ทวนความจำ เปิดคดี “ทักษิณ” ต้องติดคุก หลัง “อุ๊งอิ๊ง” ประกาศจะพาพ่อกลับบ้าน บนเวทีปราศรัยอุดรฯ

คดีที่ 3 คดีให้บุคคลอื่นหรือนอมินี ถือหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) แทน โดยบริษัท ชินคอร์ปฯ เป็นคู่สัญญาต่อหน่วยงานของรัฐ เพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นในกิจการโทรคมนาคม ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุกนายทักษิณ เป็นเวลา 5 ปี ไม่รอลงอาญา

รวม 3 คดี นายทักษิณโดนโทษจำคุกรวม 10 ปี และขณะนี้ยังมีคดีการอนุมัติสั่งซื้อเครื่องบินแบบ A340-500 และ A340-600 ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ระหว่างปี 2545-2547 ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาของป.ป.ช. โดยปรากฏชื่อของนายทักษิณ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายพิเชษฐ สถิรชวาล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นผู้ถูกกล่าวหาร่วมกับ นายทนง พิทยะ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และนายกนก อภิรดี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)

ดังนั้นเราทราบกันดีกว่า นายทักษิณคงไม่เลือกกลับด้วยวิธีปกติอย่างแน่นอน เพราะกลับมาก็ต้องติดคุกชดใช้กรรม เห็นได้จากในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่เคยพยายามออกกฏหมายนิรโทษกรรมสุดซอยล้างผิดตอนตีสี่ ฉะนั้นรอบนี้นายทักษิณจึงฝากความหวังไว้ที่พรรคเพื่อไทยจะต้องชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ เพื่อให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมากแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดอักครั้ง จะได้ทำในสิ่งที่ตนเองต้องการ

ทั้งนี้เรามาดูกันว่า นอกจากวิธีออกกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอยแล้ว นายทักษิณยังมีวิธีใดอีกบ้าง ที่จะทำให้ตัวเองกลับบ้านแบบเท่ห์ๆ

วิธีที่ 1 ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้พิจารณาคดีใหม่ ตาม พ.ร.บ.การรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ พ.ศ.2526 แต่ก็ไม่ง่าย เพราะต้องมีข้อเท็จจริงใหม่ หากไม่มีก็รื้อฟื้นไม่ได้

วิธีที่ 2 ออกกฏหมายนิรโทษกรรมสุดซอย แต่ก็ต้องวัดใจนายทักษิณและลิ่วล้อจะกล้าทำหรือไม่ เพราะไม่เช่นนั้นนางสาวแพทองธารอาจมีชะตากรรมเดียวกับน้าสาว