จากกรณีที่นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ ได้ออกมาเคลื่อนไหว โพสต์ภาพ พร้อมข้อความระบุว่า “การลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมด้วยการการบริหารงานสาธารณะ” การบริหารงานสาธารณะไม่ใช่การบริหารธุรกิจ
ผมดูข่าวมีคมคุณสันติสุขเมื่อเช้ารายงานว่า ผู้ว่าชะชะช่าจะเลิกการเดินเรือไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งผู้ว่าอัศวินและรัฐบาลพลเอกประยุทธ์เริ่มต้นไว้ด้วยต้นทุนร้อยกว่าล้านบาท
ด้วยเหตุผล ไม่มีกำไรแถมขาดทุน ด้วยเหตุผลดังกล่าว คุณหนุ่มจึงถามถึง การเดินรถไฟหรือรถเมล์ ซึ่งขาดทุนมาตั้งแต่ชาติที่แล้ว ควรจะเลิกกิจการด้วยหรือไม่ เพราะเป็นกิจการที่ขาดทุนมาตั้งแต่ชาติก่อนจนถึงปัจจุบันนี้
ผมขอเสริมว่า เมื่อ BTS เริ่มเปิดให้บริการ ก็มีคนมาใช้บริการน้อยและขาดทุนอยู่นานหลายปี แต่ BTS ซึ่งเป็นบริษัทเอกชน ก็ยังเข้าใจว่า นี่คืองานบริการสาธารณะที่ได้รับสัมปทานมาจาก กทม. ทำให้ BTS ไม่คิดเลิกกิจการ แต่ดำเนินการต่อมาจนประสบผลสำเร็จอย่างดงามและสร้างความพอใจในบริการให้กับประชาชนมาจนในปัจจุบัน
แต่เรือไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของ กทม.เพิ่งเปิดดำเนินการมาได้ไม่เท่าไหร่ พอเปลี่ยนผู้ว่าฯ ก็ถูกยกเลิกเสียแล้ว ด้วยเหตุผลว่า มีผู้ใช้บริการน้อย ไม่คุ้มทุน !
จริง ๆ คุณหนุ่มพูดในรายการข่าวได้ครบไปแล้ว แต่ผมอยากเสริมว่า
คนที่เรียนบริหารธุรกิจและทำงานในภาคเอกชน เขาจะคำถึงถึงผลประกอบการด้วยกำไรขาดทุน
แต่คนที่เรียนรัฐประศาสนศาสตร์ หรือบริหารรัฐกิจและทำงานบริหารราชการแผ่นดิน ต้องคำนึงถึงงานบริการสาธารณะ ไม่ใช่เรื่องกำไรขาดทุน