ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องติดตาม สำหรับปัญหาภาระหนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียวกว่า 4 หมื่นล้านบาท ที่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีแนวทางการแก้ไขที่ชัดเจนจากภาครัฐ และกทม. จนทำให้เกิดคำถามว่า บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ในฐานะภาคเอกชน จะทนแบกรับภาระหนี้สะสมไปได้นานแค่ไหน ภายใต้ความรับผิดชอบต่อประชาชนผู้ใช้บริการหลายแสนคนต่อวัน
ล่าสุด วันนี้(11 ม.ค.66) นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ได้ให้สัมภาษณ์ทีมข่าว TOPNEWS ถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ว่า สำหรับภาระหนี้โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ขณะนี้อยู่ที่กว่า 40,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ในส่วนของสัญญาจ้างเดินรถที่มีด้วยกัน 2 สัญญา คือ ส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 รวมเป็นเงินกว่า 2 หมื่นล้านบาท และ ในส่วนของค่าติดตั้งงานระบบไฟฟ้าและเครื่องกลที่ 20,000 ล้านบาท
โดยในส่วนของสัญญาจ้างเดินรถนั้น ทาง BTSC ได้มีการยื่นฟ้องศาลปกครองกลางไปเมื่อประมาณปี 2564 และศาลปกครองกลางได้มีการตัดสินให้กรุงเทพมหานครและกรุงเทพธนาคม ร่วมกันชำระหนี้ก้อนดังกล่าว แม้ภาระหนี้จะอยู่ที่ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท แต่ในส่วนของอัตราดอกเบี้ยพบว่ายังคงเดินอยู่ทุกวัน ซึ่งในส่วนของภาระหนี้ดังกล่าวในวันที่มีการยื่นฟ้อง คือ เดือน พ.ค. 62 ถึงเดือน พ.ค. 64 และยื่นฟ้องในเดือน ก.ค. 64 วงเงินอยู่ที่ประมาณ 12,000 ล้านบาท จวบจนมาถึงปัจจุบันนี้ ( ม.ค.66) และเมื่อเดือน พ.ย. 65 ทางด้าน BTSC ได้มีการยื่นฟ้องเพิ่ม ซึ่งการยื่นฟ้องดังกล่าวถือเป็นหน้าที่ของบริษัท เพราะเมื่อมียอดหนี้เพิ่มขึ้นมา บริษัทมีหน้าที่ต่อผู้ถือหุ้น ที่จะต้องทวงถามหนี้ และเมื่อทวงถามไม่ได้ จึงจำเป็นที่จะต้องยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง โดยการยื่นฟ้องครั้งนี้มียอดเงินอยู่ที่กว่า 1.1 หมื่นล้านบาท จากสัญญาค่าจ้างเดินรถของส่วนต่อขยายที่ 1 และ ส่วนต่อขยายที่ 2