ประเทศชาติมืดมน “ชูวิทย์” แซะกระบวนการยุติธรรม ไม่จริงใจทำ”คดีตู้ห่าว”

ชูวิทย์แฉล่าสุด แซะขบวนการยุติธรรมตำรวจ-อัยการ อาจช่วยตู้ห่าวรอดคุก พร้อมเปิดเผยพยานกลุ่มสำคัญ ส่วนใหญ่เป็นผู้รับเหมาตู้ห่าวสุดแสบเชิดเงินค่าก่อสร้าง แย้มอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภารัฐบาลประยุทธ์โดนหนักแน่ พร้อมเผยข้อมูลเด็ดที่ตำรวจทำคดีช้าเพราะ คนใหญ่คนโตในรัฐบาลอาจเกี่ยวข้อง

การแถลงข่าวแฉขบวนการของนายตู้ห่าวและกลุ่มทุนจีนสีเทาครั้งล่าสุด มีขึ้นวันนี้ (5 ม.ค.66) เมื่อ 14:00 น. ที่ผ่านมา ที่โรงแรมเดวิสสุขุมวิท 24 เริ่มการแถลงข่าว นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้ใส่แว่นดำพร้อมถือตะเกียงและเทียน 2 เล่ม เดินเข้ามาพร้อมบอกว่า ประเทศชาติมืดมนเพราะกระบวนการยุติธรรมมีปัญหา อยากเอาตะเกียงและเทียนให้ตำรวจกับอัยการที่แถลงข่าว คดีตู้ห่าวเมื่อวานนี้

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

จากนั้น นายชูวิทย์ กล่าวว่า ทำไมสังคมถึงต้องมาเชื่อตนเอง แต่ไม่เชื่อในกระบวนการยุติธรรมนั่นเพราะว่ามีพิรุธหลายอย่าง ประชาชนถึงไม่มีความไว้วางใจ เมื่อวาน(4ม.ค.) ที่ผบ.ตร.และอัยการร่วมกันแถลงสรุปคดีของตู้ฮาว มีนักข่าวถามว่า สิ่งที่ชูวิทย์พูดอาจเข้าข่ายหมิ่นประมาทหรือไม่ ตนเองยืนยัน สิ่งที่พูดไปคือข้อเท็จจริงทั้งหมด หากจะถูกดำเนินคดีก็ไม่กลัวเพราะถ้าพูดแล้วประเทศชาติดีขึ้นก็จะทำ

 

นายชูวิทย์ตั้งข้อสังเกตการเก็บพยานหลักฐานและสอบปากคำพยาน ผู้ต้องหา และบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีจับผับจิ้นหลิงและคดีของนายตู้หาวว่า ไม่จริงจัง เก็บพยานหลักฐานแบบวันเว้นวันปล่อยให้ผู้ต้องหามีเวลาในการทำลายหลักฐาน ยกตัวอย่าง คลิปที่ตนเองเปิดเผย มีหญิงสาวสวยขึ้นสน.ยานนาวาหิ้วถุงเงินไปมอบให้กับตำรวจ ทำไมถึงไม่เรียกมาสอบปากคำ ตนเองรู้จักหญิงสาวชาวจีนรายนี้ชื่อว่า “ซ่วยเหรียน”ตอนนี้หาตัวไม่เจอแล้ว

 

รวมไปถึงการหละหลวมในการปล่อยตัวหลานตู้ห่าว ทั้งๆที่มีหลักฐานชัดเจนว่า หลานตู้ห่าวอยู่ในบ่อนการพนัน มีคลิปวงจรปิดชัดเจน ตำรวจสน.ยานนาวา ชื่อคมสัน และเกียรติศักดิ์ รู้เห็นเป็นใจ ที่สำคัญทีมพนักงานสอบสวนดูแลสำนวนคดีตู้ห่าว ก็เป็นตำรวจ 2 นายนี้ อยากถามผบช.น.ว่า รองหมา แต่งตั้งให้ตำรวจ 2 รายนี้มาดูสำนวนทั้งๆที่เป็นผู้ปล่อยรถและปล่อยตัวตู้ห่าวหลบหนีไปจากคืนบุกค้นผับจินหลิง

