เป็นธรรมดาที่ใกล้ช่วงเลือกตั้ง แต่ละพรรคการเมืองจะต้องออกมาแสดงจุดยืนทางการเมืองของตัวเอง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นและสร้างคะแนนนิยมให้กับพรรคของตัวเอง เลือกตั้งเที่ยวนี้ก็เช่นกัน อย่างที่รู้ว่าการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในเวลาอันใกล้อีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ก๊วน ๓ ป.บูรพาพยัคฆ์ที่เคยแพคกันมานาน ๘ ปี มีอันต้องยุติบทบาทแยกทางกัน ซึ่งเกิดจากความขัดแย้งภายในระหว่างพี่น้อง ๓ ป. ที่ประกอบด้วย “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ “บิ๊กป็อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา มท.๑ และ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ แม้จะมีความพยายามเอาใจช่วยจากหลายฝ่ายเพื่อให้ ๓ ป.ยังคงสามัคคีเป็นทองแผ่นเดียวกันเหมือนในอดีต แต่ดูเหมือนทั้ง ๓ ป. จะหลีกหนีสัจธรรมบนโลกใบนี้ไม่พ้น ว่าอำนาจบารมีที่หวานหอมมักทำให้คนที่เคยรักแตกหักกันได้เสมอ แม้กระทั่ง ๓ ป. “ป้อม-ป๊อก-ตู่” ที่รักกันดูดดื่มหวานชื่นร่วมเป็นร่วมตายร่วมรบกันมากว่า ๔๐-๕๐ ปี ก็หนีความจริงนี้ไปไม่พ้น ต่างฝ่ายต่างออกมาโทษมึงโทษกูว่าเป็นต้นเหตุของการแตกแยก
ฝ่ายบิ๊กตู่ก็บอกว่าพรรคปลังประชารัฐ (พปชร.) จะไม่เสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ เพราะเลือกตั้งรอบหน้าจะเสนอชื่อหัวหน้าพรรคของตัวเองลงแข่ง ตนเองเลยต้องหาทางออกเลือกทางไปให้กับตัวเอง ด้านลุงป้อมก็ออกมาเปิดใจว่าถูกบิ๊กตู่ทิ้งไป เพราะน้องเล็กแสดงจุดยืนทางการเมือง ๙ ม.ค.๒๕๖๖ ว่าจะแยกทางจากพปชร.ที่เคยสนับสนุนเป็นนายกฯ เพื่อไปร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) ๒ พี่น้องโยนกันไปมา ปล่อยให้แฟนคลับกับคนไทยที่เอาใจช่วยพากันงง มีปัญหาทำไมไม่พูดกันให้จบเคลียร์กันให้ลงตัว แยกทางกันเดินแบบนี้มีแต่เข้าทางฝ่ายกินบ้านโกงเมือง พวกล้มเจ้าฝ่ายเกลียดชังสถาบันก็นั่งยิ้ม เพราะ ๒ ขุนพลใหญ่เกิดทะเลาะแยกทางกันเอง หรือผลประโยชน์ความโลภมันเข้าตาจึงหาทางออกกันไม่ได้ แต่ก็เอาเถอะมาถึงวันนี้ก็ชัดเจนว่า ๓ ป. ต่างคนต่างไป ลุงป้อมไปต่อกับพปชร. บิ๊กป๊อกไม่ไหวขอกลับบ้าน บิ๊กตู่แยกทางไปกับรทสช.
