฟัง การบริการสาธารณะเป็นกิจการที่อยู่ในความอํานวยการ หรือในกํากับดูแลของฝ่ายปกครอง หรือรัฐโดยที่ฝ่ายปกครองหรือรัฐมีหน้าที่ในการจัดทําบริการสาธารณะเพื่อสนองความต้องของ ประชาชนเป็นส่วนรวมมิใช่การจัดทําเพียงเพื่อประโยชน์ของกลุ่มใดโดยเฉพาะเจาะจง

***ทั้งนี้การจัดทํา บริการสาธารณะก็เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของสังคมและเศรษฐกิจ***

อ้าว ไหนว่าเรียกร้องเรื่องความเหลื่อมล้ำทางสังคมไง แล้วพวกคุณเลือกคนที่ไม่สนใจงานที่จะลดความเหลื่อมล้ำมาบริหารราชการหรือ?

การลดปัญหาความเหลื่อมล้ําและช่องว่างทางสังคมเป็นภารกิจของรัฐที่ต้องจัดทําขึ้น เพื่อสนองความต้องการของประชาชนโดยส่วนรวม

บริการสาธารณะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ

1. บริการสาธารณะปกครอง เช่น การดูแลความปลอดภัยและความสงบสุขของชุมชน ซึ่งรัฐหรือฝ่ายปกครองจัดทําให้ประชาชนโดยไม่ต้องเสียค่าตอบแทน

2. บริการสาธารณะทางสังคมและวัฒนธรรม เช่น การแสดงนาฏศิลป์ พิพิธภัณฑ์ การกีฬา การศึกษาวิจัย ฯลฯ ซึ่งเป็นกิจการที่ไม่มุ่นเน้นการแสวงหากําไรเช่นกัน

3. บริการสาธารณะทางอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม คือ บริการสาธารณะที่เน้นทางด้านการผลิต การจําหน่ายและการให้บริการ ซึ่งประกอบด้วย

 

ข่าวที่น่าสนใจ

(1) การบริการสาธารณะทางอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรมนั้น มีวัตถุแห่งบริการด้านเศรษฐกิจเหมือนกับวิสาหกิจเอกชน คือ เน้นทางด้านการผลิต การจําหน่าย การให้บริการ และมีการแบ่งปันผลประโยชน์ที่ได้รับดังเช่นกิจการของเอกชน

(2) แหล่งที่มาของเงินทุน บริการสาธารณะทางปกครองจะมีแหล่งที่มาของเงินทุน จากรัฐแต่เพียงอย่างเดียว โดยรัฐจะเป็นผู้รับผิดชอบเงินทุนทั้งหมดที่นํามาใช้จ่ายในการดําเนินการ

ส่วนบริการสาธารณะทางอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรมนั้น แหล่งรายได้ส่วนใหญ่จะมาจากค่าตอบแทนการบริการของผู้ใช้บริการ

(3) ผู้ใช้บริการ สถานภาพของผู้ใช้บริการสาธารณะทางปกครองนั้นจะถูกกําหนดโดยกฎข้อบังคับทั้งหมด ซึ่งรวมตั้งแต่การกําหนดองค์กร การจัดองค์กรและการปฏิบัติงาน ดังนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการสาธารณะประเภทนี้จึงมีลักษณะเป็นนิติกรรมที่มี เงื่อนไขและไม่เท่าเทียมกัน

ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้บริการของบริการสาธารณะทาง อุตสาหกรรมและพาณิชยกรรมจะมีลักษณะเสมอภาคกัน เพราะถูกกําหนดโดยสัญญาตามกฎหมายเอกชน

ดังนั้น การบริการสาธารณะจึงเป็นการดําเนินการของรัฐหรือฝ่ายปกครองในการกิจการที่อยู่ในความอํานวยการหรือในกํากับดูแลของฝ่ายปกครองที่จัดทําเพื่อสนองความต้องการส่วนรวมของ ประชาชนทุกคน ทั้งด้านการศึกษา สุขภาพอนามัย การทํางาน การมีรายได้ รวมถึงการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม และการบริการทางสังคม