ในชูวิทย์ยังแฉต่อไปว่า สถานที่ดังกล่าว ไม่ใช่มีแค่ผับจินหลิง ร้านล้างรถ แต่ยังมีบ่อนการพนันที่ชื่อว่า “ลีลา”ตั้งอยู่ด้านในสุด คลิปวงจรปิดที่ตนเองโพสต์ไป นั่นคือด้านในของ”ลีลา” มีตู้ห่าวและหลานตู้ห่าวดูแลอยู่ แต่ตำรวจสอบสวนแค่ผับจิ้นหลิง เรียกได้ว่าไม่ใช่แค่ผับแต่เป็น เอ็นเตอร์เม้นท์คอมเพล็กซ์ มีครบ ทั้งการพนัน ยาเสพติด และหญิงบริการ

 

นายชูวิทย์ยังเปิดเผยเอกสาร ของตำรวจที่เกี่ยวข้องกับพยานหลักฐานต่างๆที่นำไปตรวจสอบ โดยเฉพาะกล้องวงจรปิดที่ตำรวจรายงานว่ายึดได้เพียงแค่1เซอฟเว่อ หรือ 10 ตัว แต่ความจริงมี2เซอฟเว่อร์ หรือ ไม่ต่ำกว่า 100 ตัว ทั้งกล้องวงจรปิดในผับจิ้นหลิง ที่มี 40 ตัวและวงจรปิดในบ่อนพนัน”ลีลา”ที่มีเกือบ 70 ตัว แต่ทำไมตำรวจถึงเจอเพียงแค่ 1เซอฟเว่อร์ หรือ 10 ตัว เท่านั้น หลักฐานทั้งหมดนี้ ตนเองได้มาจากตำรวจน้ำดี เชื่อว่าตำรวจที่ทำคดี ก็มีหลักฐานนี้เช่นกัน

 

 

นายชูวิทย์แฉต่อไปว่า เมื่อวานที่ตนเองฟัง ผบ.ตร.และอัยการแถลง อยากถามกลับไปว่า ทั้ง 2 ท่านมีใครลงไปดูจุดเกิดเหตุบ้างหรือยัง วงจรปิดเห็นได้ชัด ทั้งพนักงานในผับที่กรอกยาเสพติดแยกใส่ถุงไว้ หากเป็นไปได้ตนเองอยากจะเข้าไปเป็นทีมสอบปากคำตำรวจมากกว่า

นายชูวิทย์ยังแฉต่อไปว่า ตู้ห่าวยังมีธุรกิจรถทัวร์โดยสาร ไปเช่าซื้อรถทัวร์จากบริษัทที่เจ้าของเป็นลูกหลานคนในรัฐบาล(หลานพล.อ.ประยุทธ์ ชื่อว่า หจก.คอนเทมโพลารี่ คอนสตรัคชั่น ตนเองถึงไม่สงสัยว่า ทำไมการสืบสวนและทำคดีรวมไปถึงการแจ้งข้อหาสำคัญแก่นายตู้ห่าวถึงล่าช้าหรือหละหลวม นายชูวิทย์ยังบอกอีกว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่จะมีขึ้นเร็วๆนี้อาจมีเรื่องตู้ห่าว ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยแต่จะเป็นพรรคการเมืองไหนหรือตนเองให้ข้อมูลพรรคใดไปคงตอบไม่ได้

