“นายกฯ” แจงปมตั้ง 3 ที่ปรึกษานายกฯ ไม่มีเงินเดือน ให้คำปรึกษาทั่วไป

นายกฯ ห่วงปัญหาแรงงานและมัคคุเทศน์ขาดแคลน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว สั่งหน่วยงานเกี่ยวข้องดูแล พร้อมชี้แจง ตั้ง 3 ที่ปรึกษานายกฯ ไม่มีเงินเดือน เป็นการให้คำปรึกษาทั่วไป หรือที่เรียกกันว่า “ที่ปรึกษานายกฯลอย”

วันที่ 10 ม.ค. 66 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ปฎิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้มีการแต่งตั้งที่ปรึกษานายกฯ 3 คน ยืนยันว่าเป็นการแต่งตั้ง ข้าราชการ โดยอาศัยอำนาจแห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 (ไม่ใช่ ตาม พ.ร.บ. ข้าราชการการเมือง พ.ศ. 2535) หรือที่เรียกทั่วไปว่า เป็น “ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีลอย” คือ ไม่มีเบี้ยหวัด ไม่มีเงินเดือน เป็นการให้ปรึกษานายกรัฐมนตรีทั่วไป ซึ่งในอดีต บางสมัยก็มีการตั้งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในลักษณะนี้ จำนวนมาก

พร้อมกันนี้ที่ประชุมได้รับทราบการกลับมาของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในประเทศไทย นายกฯจึงสั่งการในที่ประชุม ครม.ว่า มีการประเมินว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างประเทศจะเดินทางมาไทยตลอดทั้งปี อยู่ที่ระหว่าง 20-25 ล้านคน โดยประเทศอันดับต้นๆ ที่เดินทางมาไทย ได้แก่ มาเลเซีย อินเดีย สิงค์โปร์ จีน โดยเฉพาะอินเดีย ซึ่งนิยมมาท่องเที่ยว และจัดงานแต่งงานที่ประเทศไทย คาดว่าจะสร้างรายได้ถึง 2.1 ล้านล้านบาท ดังนั้นนายกฯได้เน้นย้ำว่า เป็นการเปิดรับนักท่องเที่ยวอย่างระมัดระวัง นายกรัฐมนตรี ขอบคุณ รองนายกฯและ รัฐมนตรีที่ไปต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาไทยวานนี้ด้วย

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นอกจากนี้ นายกฯยังเป็นห่วง ปัญหาการขาดแคลนมัคคุเทศก์ รวมทั้งแรงงานในภาคการท่องเที่ยวและบริการ และเงินทุนในการฟื้นฟูสถานประกอบการ ให้ทุกฝ่ายเข้าไปช่วยดูแล และส่งเสริมให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนด้วย

ในที่ประชุม ครม. นายกฯได้ขอบคุณ ครม. ในการทำงานร่วมกันแก้ปัญหา ร่วมกันทำงานเพื่อความยั่งยืน ซึ่งการลงพื้นที่ล่าสุดไปสิงห์บุรี ในโครงการ “ข้าวรักษ์โลก” ซึ่งได้มีการดำเนินงานไปกว่า 10 จังหวัด โดยเป็นนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการทำการเกษตร ขอให้กรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ช่วยกันส่งเสริมการทำการเกษตรทันสมัย smart farmer /เกษตรแปลงใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ให้ทุกกระทรวงช่วยกันขับเคลื่อน BCG ทำการเกษตรที่เหมาะสมกับทุกพื้นที่ สอดคล้องกับการบริหารจัดการน้ำ รวมทั้ง ให้เกิดช่องว่างระหว่างต้นทุนและราคาขายให้มากเพิ่มชึ้น

 

และนายกรัฐมนตรี ยังขอให้ส่วนราชการช่วยกันดูแลแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่ยังมีผลกระทบอยู่ใน 2 จังหวัด คือ ยะลา ปัตตานี รวมทั้งช่วยเหลือเยียวยา ผลกระทบด้านการเกษตร ซึ่งขอให้ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งประเมินเพื่อให้ความช่วยเหลือ เยียวยา

อีกทั้งนายกรัฐมนตรี ยังเร่งกำชับในการกำกับติดตาม ปราบปราม ปัญหา สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ให้จับตาเฝ้าระวัง ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยได้ดำเนินการปราบปรามทำลายมาเป็นอย่างดี เพื่อคงภาพลักษณ์ของไทยในสากล

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น