โดยรัฐหรือฝ่ายปกครองต้องดําเนินการให้อย่างเหมาะสม และมีคุณภาพ เพื่อสนองตอบต่อความจําเป็นขั้นพื้นฐานของประชาชนให้มีคุณภาพที่ดีขึ้น และสามารถพึ่งตนเองได้อย่างทั่วถึง เหมาะสมและเป็นธรรม

***อันจะเป็นการช่วยลดความเหลื่อมล้ําของสังคมและรายได้***

รวมถึงทําให้เศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้น เมื่อผู้มีรายได้น้อยหรือผู้ด้อยโอกาสในสังคม สามารถเข้าถึงการบริการสาธารณะต่าง ๆ ได้อย่างทั่วถึง เหมาะสมและมีคุณภาพ ก็จะทําให้บุคคลเหล่านั้นสามารถพัฒนาตนเองให้เจริญเติบโตเป็นทรัพยากรของชาติที่มีคุณภาพต่อไป

การจัดทําบริการสาธารณะมีความจําเป็นอย่างยิ่งที่ต้องดําเนินการตามหลักนิติธรรม นั้นคือ***หลักว่าด้วยความเสมอภาค*** ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์ที่สําคัญประการแรกในการจัดทําบริการสาธารณะ

ทั้งนี้เนื่องจากการที่รัฐเข้ามาจัดทําบริการสาธารณะนั้น รัฐมิได้มีจุดมุ่งหมายที่จะจัดทําบริการสาธารณะขึ้นเพื่อประโยชน์ของผู้หนึ่งผู้ใดโดยเฉพาะ แต่เป็นการจัดทําเพื่อประโยชน์ของประชาชนทุกคน กิจการใดที่รัฐจัดทําเพื่อบุคคลใดโดยเฉพาะจะไม่มีลักษณะเป็นบริการสาธารณะ

***ประชาชนทุกคนย่อมมีสิทธิได้รับการปฏิบัติ หรือได้รับผลประโยชน์จากบริการสาธารณะอย่างเสมอภาคกัน***

นี่แหละครับ เรื่องของ สิทธิ เสรีภาพและความเสมอภาค ที่คนสามนิ้วไม่เคยเข้าใจ ถ้าคุณจะเรียกร้องเรื่องความเสมอภาคหรือการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม คุณต้องเรียกร้องกับการบริหารงานสาธารณะจากผู้ว่าฯกทม.หรือนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่การเรียกร้องให้เรียนทุกคนได้เรียนในมหาวิทยาลัยดังเหมือนกัน หรือเรียกร้องให้ทุกคนรวยเท่ากัน เสียภาษีเท่ากัน

แต่มันคือการได้รับผลประโยชน์จากการบริหารงานสาธารณะจากภาครัฐ (ทั้งจากท้องถิ่นเช่น กทม. หรือส่วนกลางจากรัฐบาล) โดยเท่าเทียมกัน ตกลงเลิกให้บริการเรือไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ด้วยความไม่เข้าใจในเรื่องการบริหารงานสาธารณะหรือเพราะเรื่องการเมือง หรือทั้งสองเรื่อง ครับท่าน

ทำต่อไปก็กลัวว่าเมื่อประสบผลสำเร็จก็จะกลายเป็นผลงานที่ผู้ว่าอัศวินและรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ริเริ่มไว้ ล้มมันซะก่อนเลย หมดเรื่องหมดราว จบข่าวครับท่าน

 

 

 

 

 

โดยก่อนหน้านี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังร่วมประชุมคณะผู้บริหาร กทม. ครั้งที่ 1/2566 ถึงประเด็นเรื่องการเดินเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า (Electric Vehicle EV) ในคลองผดุงกรุงเกษม เขตพระนคร