ขั้วการเมือง ๓ ป.บูรพาพยัคฆ์ที่เคยยิ่งใหญ่เป็นแกนนำรัฐบาลยาวนาน ๘ ปี ถึงเวลาแยกทางต่างตนต่างไป จากเดิมที่พปชร.เคยเป็นพรรคใหญ่อันดับ ๒ มีส.ส.ถึง ๑๑๖ คนจากการเลือกตั้งรอบที่แล้ว มางวดนี้ต้องแตกออกเป็น ๒ พรรค ขั้วการเมืองใหญ่ที่พร้อมจะเป็นรัฐบาลจากที่เคยมี ๒ ขั้วคือ ๑.ขั้วพรรคเพื่อไทย(พท.)ฝ่ายทักษิณ ๒.ขั้ว ๓ ป.บูรพาพยัคฆ์ ตอนนี้ก็เลยมีขั้วที่๓ ผุดขึ้นมาเป็นทางเลือกใหม่ให้กับคนไทยคือขั้วพรรคภูมิใจไทย(ภท.)ของ”เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล ภายใต้การกำกับของ “ครูใหญ่เน” เนวิน ชิดชอบ เที่ยวนี้ภท.หวังสูงเป็นอย่างมาก เพราะองค์ประกอบในมือ กระสุน กระแส บุคลากรมีพร้อมสรรพ อดีตเลือกตั้งรอบที่แล้วได้ส.ส.มา ๕๑ คน อยู่ไปอยู่มามี “งูเห่า-งูฝาก” จากพรรคอื่นขอเข้ามาร่วมพรรค ขอเข้ามาสวามิภักดิ์ด้วย จากห้าสิบกว่าๆตอนนี้ส.ส.ในพรรคขยับขึ้นมาเป็น ๖๒ คนแล้ว แถมล่าสุดยังจัดเปิดตัว ๓๔ ส.ส.จาก ๙ พรรคการเมืองที่ทยอยลาออกมาอยู่กับภท. ล่าสุดก็มีกรณีทาบทาม “เสี่ยบี” พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตแกนนำพปชร.ที่หอบ ๕ ส.ส.กรุงเทพของพปชร.มาอยู่กับภท.ทั้งหมด หวังปักหมุดเอาส.ส.ขึ้นเหยียบแผ่นดินเมืองหลวงให้ได้ แถมอนาคตยังมีแนวโน้มว่ามีส.ส.อีกหลายพรรคจะทยอยมาร่วมก๊วนพรรคสีน้ำเงินสายสีเขียวอีก
ภท.ยามนี้กำลังขึ้นหม้อเฟื่องฟูสุดๆ เลือกตั้งรอบหน้ามีลุ้นได้ส.ส.เกิน ๑๐๐ คน ขณะที่เนวินเคยประกาศอยากได้สัก ๑๒๐ คน เพราะเหตุที่มุ่งหวังอยากเป็นพรรคการเมืองขั้วใหม่ อยากเป็นพรรคใหญ่ระดับประเทศ ตั้งเป้าเลือกตั้งเที่ยวนี้จะเป็นคู่เทียบกับพท. มีลุ้นชิงนายกฯกับ “พปชร.-รทสช” ของพี่น้อง ๒ ป. จึงไม่แปลกที่คู่หู “เสี่ยหนู-ครูใหญ่เน” จะออกมาป่าวประกาศสลายขั้วการเมือง ไม่ทะเลาะไม่ขัดแย้งกับใคร ก่อนหน้านี้เนวินออกมาให้สัมภาษณ์ทีวีช่องหนึ่งในทำนองว่าเลือกตั้งเที่ยวหน้า ภท.ไม่มีขั้วไม่มีฝ่ายไม่มีสี ย้ำชัดๆว่า “การเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร” อนุทินกับทักษิณไม่ได้ขัดแย้งทะเลาะกัน แถมปัจจุบันทั้ง ๒ พรรคก็เปลี่ยนแกนนำผลัดใบผู้บริหารเก่าไปหมดแล้ว ถึงเวลาที่ทุกฝ่ายจะต้องลืมควมขัดแย้งไปให้หมด ฝ่ายอนุทินก็ออกมาสำทับว่า ภท.ไม่ได้เป็นขั้ว เราแค่ทำงานของเรา มีนโยบายอะไรที่ให้ไว้กับประชาชนก็ต้องทำ ได้รับมอบหมายงานอะไรก็ต้องทำให้ดี เรื่องขั้ว เรื่องข้าง ต้องเลิก การสลายขั้วเกิดขึ้นได้ ถ้าผู้บริหารประเทศรับฟังและประนีประนอม มีเป้าหมายจะทำงานไปข้างหน้า “เราอยากดึงมือคนไทยออกจากกองไฟ เป็นแนวทางของพรรค….ถ้าใครมองว่าความขัดแย้ง มันไม่ได้นำไปสู่ความสำเร็จความก้าวหน้า และยิ่งถ้ามองว่าความสามัคคี คือ เส้นทางสู่ความเจริญรุ่งเรือง ผมมั่นใจว่าพรรคภูมิใจไทย น่าจะอยู่ในใจท่าน” เสี่ยหนูระบุ
