ติดตามต่อเนื่องจากกรณี กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ออกหมายเรียก นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ “นอท กองสลากพลัส” เข้าให้ปากคำ เนื่องจากคณะพนักงานสอบสวน ศูนย์คดียาเสพติด ตรวจพบพยานหลักฐานปรากฏว่าบัญชีธนาคารของ นายพันธ์ธวัช มีการรับเงินจำนวนหลายสิบล้านบาทจากขบวนการฟอกเงิน ซึ่งเป็นผู้ต้องหารายสำคัญที่ดีเอสไอจับกุมตัวได้เมื่อเดือน ธ.ค.2565 ที่ผ่านมา
และทางด้าน นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีดีเอสไอ ยืนยันว่า มีการตรวจพบเงินจำนวน 42 ล้านบาท ถูกโอนเข้าบัญชีส่วนตัว นอท กองสลากพลัสและเป็น 1 ใน 7 บุคคลออกหมายเรียก แต่ยังขอเลื่อนเข้าพบดีเอสไอ รวมถึงจะต้องมีการตรวจสอบว่ามีการโอนเงินออกไปสู่บัญชีอื่นด้วยหรือไม่ เนื่องจากมีอีก 39 เส้นทางการเงิน มูลค่ากว่า 1,100 ล้านบาท ที่ นอท กองสลากพลัส ต้องชี้แจงภายในสองสัปดาห์ และต้องส่งเอกสารเพิ่มเติม ว่าเป็นเงินลงทุน เงินหมุนเวียน ผู้โอนมีความสัมพันธ์อย่างไร ซึ่งจะเชื่อมโยงกับขบวนการยาเสพติดหรือไม่ เพราะยอดเงินที่ปรากฏเข้ามาระหว่างการทำธุรกิจกองสลากพลัส
ขณะที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ได้แสดงความคิดผ่านรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ถึงเบื้องหลังการดำเนินธุรกิจสลากออนไลน์ของนายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ “นอท กองสลากพลัส” ใจความสำคัญตอนหนึ่ง ระบุถึงข้อสงสัยเรื่องแหล่งที่มาเงินทุนหลายพันล้านบาท ในการนำมาใช้จ่ายหมุนเวียนจัดซื้อสลากฯเพื่อนำมาจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ มูลค่าต่องวดกว่า 1,300-1,400 ล้านบาท ว่า ถ้าวิธีการบริหารการเงินในการไล่ซื้อสลากในแต่ละงวดหมุนเงินประมาณ 2 รอบ ต้องมีเงินอย่างน้อย 600-700 ล้านบาท ในการซื้อสลากมา แล้วเอาเงินสดที่ได้จากการขายให้ลูกค้ามาซื้อสลากอีกรอบหนึ่ง คำถามคือเงิน 600-700 ล้านบาทมาจากไหน
เพราะไทม์ไลน์ก่อนหน้าจะถูกดีเอสไอออกหมายเรียก “นอท พันธ์ธวัช” อ้างว่าเงินลงทุนมาจากการกู้ยืมคนอื่นมาทั้งหมด ไม่มีเงินตัวเองเลย และเงิน 600-700 ล้านบาทต่องวดนี้ ไม่ได้กู้มาจากระบบธนาคาร หรือระบบการเงินปกติ แต่เป็นการกู้ยืมแบบทำสัญญาเงินกู้กับ บุคคล หรือ นิติบุคคลที่ที่ไว้ใจในตัว “นอท พันธ์ธวัช” และต้องไว้ใจอย่างมากด้วย เพราะเงินจำนวนหลายร้อยล้านบาทนั้นถือว่ามีมูลค่ามหาศาล
นอกจากนี้ นายสนธิ ยังระบุถึงข้อสังเกตุเรื่องเอกสารสัญญาร่วมลงทุนและค้ำประกัน ระหว่าง “บริษัท ไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด” กับ “บริษัท ลอตเตอรี่ ออนไลน์ จำกัด”
เนื่องจากบริษัท ไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด เป็นของ นายแทนไท ณรงค์กูล เด็กหนุ่มวัย 26 ปี ซึ่งใน ปี 2563 เคยถูกจับข้อหาเปิดเว็บพนันฟุตบอลที่มีเงินหมุนเวียนเป็นหมื่นล้านบาทแต่กลับหลุดคดีอย่างปาฏิหาริย์ โดยทุกวันนี้ก็ยังร่ำรวยมีเงินเป็นพันล้านบาท จนสามารถนำเงินไปหว่านประมูลซื้อทะเบียนรถเลขสวยได้ในราคากว่า 45 ล้านบาท
ทั้งยังเป็นเจ้าของตัวจริงของ บริษัทไททันฯ ซึ่งในระยะเวลาไม่ถึงปี คือในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – กันยายน 2565 หรือ เพียง 7-8 เดือน สามารถเพิ่มทุน บริษัท ไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด จาก 5 ล้านเป็น 900 ล้านบาทมาได้แบบน่าอัศจรรย์
“ตนไม่ได้กล่าวหา หรือ ทึกทักไปเองแต่หากลองเชื่อมโยงเส้นเวลา หรือ Timeline การก่อตั้งและเพิ่มทุนของ บริษัทไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ของนายแทนไท ในช่วงปี 2565 กับ การผงาดขึ้นมาของแพลตฟอร์ม กองสลากพลัส ของนายนอท พันธ์ธวัช ในห้วงเวลาเดียวกัน ก็จะพบว่ามีความสอดคล้องกันอย่างมีนัยสำคัญ”
กล่าวคือ บริษัท ลอตเตอรี่ ออนไลน์ จำกัด ก่อตั้งเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2563 ปลายปี 2564 ฉลองครบรอบ 1 ปี ประกาศจับมือร่วมกันทำงานระหว่าง บริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด กับ บริษัท เนรมิตรหนังฟิล์ม จำกัด (บริษัทในเครือไททันฯ) เพื่อทำโปรเจ็กต์ใหม่ๆ
ตั้งแต่เดือนมีนาคม – เมษายน 2565 มีชื่อเสียงโด่งดัง โดยสามารถยึดตลาดหวยออนไลน์มาจาก “มังกรฟ้า” ผงาดขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในตลาดหวยออนไลน์ได้อย่างเต็มตัว โดยมียอดขายเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจากหลักแสน เป็นหลักล้าน หลักสิบล้าน หลักร้อยล้าน หลักพันล้านบาท
ขณะที่การเติบโตของ บริษัทไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท วันที่ 1 มีนาคม 2565 เพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 500 ล้านบาท เป็น 505 ล้านบาท วันที่ 12 กันยายน 2565 เพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 395 ล้านบาท เป็น 900 ล้านบาท
จึงมีข้อสังเกตว่า สิ่งที่นายพันธ์ธวัช และนายแทนไททำนั้นมีประเด็นที่ต้องนำไปชี้แจงเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ว่าจะกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ), สำนักงานปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.), รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ทั้งหลายที่กำลังจับตาดูอยู่อย่างใกล้ชิด