วันนี้ (2 ส.ค. 64) เวลา 10.30 น. นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน” นำกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่ง เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) เพื่อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยตัวทีมงานรถเครื่องเสียง ทั้ง 3 คน ที่ถูกจับกุมขณะร่วมทำกิจกรรมคาร์ม็อบเมื่อวานนี้(1 ส.ค.) โดยทันทีที่เดินทางมาถึง ผู้ชุมนุมได้ร่วมกันนำป้ายผ้า ที่ระบุข้อความขับไล่นายกรัฐมนตรีมาขึงทับป้ายกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และขึงแขวนบริเวณรอบรั้ว ก่อนที่จะพากันไปชู 3 นิ้วและตะโกนขับไล่นายกรัฐมนตรีที่หน้าแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่มายืนเรียงหน้ากระดานตรงทางเข้ากองบัญชาการฯ
ขณะเดียวกัน “ไผ่ ดาวดิน” ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยกล่าวถึงการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 10 นายเข้าทำการจับกุมทีมงานรถเครื่องเสียงทั้ง 3 คนขณะเข้าร่วมกิจกรรมคาร์ม็อบเมื่อวานที่ผ่านมาว่า เป็นการจับกุมที่ไม่ให้สิทธิตามหลักกฏหมาย ละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ไม่สามารถยอมรับได้ เพราะภายหลังการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการยึดโทรศัพท์มือถือ ซึ่งตามหลักกฏหมายและตามหลักสิทธิมนุษยชน ผู้ถูกกล่าวหาต้องมีสิทธิ์ที่จะได้พูดคุยกับญาติหรือทนายความ ดังนั้นขอเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวทั้ง 3 คน เนื่องจากทั้ง 3 คนนี้มีครอบครัว และต้องทำมาหากิน
นอกจากนี้ “ไผ่ ดาวดิน” ยังเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหยุดปกป้องรัฐบาลอย่างไม่ลืมหูลืมตา และหยุดให้การสนับสนุนรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่บริหารงานล้มเหลว วันนี้ไม่ได้เรียกร้องให้ตำรวจต้องมาอยู่เคียงข้างประชาชน แต่ต้องการจะบอกว่าอย่าเป็นเครื่องมือให้กับรัฐบาล หยุดขัดขวางประชาชน มิเช่นนั้นตำรวจอาจจะล้มเหลวตามรัฐบาลได้
สำหรับการออกมาเรียกร้องและการออกมาชุมนุมทางการเมืองในวันนี้ “ไผ่ดาวดิน” ยังกล่าวด้วยว่า ไม่เพียงแต่ต้องการเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวเพื่อนแกนนำ ที่ยังคงถูกจับกุมอยู่ แต่ต้องการที่จะออกมาตอบโต้และแสดงออก รวมถึงต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงของประเทศ และต้องการเรียกร้องให้ประชาชนได้รับวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอ ที่มีคุณภาพ ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด19 แบบนี้
ถัดมาในช่วงเวลาก่อน 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกมาพูดคุยกับทางแกนนำว่า ขณะนี้ทีมงานเครื่องเสียงทั้ง 3 คนไม่ได้อยู่ที่ บช.ปส. แต่ถูกนำตัวไปสอบปากคำ ก่อนที่จะนำตัวทั้ง 3 คน ส่งศาลแขวงดุสิตในเวลาต่อไป หลังจากนั้น “ไผ่ ดาวดิน” ได้ประกาศว่าจะยังไม่เดินทางไปไหน จะยังคงปักหลักอยู่ที่นี่ เนื่องจากรถเครื่องเสียงยังจอดอยู่ อีกทั้งทนายความที่รอดำเนินเรื่องยื่นประกันตัว
จากนั้นผู้ชุมนุมได้ส่งเสียงดังด้วยการตะโกนตามข้อเรียกเรียกรร้อง และมีการนำสีที่เตรียมมาไปทาและขีดเขียนบริเวณทางเข้าและกำแพงด้านข้าง บช.ปส. จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้พยายามกระชับพื้นที่และผลักดันผู้ชุมนุมให้ออกจากพื้นที่ โดยมีการกระทบกระทั่งกันเล็กน้อย
ต่อมา ตำรวจควบคุมฝูงชน พร้อมชุดปราบจราจล โล่ กระบอง เรียกกำลังเข้ากระชับพื้นที่ ก่อนควบคุมตัวไผ่ ดาวดิน พร้อมพวก จำนวนหลายคน ขึ้นรถผู้ต้องขังที่มาจอดรอรับ พร้อมทั้งกันสื่อมวลชนและผู้ไม่เกี่ยวข้องออกนอกพื้นที่