“ดีอีเอส” Kick off โครงการพัฒนาแพลตฟอร์มภาครัฐ รับกฎหมาย PDPA

"ดีอีเอส" Kick off โครงการพัฒนาแพลตฟอร์มภาครัฐ รับกฎหมาย PDPA ตั้งเป้า 200 หน่วยงานภาครัฐเข้าร่วม เล็งลดค่าใช้จ่ายได้กว่า 5 พันล้านบาท/ปี

วันที่ 4 ม.ค. 66 กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ร่วมกันจัดงานสัมมนาประชาสัมพันธ์เปิดตัว (Kick off) โครงการพัฒนาแพลตฟอร์มภาครัฐ เพื่อรองรับการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Government Platform for PDPA Compliance : GPPC) โดยมีผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมทั้งนักวิชาการเข้าร่วมงานกว่า 300 คน

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวภายหลังเป็นประธานในการเปิดงานสัมมนาประชาสัมพันธ์เปิดตัว (Kick off) โครงการพัฒนาแพลตฟอร์มภาครัฐ เพื่อรองรับการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Government Platform for PDPA Compliance : GPPC) ว่า จากการที่ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ได้มีผลบังคับโดยสมบูรณ์เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ กลไก หรือมาตรการกำกับดูแลเกี่ยวกับการให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งมีลักษณะเป็นกฎหมายกลาง ที่ครอบคลุมการดำเนินการของทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่ทำการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ต้องปฏิบัติให้สอดคล้องกับเงื่อนไขตามที่ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กำหนด ส่งผลให้ทุกหน่วยงานรวมถึงภาครัฐต้องทำความเข้าใจต่อกฎหมาย การดูแลเรื่องความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งการสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับบุคลากรของหน่วยงาน

 

 

“เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับทุกภาคส่วน ในการปฏิบัติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับมาตรฐานสากล กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จึงได้จัดทำ (ร่าง) นโยบายการพัฒนาแพลตฟอร์มภาครัฐเพื่อรองรับการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเรียบร้อยแล้ว ในคราวการประชุมครั้งที่ 3/2564 เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2564 เพื่อเป็นกรอบทิศทางและเป้าหมายการพัฒนาแพลตฟอร์มฯ ช่วยสนับสนุนการดำเนินการด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ เงื่อนไข ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้บริการหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ลดภาระด้านงบประมาณในภาพรวมของภาครัฐ รวมทั้ง สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล ตามนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) โดยมอบหมาย สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) และสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ร่วมกันดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาแพลตฟอร์มภาครัฐเพื่อรองรับการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ให้เกิดความยั่งยืน รวมทั้ง การขยายผลการใช้งานแพลตฟอร์มฯ ให้ครอบคลุมทุกภาคส่วนต่อไป รวมถึงเห็นชอบในการเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบให้ทุกส่วนราชการนำแพลตฟอร์มภาครัฐ เพื่อรองรับการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Government Platform for PDPA Compliance : GPPC) ไปใช้”

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ขณะที่ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวเพิ่มเติมว่า แพลตฟอร์มที่ให้บริการในปัจจุบันล้วนเป็นแพลตฟอร์มของต่างประเทศซึ่งจะคิดค่าใช้จ่ายเป็นรายปี ทำให้หน่วยงานเมื่อเริ่มใช้แล้ว จะต้องตั้งงบประมาณผูกผันในปีต่อไปทุกปี ทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดิน จึงเป็นเหตุผลหลักที่ผลักดันให้เกิดการพัฒนาแพลตฟอร์มภาครัฐเพื่อรองรับการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยคาดว่าโครงการนี้จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและงบประมาณของราชการได้กว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี และในอนาคตก็มีแนวโน้มจะจัดทำโครงการต่อเนื่องรองรับภาคเอกชน เปิดให้ผู้ประกอบการใช้งานแพลตฟอร์ม อำนวยความสะดวก เพื่อให้ผู้ประกอบการในภาคเอกชนสามารถนำไปใช้เพื่อดำเนินการให้สอดคล้องตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และพัฒนาต่อยอด open source ได้

ด้าน นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่า โครงการพัฒนาแพลตฟอร์มภาครัฐเพื่อรองรับการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Government Platform for PDPA Compliance: GPPC) มีวัตถุประสงค์สำคัญ เพื่อออกแบบและพัฒนาแพลตฟอร์มภาครัฐเพื่อรองรับการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และจัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ความเข้าใจด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการใช้แพลตฟอร์มภาครัฐฯ ให้กับกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงศึกษาแนวทางการใช้เทคโนโลยีสนับสนุนการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกระบวนการติดตาม กำกับ การปฏิบัติตามในระดับนานาชาติ ทั้งนี้ ขอเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐเข้ามาร่วมเป็นหนึ่งใน 200 หน่วยงานเป้าหมายของโครงการนี้ ซึ่งจะได้ประโยชน์อย่างมาก ทั้งความรู้จากการจัดอบรมหลากหลายรูปแบบที่สร้างความเข้าใจในกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และได้แนวทางในการ ที่จะดำเนินการให้หน่วยงานเป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และยังได้ใช้งานแพลตฟอร์มภาครัฐฯ ที่อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติตามกฎหมายอีกด้วย โดยหน่วยงานที่สนใจสมัครเข้าร่วมสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ อีเมล [email protected]

นายศิวรักษ์ ศิวโมกษธรรม เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กล่าวว่า พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ เป็นกฎหมายที่มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ กลไก หรือมาตรการกำกับดูแลเกี่ยวกับการให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นหลักการทั่วไป ซึ่งครอบคลุมการดำเนินการของบุคคลหรือนิติบุคคลใดก็ตามที่ทำการเก็บรวมรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูล ส่วนบุคคล ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในราชอาณาจักร จะต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบในการดำเนินการตามข้อกำหนดของกฎหมาย เพื่อให้เกิดการคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคลของประชาชนไทยที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ดังนั้น หน่วยงานของรัฐที่มีฐานะเป็นนิติบุคคล ซึ่งมีภารกิจในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนในประเทศ จึงถือเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายนี้

 

 

 

ทั้งนี้ ตามหน้าที่และอำนาจในมาตรา ๔๔ (๕) และ มาตรา ๔๔ (๖) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ ที่กำหนดให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ประสานงานกับส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ ราชการส่วนท้องถิ่น องค์การมหาชน หรือหน่วยงานอื่นของรัฐเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และให้คำปรึกษาแก่หน่วยงานของรัฐและเอกชนเกี่ยวกับการปฏิบัติ
ตามพระราชบัญญัติฯ ด้วยเหตุนี้ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงได้ร่วมกับสำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จัดทำโครงการพัฒนาแพลตฟอร์มภาครัฐเพื่อรองรับการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Government Platform for PDPA Compliance: GPPC) ขึ้นเพื่อช่วยสนับสนุนการดำเนินการของหน่วยงานของรัฐให้สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้ง การดำเนินการโครงการนี้ จะเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศในภาพรวมอีกด้วย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น