“บิ๊กตู่” ตอกสื่อ หลังรุมถามปมข่าวหลานชายเอี่ยว “ตู้ห่าว”

“บิ๊กตู่” ตอกสื่อ หลังรุมถามปมข่าวหลานชายเอี่ยว“ตู้ห่าว”

จากกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ ‘ตู้ห่าว’ นายทุนจีนสีเทาเพิ่มเติมว่า ตู้ห่าว ไม่ได้เป็นเจ้าของ บริษัท เอ็มแอนด์ เอ็ม ทรานสปอร์ต เซอร์วิส จำกัด ที่ประกอบกิจการให้บริการขนส่งผู้โดยสาร แต่คนที่เป็นเจ้าของรถจริง ๆ คือ หจก.แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นของหลานพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยตู้ห่าวเป็นเพียงผู้เช่ารถทัวร์ จำนวนกว่า 400-500 คันของบริษัท เอ็มแอนด์ เอ็ม ทรานสปอร์ต มาประกอบธุรกิจเท่านั้น ทำให้นายชูวิทย์ตัดพ้อว่าไม่แปลกใจที่ทำไมคดีของตู้ห่าวไม่คืบหน้าเท่าที่ควร

 

สำหรับหจก.แห่งหนึ่งที่นายชูวิทย์ระบุว่าเป็นเจ้าของตัวจริงของรถทัวร์จากบริษัท เอ็มแอนด์ เอ็ม ทรานสปอร์ต มีชื่อเต็ม ๆ ว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัด คอมเทมโพรารี คอนสตรัคชั่น โดยห้างหุ้นส่วนจำกัด คอมเทมโพรารี คอนสตรัคชั่น เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์รถทัวร์ 400-500 คันที่ตู้ห่าวเช่าผ่านบริษัท เอ็มแอนด์ เอ็ม ทรานสปอร์ต ซึ่งห้างหุ้นส่วนจำกัด คอมเทมโพรารี คอนสตรัคชั่น จดทะเบียนเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2555 ทุนจดทะเบียน 3 ล้านบาท แจ้งประกอบการก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย ตั้งอยู่ที่ 160/19 หมู่ที่ 5 ตำบลอรัญญิก อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก หุ้นส่วนมีทั้งหมด 3 คน ประกอบด้วย

 

 

 

1.นายปฐมพล จันทร์โอชา ซบุตรชายคนโต พลเอกปรีชา จันทร์โอชา สมาชิกวุฒิสภาฯ และอดีตปลัดกระทรวงกลาโหม และเป็นน้องชายของพลเอกประยุทธ์

2.นางสาวพัชรินทร์ ธีรวงศ์ภาสกร

3.นางวัลละภา จันทร์โอชา ภรรยาของนายปฐมพล

ขณะที่งบการเงินล่าสุดปี 2564 มีรายได้รวม 107,834,496 ล้านบาท รายจ่าย 101,862,260 ล้านบาท กำไรสุทธิ 4,355,834.21 ส่วนปี 2563 มีรายได้รวม 62,387,423 ล้านบาท รายจ่ายรวม 76,183,778 บาท ขาดทุนสุทธิ 16,591,031 ล้านบาท

ข่าวที่น่าสนใจ

กรณีนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่หลานของพลเอกประยุทธ์ตกเป็นประเด็นร้อนในสังคม เพราะย้อนไปก่อนหน้านี้ ห้างหุ้นส่วนจำกัด คอนเทมโพรารี คอนสตรัคชั่น ของนายปฐมพล ถูกเปิดเผยข้อมูลมาแล้วว่าได้ใช้ที่อยู่ในค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ (สนามบิน) ตำบลอรัญญิก อำเภอเมืองพิษณุโลก เป็นที่ตั้งแห่งแรก ก่อนย้ายออกมาใช้ที่อยู่ในปัจจุบัน จนทำให้ ป.ป.ช.เข้ามาตรวจสอบ แต่ปัจจุบันเรื่องยังไม่คืบหน้า

 

โดยที่ผ่านมาห้างหุ้นส่วนจำกัด คอนเทมโพรารี คอนสตรัคชั่น ปรากฎชื่อรับงานว่าจ้างหน่วยงานรัฐ ตั้งแต่ช่วงปี 2557 หลายสิบสัญญามูลหลายร้อยล้านบาท อาทิ เดือน มิถุนายน 2561 คว้างานก่อสร้างอาคารที่พักแพทย์ และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลรัฐ 2 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลจังหวัดร้อยเอ็ด และ โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วงเงินรวมกว่า 137 ล้านบาท , เป็นคู่สัญญารับเหมา โครงการของกองทัพบก ในส่วนของกองทัพภาคที่ 3 จำนวน 7 โครงการ วงเงิน 97,651,000 บาท ,เดือน มิถุนายน ถึง กรกฏาคม 2564 ห้างหุ้นส่วนจำกัด คอนเทมโพรารี คอนสตรัคชั่น ชนะประมูลการก่อสร้างอาคารของหน่วยงานรัฐ อย่างน้อย 3 สัญญา รวมวงเงิน 251.88 ล้านบาท

 

ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าสุดท้ายแล้วกรณีของนายตู้ห่าว ไม่ได้มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มการเมืองบางกลุ่ม แต่ตู้ห่าวสานสัมพันธ์กับทุกพรรค คอนเนคชั่นกับกลุ่ม เพื่อเป็นเกราะกำบังให้กับตัวเอง ไล่มาตั้งแต่แต่งงานกับหลานสาวของพลตำรวจเอกประชา พรหมนอก อดีตรองนายกรัฐมนตรี รัฐบาลยิ่งลักษณ์ เมื่อเข้าสู่ยุครัฐบาลคสช. ตู้ห่าวก็ใช้ธุรกิจไปผูกมิตรกับหลานพลเอกประยุทธ์ ต่อมาก็ซื้อบ้านหรูยกโครงการของบริษัท เอสซี แอสเสท ธุรกิจของครอบครัวชินวัตร ปี 2564 ตู้ห่าวก็บริจาคเงินพรรคพลังประชารัฐของบิ๊กป้อม 3 ล้านบาท อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่ว่าตู้ห่าวจะเชื่อมโยงหรือมีสัมพันธ์กับกลุ่มใด ก็เป็นหน้าที่ของพลเอกประยุทธ์ ในฐานะผู้นำประเทศและกำกับดูแลตำรวจ จะสั่งจัดการให้ตำรวจทำคดีนี้อย่างตรงไปตรงมา และเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เกิดครหาจากสังคมตามมา

ขณะที่ล่าสุด 6 ม.ค.66 ที่อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลงพื้นที่เยี่ยมชาวบ้าน พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงการลงพื้นที่ครั้งแรกของปี 2566 ด้วยน้ำเสียงมีอารมณ์ว่า โครงการข้าวรักษ์โลกเป็นอย่างไร

 

จากนั้นได้ถามกลับผู้สื่อข่าวว่า มาดูแล้วรู้สึกอย่างไร ก่อนที่จะตะคอกเสียงดุใส่ผู้สื่อข่าวว่า “ให้ฟังฉันก่อน เวลานายกฯ ไปไหน นายกฯ ก็ดูแบบนายกฯ สื่อไปที่ไหน สื่อดูตรงไหนบ้าง ดูหรือไม่ว่าเขาทำงานกันอย่างไร ให้ฟังก่อนที่จะมาถามนายกฯ นายกฯ ไม่ใช่คนที่จะโมโห เข้าใจไหม

“มาดูงานวันนี้แล้วนึกถึงอะไรบ้าง ต้องดูหลักการใหญ่ว่าโครงการทำอะไรบ้าง ด้วยวิธีการอะไรบ้าง หลักการ 1 2 3 4 มีอะไรบ้าง ซึ่งฉันไม่ตอบ เธอไม่ต้องตอบ เพราะเธอไม่ฟัง จะมาตอบฉันทำไม ในเมื่อเธอก็ไม่รู้เรื่อง”

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้พยายามถาม พล.อ.ประยุทธ์ ถึงกรณีที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตนักธุรกิจกลางคืน เปิดโปงหลักฐานโยงชื่อหลานชายของ พล.อ.ประยุทธ์ เข้าไปเอี่ยวคดีตู้ห่าว โดยนายกฯยกมือปราม และพูดต่อว่า “ฉันไม่ใช่ศัตรูเธอ ฉันจะพยายามไม่หงุดหงิดอยู่แล้ว” จากนั้นได้ปัดมือไปข้างหลังก่อนจะเดินขึ้นรถไป

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เยอรมนีจ่อเปลี่ยนสถานีรถไฟใต้ดินเป็นที่หลบระเบิด
จีนเตือนไม่มีใครชนะในสงครามการค้า
อัยการนัดฟังคำสั่งคดี "เชน ธนา-ภรรยา" ถูกกล่าวหาฉ้อโกง 29 พ.ย.นี้
“ลุงป้อม” ปัดตอบปม “สิระ” อ้างคนในป่าต่อสายช่วย “สามารถ”
"ทนายพจน์" ยื่นหนังสือสำนักพุทธฯ จี้คณะสงฆ์แจ้ง "พระปีนเสา" สละสมณเพศ หลังถูกขับพ้นวัดวังกวาง
ตร.นำกำลังทลายแคมป์ "แรงงานต่างด้าวเถื่อน" นับร้อย ย่านหนองใหญ่-ชลบุรี เตรียมผลักดันออกนอกประเทศ
‘โฆษก ทบ.’ แจง ‘เจ้ากรมยุทธฯ’ ทำร้ายทหาร เหลือสอบพยาน 2-3 ราย ทำได้แค่ตักเตือน ส่วนคดีอาญา เจ้าทุกข์ต้องดำเนินการ
"อ.ปานเทพ"กางเอกสาร JC2544 อ้างไทย-กัมพูชา เคยรับรอง MOU 44 เป็นสนธิสัญญา
"ดร.ศิลปฯ" อดีตผู้สมัคร สส.เพื่อไทย รับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่นโรงเรียนทวีธาภิเศก ปี 67 ปักธงสนับสนุนด้านกีฬากับเยาวชน
"แม่บ้าน" ส่อชวดรับมรดก 100 ล้าน หลัง "แหม่มฝรั่งเศส" ยกมรดก 100 ล้าน ให้ก่อนจบชีวิต

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น