เสี่ยหนูครูใหญ่เนประสานเสียงแบะท่าอ้าขาออกมาแบบนี้ คิดได้อย่างเดียวคือหวังเปิดออปชั่นตั้งรัฐบาลให้กับภท.เพิ่มโอกาสเป็นนายกฯให้กับตัวเอง อย่าลืมว่าต่อให้ภท.ได้ส.ส.๑๐๐ คนก็ไม่มีทางตั้งรัฐบาลได้ ต้องหาแนวร่วมให้ได้เกิน ๒๕๐ คน ถึงจะเป็นเสียงข้างมากในการตั้งรัฐบาล เพราะฉะนั้นเมื่อรู้แล้วว่าจะเป็นนายกฯหรือตั้งรัฐบาลด้วยตัวเองไม่ได้ต้องยืมจมูกคนอื่นหายใจ ภท.จึงต้องเปิดทางเลือกหาพวกให้กับตัวเองไว้แต่เนิ่นๆ ขั้วพปชร.กับ รทสช.อาจได้ส.ส.ไม่มากแต่มีส.ว. ๒๕๐ คนในมือ ขณะที่ขั้วพท.กับฝ่ายค้านมีส.ส.ครึ่งสภาราว ๒๕๐ คน เป็นฐาน ไม่แปลกที่อนุทินกับเนววินรีบออกมาพูดสลายขั้ว เพราะจับปลาสองมือยังไงก็มีโอกาสมากกว่าจับปลามือเดียว แม้จะถูกตราหน้าว่าเหยียบเรือสองแคมแต่ชั่วโมงนี้ด้านได้อายอด จะมาจับมือรักษาสัญญาใจกับขั้วพรรคร่วมรัฐบาลเดิมปิดโอกาสตัวเองขึ้นเป็นใหญ่ให้โง่ทำไมในเมื่อโอกาสของภท.ที่จะสร้างประวัติศาตร์มีนายกฯคนแรกเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลมาถึงแล้ว สู้ประกาศไม่ทะเลาะไม่ขัดแย้งใครวางจุดยืนไว้แบบนี้มีโอกาสมากกว่า
ภท.วางหมากแบบนี้อาจเป็นประโยชน์กับพรรคพวกตัวเองและอนาคตของพรรค แต่กับคนไทยที่ตามการเมืองอยู่กับชาวบ้านที่รักเทิดทูนสถาบันฟังดูแล้วมันพรือโฉ่ อย่าลืมว่าก่อนหน้านี้ตอนร่วมรัฐบาลอนุทินแกนนำภท.ออกตัวแรงเรื่องปกป้องสถาบัน เสี่ยหนูถึงขนาดเคยประกาศว่าจะไม่จับมือกับพวกล้มเจ้าพรรคที่โจมตีสถาบัน ถึงขนาดเอ่ยชื่อพรรคก้าวไกลออกมาเลย ไม่เชื่อไปย้อนข้อมูลดูได้เพราะพูดหลายรอบประกาศหลายหน ฝ่ายเนวินก็ออกโรงหัวใจสีน้ำเงินรักปกป้องสถาบัน เวลาผ่านไปไม่นานการเมืองกำลังจะเปลี่ยนขั้ว ๓ ป.แตกแยกบูรพาพยัคฆ์กำลังจะเพลี้ยงพล้ำ จู่ๆวันดีคืนดีอนุทินเนวินดันออกมาประกาศสลายขั้วการเมืองขอทุกฝ่ายลืมความขัดแย้ง พูดมนุษย์ไม่รับประทานแบบนี้ออกมาได้ไง ตอนเป็นรัฐบาลกับบิ๊กตู่ชูจุดยืนแข็งโป๊ก พอตอนนี้่พล.อ.ประยุทธ์ ๓ ป.จะหมดอำนาจ อนุทินกับเนวินอ่อนระทวยเปลี่ยนจุดยืนแบบ ๓๖๐ องศาแบบนี้ได้ไง ออกมาพูดให้ลืมความขัดแย้งให้สลายขั้ว ถามกลับตรงๆแสดงว่าเลือกตั้งรอบหน้าจบพร้อมจับมือกับพท.ตั้งรัฐบาล จะร่วมทำงานกับกก.ใช่ไหม พวกล้มเจ้าฝ่ายชังชาติก๊วนล้มล้างสถาบันอย่างกก. ภท.ก็สามารถทำงานร่วมกันได้ใช่ไหม อย่ามาทำพูดหล่อๆอย่ามาหลอกประชาชน พูดมาให้ชัดเลยว่าภท.พร้อมจับมือทำงานกับ “พท.-กก” คนไทยที่รักชาติคนไทยที่เทิดทูนสถาบันจะได้ตาสว่างจะได้กากบาทได้ง่ายๆว่าจะเลือกใคร พูดจาหล่อๆการเมืองอนาคตต้องไม่มีขั้วไม่มีข้างไม่แบ่งสี ของจริงความจริงมันไม่มีหรอกแบบนั้น อยากเป็นสถาบันการเมืองอยากเป็นพรรคใหญ่ในวงการหลักชัยจุดยืนภท.ต้องแสดงให้ชัด ทำตัวเป็นอีแอบลักปิดลักเปิดเดี๋ยวเทิดทูนเดี๋ยวลิงหลอกเจ้า ระวังจะเสื่อมทรุดคนไทยจะไม่เอา อนุทินเนวินพูดมาให้ชัดๆเลย เลือกตั้งกำลังจะมาถึงคนไทยจะได้ตัดสินใจถูกว่าจะเลือกใคร
///////////////////