“นอท สลากพลัส” เปิดใจ แจงปมเอี่ยวขบวนการฟอกเงิน จ่อส่งหลักฐานเพิ่ม DSI อีก

“นอท สลากพลัส” เปิดใจ แจงปมเอี่ยวขบวนการฟอกเงิน จ่อส่งหลักฐานเพิ่ม DSI อีก

13 ม.ค. 2566 ที่อาคาร เอส.เอส.พี. ทาวเวอร์ 1 นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท กองสลากพลัส แถลงถึงถูกเจ้าหน้าที่ DSI ออกหมายเรียกชี้แจง เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับขบวนการฟอกเงิน ว่า มีหมายเรียกพยานจาก DSI ให้ไปชี้แจงว่ามีเงินจากแก๊งฟอกเงินโอนเข้าบัญชีของตน หลังจากมีการจับกุมขบวนการฟอกเงินเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 65 ซึ่งวันนี้ตนได้เดินทางไปที่ห้องสอบสวนคดียาเสพติด ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เพื่อไปให้การในฐานะพยาน เนื่องจากมีเงินโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวของตน 2 ยอด คือ 42 ล้าน และ 11 ล้าน รวมเป็น 53 ล้าน ในวันที่ 10 ส.ค.64 นอกจากนี้ทาง DSI จะมีการสอบอีก 39 รายการที่โอนเข้าบัญชีตน ซึ่งเป็นยอดเงินจำนวนมาก จึงอยากให้มีการชี้แจง

 

 

 

โดยนอท ระบุว่า เงินในส่วนนี้มาจากหลายส่วน ทั้งเงินส่วนตัว ของบริษัท ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ต้องการหลักฐาน โดยให้เตรียมเอกสาร 2 สัปดาห์ และตนจะนำหลักฐานไปชี้แจงอีกครั้งภายในสิ้นเดือนม.ค. นี้ อย่างไรก็ตาม DSI โดยทางอธิบดี จะลงมาตรวจสอบคลังเก็บลอตเตอรี่ และสำนักงานกองสลากพลัส 16 ม.ค. นี้ ซึ่งในส่วนสำนักงานฯ มีการมาตรวจสอบของสตช. 2 ครั้ง ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้แต่อย่างไร

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้นอท กล่าวอีกว่า จำนวนเงินก้อนดังกล่าวที่โอนเข้าบัญชีตน เป็นเพียงความบังเอิญ เพราะเป็นเงินที่ถูกโอนมาจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพราะตนมอบอำนาจให้(นายอ.) ไปขึ้นรางวัลสลากและโอนให้ตน หลังจากที่ได้พบกับ(นายอ.) ในช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2564 ตนกำลังหาทุน และเขามีความสนใจ รวมถึงเข้ามาทดลองระบบ และต้องการรู้ขั้นตอนการขึ้นเงินอย่างไร ตนจึงได้มอบอำนาจให้(นายอ.) นำสลากไปขึ้นเงิน และก่อนจะมีการโอนเงินกลับมาให้ตน แต่หลังจากนั้นมีการคุยกันอีกครั้งแต่ไปกันไม่ได้ เพราะตนต้องการแค่เงินกู้ แต่เขาอยากเป็นหุ้นส่วน ก่อนที่จะรู้จัก(นายอ.) ตนไม่ได้มีการตรวจสอบประวัติ และไม่สามารถที่จะไปถามเขาว่ามีส่วนพัวพันกับยาเสพติดหรือไม่ แต่โชคดีที่จบกันตรงนั้น และยืนยันว่า(นายอ.)เป็นคนไม่มีสี

“ในตอนนั้นตนต้องการเงินทุนในการทำธุรกิจ ซึ่งตอนนั้นมีคนแนะนำว่า (นายอ.) มีเงิน ซึ่งตนไม่ได้มีการสืบประวัติ เพราะต้องการเงินทุน มีการเจอกัน 1 ครั้ง คุยกัน 2 ชั่วโมง ซึ่งเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2564 ซึ่งขณะนั้นตนขายลอตเตอรี่ได้ 1.4 ล้านใบ ใช้เงินประมาณ 100 ล้านบาท ทำให้ต้องหายืมเงินมาจัดซื้อลอตเตอรี่ และก่อนหน้านี้ตนไม่มีแก้สิน แต่ตอนนี้มีหนี้ประมาณกว่า 1,000 ล้าน และยืนยันว่าตอนนี้ตนเป็นเจ้าของคนเดียวของสลากพลัส ถือหุ้น 94 % อีก 6% เป็นพนักงาน 3 คน ที่ทำงานกับตนมาตั้งแต่แรก”

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าเรื่องนี้มีเบื้องหน้า เบื้องหลังหรือไม่ นอท กล่าวว่า คงไม่มี เพราะดีเอสไอมีการสืบเรื่องหมายหลายเดือน ตั้งแต่กลางปี 65 แล้ว ซึ่งเชื่อว่าไม่มีอำนาจทางการเมืองเข้ามาแทรกแซงอย่างแน่นอน และตนถูกเรียกไปสอบในฐานะพยานเท่านั้น และทราบว่าจะต้องมีการเรียกอีก 6-7 ราย

ส่วนก่อนหน้านี้นายกฯ สั่งสอบเส้นทางการเงินนั้น คิดว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนายกฯ เช่นกัน และหลังจากนี้คนที่จะเข้ามาร่วมธุรกิจกับตนจะต้องมีการตรวจสอบมากขึ้น เพราะตนขนลุกไปหมดแล้ว เพราะเราไม่รู้ว่าแต่ละคนเป็นอย่างไร หน้าฉากเป็นอย่างหนึ่งลับหลังเป็นอย่างหนึ่ง นอกจากนี้เชื่อว่าไม่กระทบกับธุรกิจแน่นอน และทุกคนเขาคงไม่ได้ตัดสินตนแต่แรก เขารอความจริงปรากฏ เพราะส่วนใหญ่หากมีอะไรตนจะแถลงในทันที แต่เรื่องนี้ตนรอมา 2 อาทิตย์ เพื่อให้ชัดเจนก่อนที่จะแถลงข่าว

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน
สถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองฯ ชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว
ผบ.ตร.สั่งสอบคลิปแก๊งต่างด้าว แสดงพฤติกรรมเย้ยกม. กำชับคุมเข้ม ใช้ยาแรง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น