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการเดินเรือคลองผดุงกรุงเกษมว่า การเดินเรือคลองผดุงฯ ที่ผ่านมามีผู้โดยสารน้อยมาก แต่ค่าจ้างเดินเรือยังมีอยู่ โดยเรามีค่าใช้จ่ายประมาณ 2.4 ล้านบาทต่อเดือน มีผู้ใช้บริการเพียง 14,000 คนต่อเดือน เมื่อคิดเทียบกับปริมาณคนใช้แล้วค่าบริการต่อคนค่อนข้างสูงมาก ประมาณ 171 บาทต่อคน

นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า จะมีการพิจารณาว่าจะทำต่อไหม ถ้าทำต่อจะคุ้มค่าไหม หรือเอาเงินที่จ่ายไปทำอย่างอื่นที่คุ้มค่ากว่านี้ได้ไหม อาจเป็นรูปแบบใหม่ที่กระตุ้นให้คนใช้บริการมากขึ้น เช่น Shuttle Bus หรือทำเรื่องท่องเที่ยว จะต้องมีการหารือแนวทางดำเนินการ ซึ่งเป็นเรื่องเหตุและผลว่ามันคุ้มทุนจริงไหม หรือทำให้เสียเงินโดยอาจจะไม่จำเป็น เพราะเส้นทางไม่ได้ผ่านชุมชนมาก ประกอบกับช่วงที่ผ่านมามีสถานการณ์โควิด นักท่องเที่ยวน้อยลง และมีการลดน้ำทำแก้มลิง ส่งผลให้เดินเรือไม่ได้

“ดังนั้น หากจะทำต้องดูเรื่องความคุ้มทุนด้วย เนื่องจากเป็นเงินภาษีของพี่น้องประชาชน ทางเราก็ทบทวนรูปแบบอยู่ เพื่อให้ตอบโจทย์และมีความคุ้มค่ามากที่สุด ส่วนสภาพภูมิทัศน์ริมคลองผดุงฯ เข้าใจว่าเป็นเรื่องของการยังไม่ส่งมอบงาน ดังนั้น ผู้รับเหมายังต้องดูแลต้นไม้ ก่อนส่งมอบงานต้องกำชับดูแลต้นไม้ให้ดีก่อน” นายชัชชาติ กล่าว

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ชาวเวียดนามในโฮจิมินห์ดีใจมีรถไฟใต้ดินใช้แล้ว
ผู้นำสูงสุดปัดอิหร่านไม่มีกองกำลังตัวแทน
ฮูตีเคลมผลงาน F/A-18 โดนสอยร่วงทะเลแดง
สื่อทำเนียบฯ จัดเต็มฉายาครม.ปี 67 "รัฐบาล (พ่อ) เลี้ยง" นายกฯท่องโพย วาทะแห่งปี "สามีคนใต้"
“ว้าแดง”เหิมหนัก! สั่งคนไทยห้ามเก็บของป่า ชาวบ้านผวา-ซ้อมอพยพถี่ยิบ
เมีย-แม่ยาย หอบเงินล้าน บุกติดสินบนตำรวจ ช่วยผัวค้าเฮโรอีน สุดท้ายถูกซ้อนแผนโดนรวบตัว
ไทยตอนบนอากาศยังหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 12 องศา ใต้เจอฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กทม. มีหมอกบางตอนเช้า ร้อนสุด 31 องศา
ฮีโร่โอลิมปิคเหรียญทองน้องอร “ฉายาสู้โวย” ร่วมแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน ในงานกีฬาประจำปีอบต.ไทยสามัคคี พร้อมลงแข่งขันตีกอล์ฟบก สร้างความสนุกสนานเฮฮา
"สธ." ยันพบชาวเมียนมา ป่วยอหิวาฯ รักษาฝั่งไทย 2 ราย อาการไม่รุนแรง
สุดทน "พ่อพิการ" ร้อง "กัน จอมพลัง" หลังถูกลูกทรพี ใช้จอบจามหัว-ทำร้ายร่างกาย จนนอน รพ.นับเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น