DSI แจงแก๊งฟอกเงิน โอน “นอท กองสลากพลัส” กว่า 40 ล้าน เรียกสอบ 13 ม.ค.

DSI แจงแก๊งฟอกเงิน โอน “นอท กองสลากพลัส” กว่า 40 ล้าน เรียกสอบ 13 ม.ค.

จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ “ดีเอสไอ” ออกหมายเรียกผู้บริหาร “กองสลากพลัส” เข้าให้ปากคำ เนื่องจากพบว่ามีกลุ่มขบวนการฟอกเงินรายสำคัญที่ได้จับกุมไปก่อนหน้านี้ มีการเบิกถอนเงินสดและนำไปเข้าบัญชีให้กับบุคคลที่เกี่ยวข้องหลายราย โดยปรากฏหลักฐานว่า หนึ่งในผู้รับเงินจำนวนหลายสิบล้านบาทจากกลุ่มขบวนการนี้ คือผู้บริหารกิจการ “กองสลากพลัส” จึงเป็นเหตุให้ต้องออกหมายเรียกมาเข้าชี้แจงการรับเงินดังกล่าว ขณะเดียวกัน นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ “นอท กองสลากพลัส” ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ตนเองพร้อมชี้แจงกับทางดีเอสไอ ตามที่ได้เสนอข่าวไปอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 5 ม.ค. คณะทำงานศูนย์คดียาเสพติด กรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีการออกหมายเรียกไปนั้น ยืนยันว่าเป็นหมายเรียกให้ผู้บริหารกิจการกองสลากพลัสเข้าให้ปากคำในฐานะพยาน และยังคงมีกำหนดการเดิม คือ วันที่ 13 ม.ค.66 เวลาประมาณ 10.00 น. แต่ถ้านายพันธ์ธวัชต้องการเข้าพบก่อนกำหนด ก็สามารถแจ้งมายังเบอร์โทรศัพท์ของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ตามที่ระบุแนบท้ายในหมายเรียกได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษยังไม่ได้รับการประสานเปลี่ยนแปลงกำหนดนัดจากนายพันธ์ธวัชแต่อย่างใด

 

ข่าวที่น่าสนใจ

คณะทำงานศูนย์คดียาเสพติด ระบุถึงพฤติการณ์ของการรับเงินดังกล่าวจนเป็นเหตุให้มีการออกหมายเรียกในฐานะพยาน ว่า เนื่องจากทางดีเอสไอได้มีการสอบสวนขยายผลจนพบกลุ่มขบวนการฟอกเงินดังกล่าวตามที่เป็นข่าว ปรากฏพบว่าเส้นทางการเงินของขบวนการนี้ได้เชื่อมโยงมายังนายพันธ์ธวัช จำนวนกว่า 42 ล้านบาท (ณ ข้อมูลปัจจุบัน) แต่ดีเอสไอยืนยันว่าเราให้ความเป็นธรรม เพื่อให้นายพันธ์ธวัชได้เตรียมเอกสารต่างๆมาชี้แจงที่มาของเงินจำนวนหลายสิบล้านบาทนี้กับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และหากให้การเป็นประโยชน์หรือมีข้อเท็จจริงที่น่าเชื่อถือ ก็จะให้ความเป็นธรรม เพราะปัจจุบันนายพันธ์ธวัชยังอยู่ในสถานะพยาน

 

คณะทำงานศูนย์คดียาเสพติด ยังอธิบายถึงขั้นตอนในวันที่ 13 ม.ค.66 ว่า หากนายพันธ์ธวัช หรือ นอท เดินทางเข้าพบ ทางพนักงานสอบสวนจะแจ้งวัตถุประสงค์การออกหมายเรียก อธิบายถึงข้อเท็จจริงตามพยานหลักฐานที่รวบรวมได้และสอบถามบางประเด็นคร่าว ๆ ให้บุคคลดังกล่าวรับทราบ เช่น ขอให้ชี้แจงว่าเงินก้อนดังกล่าวเป็นของลูกค้ากลุ่มใด เพราะตามหลักการทำธุรกิจแล้ว ผู้บริหารจะต้องรู้จักกลุ่มผู้บริโภคของตัวเอง เพื่อให้กลับไปรวบรวมเอกสาร อาทิ รายการเดินบัญชีออมทรัพย์ย้อนหลัง หรือเอกสารสำคัญต่างๆ เพื่อนำเข้ามามอบให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษอีกครั้งตามกรอบระยะเวลาภายใน 15 วัน หรือตามที่บุคคลดังกล่าวแจ้งความประสงค์ เพราะเอกสารอาจมีจำนวนมาก

 

จึงต้องให้เวลาเขาได้ดำเนินการจัดเตรียม ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายอนุญาต และในวันดังกล่าวนี้จะยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวใดกับนายพันธ์ธวัช นอกจากนี้ ดีเอสไอโดยศูนย์คดียาเสพติด ได้ออกหมายเรียกพยานบุคคลอีกกลุ่มหนึ่งจำนวน 7 คน ไม่ได้เรียกเพียงนายพันธ์ธวัชเท่านั้น และไม่ได้เรียกให้ทุกคนเข้ามาพร้อมกัน แต่เรียกตามลำดับความสำคัญก่อน เพื่อนำผลการสอบปากคำไปใช้เป็นแนวทางในการออกหมายเรียกบุคคลอื่น ๆ ในภายหลัง

 

เมื่อถามถึงข้อครหาที่สังคมมองว่าเป็นการสั่งการจากนายกรัฐมนตรี จนเรียกว่าดีเอสไอรับลูกต่อหรือไม่นั้น คณะทำงานศูนย์คดียาเสพติด ชี้แจงว่า จริงๆ แล้วคณะทำงานได้มีการขยายผลเกี่ยวกับขบวนการกลุ่มฟอกเงินมาตั้งแต่วันที่ 10 ธ.ค.65 และไม่สามารถทราบได้ว่าจะเจอบุคคลใดบ้างที่เชื่อมโยงถึง จึงเป็นการสืบสวนสอบสวนขยายผลทางคดี ไม่ใช่เรื่องการเมืองและไม่ได้หมายพุ่งเป้ามาที่กองสลากพลัสเจ้าเดียว แต่เป็นเพราะการขยายผลทางคดีที่พบว่าเส้นทางการเงินของหัวหน้าขบวนการฟอกเงินรายสำคัญที่ดีเอสไอถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้นั้น มีความเชื่อมโยงถึงนายพันธ์ธวัชโดยตรง

 

และมั่นใจในพยานหลักฐานที่ได้สืบสวนสอบสวนขยายผลมา จนพบว่าบุคคลดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องแบบไม่ปกติ มีลักษณะการค้าขายที่มีความผิดปกติ รวมถึงเงินหลายสิบล้านบาทนี้ที่เข้าสู่บัญชีเขา ก็มาจากกลุ่มที่ประกอบอาชีพไม่สุจริตอย่างขบวนการฟอกเงิน จึงต้องเชิญมาให้การในฐานะพยาน” คณะทำงานศูนย์คดียาเสพติด ระบุ

 

อาจเป็นรูปภาพของ 1 คน, กำลังยืน และ หนังสือ

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษยังต้องสืบสวนขยายผลเพิ่มเติมว่ามีการโอนเงินออกจากบัญชีออมทรัพย์ของบุคคลดังกล่าวเชื่อมโยงไปถึงบุคคลอื่น ๆ อีกหรือไม่อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นยังพบว่ามีเงินจากบัญชีของผู้บริหารกองสลากพลัสเข้าสู่บัญชีของบุคคลสำคัญรายหนึ่งที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของคนในสังคมอีกด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น