นายชูวิทย์ยังได้นำพยานที่เคยทำงานร่วมกับตู้ห่าว ส่วนใหญ่เป็นผู้รับเหมาที่ถูกตู้ห่าวเชิดเงินค่าก่อสร้าง ซึ่งทุกคนต่างมาร้องขอให้นายชูวิทย์ช่วยเพราะไม่เชื่อมั่นในตำรวจ บางรายถูกนายตู้ห่าวเชิดเงินสูงกว่า 35 ล้านส่วนใหญ่เป็นผู้รับเหมาที่รับทำโรงแรมและสถานบันเทิงในเครือของนายตู้ห่าว ผู้สื่อข่าวได้คุยกับตัวแทนเจ้าหน้าที่ตู้ห่าวที่มาร้องขอให้นายชูวิทย์ช่วย ชื่อนายเอก บอกว่ารู้จักตู้ห่าวมาตั้งแต่ปี 57 บริษัทตนเองถูกว่าจ้างให้เข้าไปตกแต่งอาคารมีทั้งโรงแรมดีวาลักษ์ย่านลาดกระบัง และสถานบันเทิงอื่นๆ ที่ตู้หาวเป็นเจ้าของ ตอนนี้ตู้ห่าวยังติดเงินบริษัทตนเองกว่า 35 ล้านบาท บริษัทได้ฟ้องร้องทางแพ่งไปแล้ว ในใจยังหวังว่าจะได้เงินคืน เพราะตอนนี้บริษัทกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก

นายชูวิทย์ยังเปิดเผยพยานคนสำคัญ ที่เป็นผู้ไปเบิกเงินในตู้ห่าว ครั้งละ 20 ถึง 30 ล้านบาท ที่ธนาคารแห่งหนึ่งย่านลาดกระบัง ซึ่งพยานรายนี้ให้ข้อมูลว่า เงินที่ได้มาเป็นเงินจากการทำสิ่งผิดกฎหมายและเงินทั้งหมดจะถูกโอนกลับไปยังประเทศจีน นายชูวิทย์ยังกล่าวไปถึงอัยการรายหนึ่งที่เคยทำคดีสำคัญ(อัยการ ตัวย่อ ส.) ทั้งคดีหลงจู้สมชาย กระทิงแดง ที่เข้ามาให้ความเห็นที่ไม่เหมาะสม เกรงว่าอัยการรายนี้อาจจะทำให้ตู้หาวรอดคุกก็เป็นได้.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ดร.ศิลปฯ" อดีตผู้สมัคร สส.เพื่อไทย รับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่นโรงเรียนทวีธาภิเศก ปี 67 ปักธงสนับสนุนด้านกีฬากับเยาวชน
"แม่บ้าน" ส่อชวดรับมรดก 100 ล้าน หลัง "แหม่มฝรั่งเศส" ยกมรดก 100 ล้าน ให้ก่อนจบชีวิต
ตร.ปคบ.บุกทลายโรงงานเครื่องสำอางเถื่อน ลอบผลิต-ส่งขายทั่วภาคอีสาน ยึดของกลางกว่า 4 หมื่นชิ้น
ชาวบ้าน 2 ตำบลเฮ ขอบคุณป่าไม้ที่อนุญาติให้ อบต.สร้างถนนลัดไปอำเภอ หลัง สว.สุรินทร์ หารือในการประชุมวุฒิสภาช่วยแก้ปัญหาชาวบ้าน เป็นของขวัญปีใหม่
"แม่สามารถ" ยื่นจดหมายลับใส่มือนักข่าว อ้างไม่ได้รับความเป็นธรรม
“ปรเมศวร์” เตือน “อธิบดีกรมที่ดิน” เสี่ยงโดนม.157 ปมเขากระโดง
ผู้จัดการตลท. พร้อมให้ข้อมูล คดี “หมอบุญ” เตือนนักลงทุน ใช้สติก่อนตัดสินใจ
“บิ๊กน้อย” การันตี แจงแทน “บิ๊กป้อม” ไม่โทรให้ใครช่วย “สามารถ”
“ไอซ์ รักชนก” เตรียมระทึกอีก ศาลนัดฟังคำสั่งถอนประกัน 11 ธ.ค.นี้ ลุ้นชี้ชะตาจะรอดคุกหรือไม่
ชาวบ้านบุกรุกพื้นที่อุทยานขุดพรุน 14 ไร่ หาแร่ทองคำล้ำค่า เจ้าหน้าที่บุกจับแจ้ง 6 ข้อหาอ่วม

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น